อนันดาฯเดินหน้าผุด5คอนโดฯร่วมทุนมิตซุยฯปี58-59

Kanchana Paha26 พ.ค. 2558

อนันดาฯ จับมือมิตซุยฯ เดินหน้าผุดคอนโดฯ ร่วมทุนเพิ่มอีก 5 โครงการ ปักหมุด 5 สถานีรถไฟฟ้าเริ่มทยอยเปิดตั้งแต่ Q3

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่านับตั้งแต่บริษัทได้บรรลุข้อตกลงการร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวรถไฟฟ้าในประเทศไทยกับยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่นอย่าง บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง เรสซิเด็นเชียล จำกัด (MFR) ในปี 2555 ภายใต้ชื่อบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย จำกัด (Ananda MF Asia) และได้ร่วมพัฒนาคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ภายใน 2 ปี รวมกว่า 4,100 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 26,000 ล้านบาท ล่าสุด ทั้งสองบริษัทได้ประกาศเดินหน้าพัฒนาร่วมกันเพิ่มอีก 5 โครงการในปี 2558 รวมกว่า 4,200 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 19,000 ล้านบาท โดยยังคงคอนเซ็ปต์โครงการคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้าทั้งในสายปัจจุบันและอนาคต


Ananda Press Conference in Japan

ในการร่วมทุนในครั้งนี้ ทั้งสองบริษัทจะถือครองหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 49: 49 และนักลงทุนรายย่อยถือครองอีกร้อยละ 2 โดยอนันดาฯ จะรับหน้าที่หลักในการบริหารงานโครงการทั้งหมด และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารร่วมกันระหว่างทั้งสองบริษัทฝ่ายละ 3 คนเพื่อร่วมตัดสินใจและอนุมัติค่าใช้จ่ายและการลงทุนต่างๆ

สำหรับ 5 โครงการที่จะเดินหน้าพัฒนาภายใต้การร่วมทุนครั้งล่าสุดนี้ ประกอบด้วย โครงการคิว ชิดลม-เพชรบุรี ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ความสูง 40 ชั้น ใกล้สถานีบีทีเอสชิดลม 650 เมตร จำนวน 359 ยูนิต โดยจะเปิดพรีเซลในไตรมาสที่ 2-ต้นไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ส่วนอีก 4 โครงการจะปักหมุดในทำเลสีลม, บางนาและบางซื่อ ซึ่งจะเริ่มเปิดจองในช่วงไตรมาส 4 และปิดท้ายด้วยโครงการในทำเลท่าพระ ช่วงไตรมาส 1 ปี 2559 โดยทุกโครงการมีที่ดินรองรับการพัฒนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ โครงการในสีลม นับเป็นโครงการที่น่าจับตา เนื่องจากย่านดังกล่าวไม่มีซัพพลายคอนโดมิเนียมใหม่เข้าสู่ตลาดมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะอยู่ใกล้กับบีทีเอสช่องนนทรี

“การร่วมทุนทางธุรกิจครั้งใหม่นี้ อนันดาฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างมิตซุย ฟูโดซัง มาเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการสนับสนุนทางธุรกิจซึ่งจากการร่วมทุนในโครงการที่ผ่านมาทำให้การขับเคลื่อนด้านกลยุทธ์ของบริษัทมีศักยภาพและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้และการบริหารจัดการโครงการของมิตซุยฯ ที่มีการสั่งสมประสบการณ์มากกว่า 340 ปี, ความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมการออกแบบ และเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง รวมถึงวิทยาการใหม่ๆ ที่ได้นำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับโครงการของเรา ด้วยจุดแข็งดังกล่าวของมิตซุยฯ ผมมั่นใจว่าจะช่วยส่งเสริมให้อนันดาฯ ก้าวสู่มาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับสากลมากยิ่งขึ้นตามที่ได้ตั้งใจไว้อย่างแน่นอน” นายชานนท์ กล่าว

ด้านนายอะกิฮิโกะ ฟูนาโอกะ ผู้บริหารจากบริษัท มิตซุย ฟูโดซัง จำกัด กล่าวว่าประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นตลาดที่น่าลงทุนมากที่สุด เพราะเป็นเมืองที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจ และด้วยแรงกระตุ้นจากภาครัฐบาลของไทยที่มีความมุ่งมั่นในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและมีแผนขยายการลงทุนรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายต่างๆ ในกรุงเทพฯ จาก 67 สถานีที่มีอยู่เป็น 222 สถานีในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งความชัดเจนดังกล่าวทำให้เกิดความต้องการที่อยู่อาศัยรอบสถานีใหม่เกิดขึ้น และด้วยแนวโน้มของการพัฒนาเมืองที่ขยายตัวออกไปส่งผลให้ภาพรวมของประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งกลุ่มมิตซุยมองเห็นถึงศักยภาพดังกล่าวนี้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความร่วมมือในการพัฒนาโครงการอสังหาฯในประเทศไทยกับทางอนันดาฯ ต่อไปในอนาคต

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com

อัพเดทข่าวในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ