ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับเศรษฐกิจในไทยและมาเลเซีย จากรายงานฉบับล่าสุดของฟิตช์ เรตติ้ง
จากตัวเลขอัตราหนี้สินภาคครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ณ สิ้นปีที่ผ่านมา พบว่าอยู่ในระดับที่สูง โดยอัตราหนี้สินภาคครัวเรือนของมาเลเซียอยู่ที่ระดับ 88% สูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามมาด้วยประเทศไทยที่ 86%
ปัจจัยที่ส่งผลให้หนี้สินภาคครัวเรือนของไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งมาจากการลดภาษีรถยนต์และที่อยู่อาศัย ส่วนระดับหนี้ครัวเรือนในมาเลเซียพุ่งสูงขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อที่เอื้ออำนวยในขณะที่ความต้องการสินเชื่อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการเติบโตของสินเชื่อภาคครัวเรือนในทั้งสองประเทศเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลงในช่วงปี 2557 ที่ผ่านมา โดยอัตราสินเชื่อครัวเรือนของไทยลดจาก 18% ในปี 2555 มาอยู่ที่ 6.5% ส่วนอัตราการเติบโตของหนี้ครัวเรือนในมาเลเซียลดจาก 13.9% มาอยู่ที่ 9.9% ซึ่งฟิทช์มองว่าการตัวเลขที่การเติบโตของหนี้ครัวเรือนที่ชะลอตัวลงนี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
หนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงนั้นส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง ทำให้มีการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นในธนาคารพาณิชย์บางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย โดยกลุ่มลูกหนี้ที่มีรายได้ต่ำเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงทั้งในไทยและมาเลเซีย
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่