พลัสฯ สบช่องทุนเอเชียไหลเข้าซื้ออสังหาฯ ในอเมริกาและยุโรปมากขึ้น เดินหน้าจับมือ 2 โบรกเกอร์ชั้นนำจากนิวยอร์กและลอนดอน นำลูกค้าไทยบุกตลาดต่างแดน
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่าเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ลงนามความร่วมมือในการเป็นพาร์ทเนอร์กับโบรกเกอร์ชั้นนำจากนิวยอร์ก คือ Corcoran Group Real Estate และจากลอนดอนคือ W H Baker เพื่อนำลูกค้าจากประเทศไทยไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนเป็นขยายโอกาสในการซื้อ-ขายหรือปล่อยเช่าไปยังลูกค้าต่างชาติในตลาดนิวยอร์กและลอนดอน
การร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากบริษัทมองว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กระแสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจในต่างประเทศของนักลงทุนไทยและเอเชียมีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี เห็นได้จากการที่นักลงทุนไทยมีการเข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทำเลทองของเมืองใหญ่โดยเฉพาะที่นิวยอร์กและกรุงลอนดอนที่มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นจำนวนมาก
“ความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการผนึกความแข็งแกร่งของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนไทยและเอเชีย ผนวกกับโบรกเกอร์เบอร์ 1 ของนิวยอร์กอย่าง Corcoran Group Real Estate และ W H Baker ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มเศรษฐีของลอนดอน โดยลูกค้าจะได้รับการดูแลแบบ One-Stop Service ตั้งแต่การซื้อจนย้ายเข้าอยู่ ตลอดจนการลงทุนไม่ว่าจะเป็นขายต่อหรือปล่อยเช่า ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนจะประสบปัญหาทั้งในเรื่องขั้นตอนการซื้อขายที่แตกต่างจากเมืองไทย ตลอดจนต้องใช้เวลานานในการติดต่อประสานงานไม่ว่าจะเป็นการดูแลอาคาร การปล่อยเช่า การหาผู้รับเหมา จะแยกงานกันทำ ทำให้ไม่สะดวกในการติดต่อ ซึ่งพันธมิตรของพลัสฯ สามารถจัดการเรื่องที่กล่าวมาทั้งหมดให้ได้” นายภูมิศักดิ์กล่าว
สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งในนิวยอร์กและลอนดอนนั้นพบว่าพื้นที่บนเกาะแมนฮัตตันของนิวยอร์กและในทำเลที่เด่นๆ ใจกลางกรุงลอนดอนนั้นล้วนมีความต้องการจากนักลงทุน ในขณะเดียวกันนักลงทุนต่างชาติเองก็สนใจอสังหาริมทรัพย์จากย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ ของกรุงเทพฯ
ส่วนพอร์ทลูกค้าชาวไทยที่เข้าไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในทั้งสองเมืองนั้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานไปศึกษาและมองหาโอกาสในการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าและขายต่อทำกำไรในอนาคต รวมทั้งเป็นกระจายความเสี่ยงทางด้านค่าเงินเพื่อไปครอบครองทรัพย์สินในสกุลเงินที่เป็นสกุลเงินหลักของโลกแทนที่จะลงทุนในประเทศเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ จากการสำรวจแนวโน้มราคาอสังหริมทรัพย์ในแมนฮัตตัน พบว่าราคาคอนโดมิเนียมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 40% ในช่วง 5 ปี ในขณะที่ซัพพลายที่มีอยู่ในตลาดใช้เวลาประมาณ 3 เดือนกว่าๆ ในการขาย ส่วนตลาดเช่ายังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง มีอัตราห้องว่าง 1.65% และห้องที่ปล่อยเช่าจะใช้เวลาเฉลี่ย 41 วันในการหาผู้เช่า
นายภูมิศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา พลัสฯ และแสนสิริ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ได้ทำการศึกษาตลาดเพื่อมองหาโอกาสในการนำลูกค้าไปลงทุนในต่างประเทศมาโดยตลอด แต่การร่วมมือกับโบรกเกอร์ทั้งสองรายในครั้งนี้จะเป็นการช่วยเหลือลูกค้าในการซื้อขายคอนโดมิเนียมที่มีเสนอขายอยู่ในตลาดทั้งหมดไม่จำกัดเฉพาะโครงการของแสนสิริ โดยคาดว่าจะเริ่มทำธุรกรรมซื้อขายภายใต้ความร่วมมือกับโบรกเกอร์ทั้งสองแห่งได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่