อนันดาฯ เตรียมขึ้นแท่นบริษัทอสังหาฯ แห่งแรกที่ออกตราสารเสมือนทุน มูลค่า 1,000 ล้านบาท หวังดึงความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบัน เริ่มจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท ในวันที่ 14 และ 17-18 สิงหาคม 2558 นี้
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะเดินหน้าบริหารโครงสร้างเงินทุนผ่านการเสนอขายตราสารเสมือนทุนครั้งที่ 1/2558 มูลค่าเสนอขายจำนวน 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 14 และ 17-18 สิงหาคม 2558 ซึ่งนับเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกที่สามารถออกตราสารเสมือนทุน ซึ่งถือเป็นรูปแบบใหม่ของเครื่องมือทางการเงินคือสามารถนับเป็นส่วนทุนได้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับผู้ถือหุ้น
“การเพิ่มฐานทุนนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสัดส่วนหุ้นและกำไรต่อหุ้น แม้ว่าอัตราผลตอบแทนต่อส่วนทุน (ROE) ของเราอาจลดลงชั่วคราวในช่วงของการใช้เงินที่ได้จากตราสารไปลงทุน อัตราผลตอบแทนต่อส่วนทุนจะดีขึ้นเมื่อโครงการที่เราลงทุนได้รับผลตอบแทนกลับมา และจะเพิ่มขึ้นอีกมากเมื่อตราสารดังกล่าวได้มีการขายคืน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้จะไม่เกิดขึ้นหากเป็นการเพิ่มทุนตามปกติ” นายชานนท์กล่าว
สำหรับการออกตราสารเสมือนทุนในครั้งนี้ถือเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักลงทุน โดยบริษัทจะเสนอขายให้กับกลุ่มผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยได้แต่งตั้งธนาคารกรุงไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย
“ความสำเร็จของการออกตราสารเสมือนทุนในครั้งนี้จะส่งผลดีทำให้สัดส่วนหนี้ต่อส่วนทุนลดลง สะท้อนถึงความเสี่ยงโดยรวมของบริษัทที่ลดลง และเงินทุนใหม่นี้จะช่วยสนับสนุนฐานะการเงินของบริษัท และเพิ่มการเติบโตของอนันดาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย”
ทั้งนี้ ความแตกต่างระหว่างตราสารหนี้ (หุ้นกู้หรือพันธบัตร) และตราสารทุน ตามที่เว็บไซต์ Thaibond.com ระบุไว้นั้น “ตราสารหนี้” นั้น เป็นตราสารทางการเงินที่แสดงถึงความเป็นหนี้ระหว่างผู้ออกตราสารและผู้ถือตราสาร โดยผู้ถือตราสารหนี้จะได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย ที่แน่นอนในระหว่างอายุของตราสารตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนก็อาจต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในด้านความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้อยู่เหมือนกัน ว่ามีความเป็นได้ที่จะผิดนัดชำระดอกเบี้ยหรือเงินต้นหรือไม่
ในขณะที่ “ตราสารทุน” นั้น ไม่มีการกำหนดอัตราผลตอบแทนและระยะเวลาของการลงทุนที่แน่นอน การจ่ายผลตอบแทนอยู่ในรูปของเงินปันผล ซึ่งจะจ่ายมาก จ่ายน้อยหรือไม่จ่าย ก็ขึ้นกับผลประกอบการของบริษัท ผู้ลงทุนจึงต้องติดตามและคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงมูลค่าและผลประกอบการของบริษัทที่ตนลงทุน
สำหรับข้อกำหนดสิทธิของตราสารทุนของอนันดาฯ นี้ ประกอบด้วย
– จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน โดยผู้ออกหุ้นตราสารมีสิทธิเลื่อนการชำระดอกเบี้ยเป็นวันใดๆ ตามดุลยพินิจของผู้ออกตราสาร พร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายไปชำระในวันใด ๆ ก็ได้
– อัตราดอกเบี้ย: ปีที่ 1-5: 9.00% (หรือเทียบเท่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Initial Credit Spread ที่ 6.63%)
– ปีที่ 6-25: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Initial Credit Spread ที่ 6.63 + 0.25%
– ปีที่ 26-50: อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Initial Credit Spread ที่ 6.63 + 1.00%
– ปีที่ 51 เป็นต้นไป อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี + Initial Credit Spread ที่ 6.63 + 1.50%
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยจะปรับทุกๆ 5 ปีโดยอ้างอิงจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ณ สิ้นสุดวันทำการของสองวันทำการก่อนวันปรับอัตราดอกเบี้ย
ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกรุงไทย โทร. 0-2208-7342 ถึง 49, 0-2208 – 3071 ถึง 75
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่