ตลาดคอนโดฯ พัทยายังซึมๆ แม้ยอดขายจะกระเตื้องขึ้นบ้าง แต่การเปิดขายโครงการใหม่ยังคงน้อยกว่าเดิมมาก จากรายงานสถานการณ์ตลาดฉบับล่าสุดโดย คอลลิเออร์ส อินเอตร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2558 นี้ พัทยามีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จและจดทะเบียนอาคารชุดประมาณ 2,130 ยูนิต ทำให้ซัพพลายสินค้าประเภทคอนโดมิเนียมในพัทยา ณ ครึ่งปีแรกอยู่ที่ประมาณ 60,885 ยูนิต โดยยังมีอีกประมาณ 10,000 ยูนิตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงหกเดือนแรกที่ผ่านมามีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จำนวน 10 โครงการ รวมทั้งหมดประมาณ 5,280 ยูนิต ลดลงอย่างเห็นได้ชัดจากช่วงครึ่งหลังของปี 2557 อันเป็นผลจากปัจจัยลบหลายอย่างทั้งในและนอกประเทศไทย
โดยหนึ่งในสาเหตุหลักคือจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในพัทยามีจำนวนลดลงโดยเฉพาะชาวรัสเซียซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อหลักในตลาดคอนโดมิเนียม แม้ว่าในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมาจำนวนของนักท่องเที่ยวชาวจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ชาวจีนยังไม่ใช่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในพัทยา
ทำเลที่โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกไปเปิดตัวมากสุด ได้แก่ นาจอมเทียน โดยประมาณ 93% หรือ 4,930 ยูนิตของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,300 ยูนิตถึง 3 โครงการด้วยกัน
“แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการชาวจีนบางรายมีแผนจะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยาภายในปีนี้ โดยเฉพาะในทำเลจอมเทียน และนาจอมเทียน แต่ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยายังคงไม่ฟื้นตัวและยังได้รับผลกระทบจากปัญหาเรื่องโอเวอร์ซัพพลาย” นายสุรเชษฐ กล่าว
“อัตราการขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพัทยาอยู่ที่ประมาณ 75% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2557 แต่ถ้าดูจากปริมาณสินค้าสะสมที่มีอยู่ในตลาดนับตั้งแต่ช่วงปี 2554 – ครึ่งแรกของปีนี้ มีคอนโดมิเนียมเปิดขายมากกว่า 68,400 ยูนิต และมีอีกกว่า 18,000 ยูนิตที่ยังเหลือขายอยู่ในตลาด ซึ่งเมื่อนำมารวมกับยูนิตของนักเก็งกำไร นักลงทุนทั้งหลายก็อาจจะมากกว่า 22,000 ยูนิต”
ทำเลจอมเทียนเป็นทำเลยอดนิยมในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากที่ถนนจอมเทียนสาย 2 เปิดให้บริการทำให้มีที่ดินว่างเปล่าอยู่เป็นจำนวนมาก และราคายังคงต่ำกว่าทำเลอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ทำเลจอมเทียนในปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมเหลือขายมากกว่า 5,480 ยูนิต ซึ่งมากที่สุดในพัทยา ตามมาด้วยโซนนาจอมเทียนที่มีซัพพลายสะสมประมาณ 4,680 ยูนิต
โดยโครงการระดับราคาต่ำกว่า 50,000 บาทต่อตารางเมตรมีจำนวนยูนิตเหลือขายมากที่สุดที่ 6,040 ยูนิต ตามมาด้วยโครงการระดับราคาขาย 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่โครงการในระดับบนที่มีราคาขาย 100,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปมีเหลือขายอยู่ในตลาดเพียง 1,540 ยูนิต เท่านั้น
“เรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์เป็นเรื่องที่ผูประกอบการไทย และต่างชาติทั้งรายเล็ก รายใหญ่ต่างให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมประมาณ 10,000 ยูนิตที่มีกำหนดแล้วเสร็จในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2558 และการที่มีนักลงทุนจำนวนมากเข้ามาลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา รวมทั้งการที่ชาวรัสเซียประสบกับปัญหาเรื่องค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลง ทำให้หลายฝ่ายกังวลเรื่องของการทิ้งดาวน์ และยื้อการโอนกรรมสิทธิ์ออกไปให้นานที่สุด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโดยตรง ทำให้มองว่าตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาน่าจะยังคงไม่ฟื้นตัวภายในปีนี้” นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
