นักวิเคราะห์ประเมินภาครัฐเร่งผลักดันการลงทุนโครงการด้านคมนาคมขนส่งในช่วงปี 58-59 รวม 17 โครงการ วงเงินลงทุนประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท หวังสร้างความเชื่อมั่นให้เอกชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเดินหน้า
โครงการรถไฟความเร็วปานกลางและความเร็วสูง, โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสีเขียว ชมพู เหลืองและส้ม รวมทั้งมอเตอร์เวย์สายพัทยา-มาบตาพุดติดลิสต์โครงการเร่งด่วนที่รัฐต้องการผลักดันจริงจัง
จากรายงานวิจัยฉบับล่าสุดโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยในหัวข้อ “ภาครัฐเร่งผลักดันการลงทุนโครงการด้านคมนาคมขนส่ง…หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” ระบุว่าการผลักดันโครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งนับเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่โฟกัส โดยได้วางนโยบายที่จะเร่งผลักดันทั้งหมด 17 โครงการ วงเงินลงทุนประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท ในระหว่างปี 2558-2559 ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการระบบรางและทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2565 และมีส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาคือ โครงการรถไฟความเร็วปานกลางและความเร็วสูงทั้งหมด 4 สาย ได้แก่ สายหนองคาย-นครราชสีมา-มาบตาพุด และกรุงเทพฯ-แก่งคอย สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ สายกรุงเทพฯ-พัทยา และสายกรุงเทพฯ-หัวหิน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าหากรัฐบาลสามารถเดินหน้าเปิดประมูลโครงการใหม่ที่พร้อมจะดำเนินการได้บางส่วนในปี 2558 นี้จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน รวมทั้งก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยมากขึ้นในปี 2559
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทยช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อพิจารณาจากรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณของกรมบัญชีกลาง พบว่ามีการเบิกรายจ่ายลงทุนจำนวน 198,092 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงปีที่ผ่านมาร้อยละ 53 โดยส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดกลางและขนาดย่อย ขณะที่การลงทุนในโครงการด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นโครงการต่อเนื่อง ส่วนโครงการใหม่มีเพียงโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่ได้เซ็นสัญญาไปเมื่อเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา และเริ่มก่อสร้างในเดือนสิงหาคม 2558
“การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่ยังล่าช้าในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นผลมาจากภาครัฐมีความเข้มงวดมากขึ้นในเรื่องการตรวจสอบความโปร่งใสของโครงการ รวมทั้งมีการปรับราคาค่าก่อสร้างและรายละเอียดของบางโครงการ” บทวิเคราะห์ระบุ
ทั้งนี้ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ที่รัฐบาลได้อนุมัติไปแล้ว เช่น โครงการพัฒนาระบบขนส่งทางถนนระยะเร่งด่วน, โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายพัทยา-มาบตาพุด และโครงการพัฒนาถนนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งโครงการเหล่านี้น่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยบางโครงการอาจจะเริ่มเวนคืนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก่อน แล้วจึงดำเนินการก่อสร้างในช่วงเวลาถัดไป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 ประมาณ 97,000 – 101,400 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 20 – 25
สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 จะเป็นเวลาสำคัญของรัฐบาลในการที่จะเร่งผลักดันโครงการลงทุนระยะเร่งด่วนในช่วงปี 2558-2559 ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่มีความชัดเจนและได้รับอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว น่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ได้แก่ โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย, โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น, โครงการปรับปรุงท่าอากาศยาน จ.ตาก และจ.ยะลา, โครงการศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟที่ท่าเรือแหลมฉบัง และโครงการพัฒนาท่าเทียบเรือชายฝั่ง A แหลมฉบัง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังพยายามเร่งอนุมัติการลงทุนในโครงการใหม่ๆ ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี, สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี รวมถึงโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ซึ่งหากโครงการเหล่านี้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.ภายในสิ้นปี 2558 ก็จะสามารถเริ่มกระบวนการลงทุนจริงในปี 2559 ปัจจุบัน สถานะโครงการเหล่านี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และการทบทวนแบบรายละเอียดโครงการขั้นสุดท้าย
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
