เชนโรงแรม “แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์” พร้อมเดินเครื่องรุกตลาดโรงแรมระดับกลาง-บนในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ เต็มที่ กับ 3 โครงการปัจจุบันในทำเลเพลินจิต-ราชดำริ-อโศก เผยเตรียมเปิดเพิ่มในย่านทองหล่อปีหน้า
นางสุวรรณา พุทธประสาท ผู้อำนวยการและรองประธานกรรมการอาวุโส บริษัท แอล แอนด์ เอช โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่ากลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ใหม่เพื่อรุกตลาดโรงแรมระดับกลางถึงสูงในทำเลใจกลางกรุงเทพฯ โดยจะเน้นบริการห้องพักระดับหรูใน 3 ย่านธุรกิจหลัก ได้แก่ เพลินจิต, ราชดำริ และอโศก โดยนำเสนอจุดเด่นโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอโปรแกรมกิจกรรมเพื่อสุขภาพแบบองค์รวมสำหรับผู้เข้าพักหลากรูปแบบ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเดินทางธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับสีสันของมหานครกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง
ปัจจุบัน บริษัท แอล แอนด์ เอช โฮเทล แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารกลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เป็นเจ้าของโรงแรม 3 แห่งในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพลินจิต ขนาด 277 ห้อง (เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2546) โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ ขนาด 526 ห้อง (เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2550) และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21 ขนาด 498 ห้อง (เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2554)
แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ
แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพลินจิต
แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินัล 21
“จุดเด่นของแบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ คือทำเลที่ตั้ง ซึ่งง่ายต่อการเดินทางไปยังย่านเศรษฐกิจหลักของมหานคร ถือเป็นแบรนด์โรงแรมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดจากจุดเด่นในด้านบริการห้องพักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสไตล์การตกแต่งแบบไทยร่วมสมัยที่หรูหรา บรรยากาศการต้อนรับที่อบอุ่นแบบไทย พร้อมการดูแลสุขภาพและสัมผัสที่ใกล้ชิดธรรมชาติให้แก่ผู้มาเยือน ซึ่งเราจะใช้แนวคิดบริการรูปแบบนี้กับโครงการอื่นๆ ของเรา ที่กำลังพัฒนาขึ้นทั้งในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ของประเทศไทยอีกด้วย” นางสุวรรณา กล่าวเสริม
ทั้งนี้ บริษัทยังมีแผนการขยายธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ในกรุงเทพฯ เพิ่มเติมอีก 1 โครงการในปี 2559 บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ครึ่ง ระหว่างซอยทองหล่อ 8 และ 10 มูลค่าการลงทุนราว 2,500 ล้านบาท อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาอีกหลายโครงการในทำเลต่างจังหวัด โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ของไทย อาทิ เชียงใหม่, ภูเก็ต, พัทยา และหัวหิน ภายในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้าอีกด้วย
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
