บังคับใช้ไม่ทันต้นปี’60 ไขปมสาเหตุ !ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

13 ต.ค. 2559

หลังจาก “ขุนคลัง” แย้มออกมาอย่างมีนัยสำคัญ ระบุภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อาจบังคับใช้ไม่ทันช่วงต้นปี’60 ตามกำหนดเดิม เหตุต้องให้เวลา แต่ยืนยันไม่กระทบรายได้คลัง ส่วนอัตราจัดเก็บคงเดิม ส่วนภาษีที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า กำลังศึกษาอยู่

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง กล่าวในงานสัมมนา “ข้อควรรู้เกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่” จัดโดยคณะกรรมการกฎหมายภาษีและกฎระเบียบ หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้ผ่านการตีความจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว และมีการตั้งข้อสังเกตอยู่ 2-3 เรื่องที่จะต้องนำมาปรับปรุง ก่อนจะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาในเร็ว ๆ นี้ จากนั้นจะมีการเสนอรัฐบาลเห็นชอบในส่วนของอัตราการจัดเก็บจริง ซึ่งคาดว่าจะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ภายในปี 2560 แต่อาจไม่ทันตามกำหนดเดิม ที่จะให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2560 หรือ ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า พร้อมยืนยันว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและมีบ้านหลังแรกอย่างแน่นอน

“อัตราที่กำหนดในกฎหมายจะเป็นเพียงอัตราเพดานเท่านั้น ไม่ได้จัดเก็บเต็มเพดาน โดยหากกฎหมายผ่านความเห็นชอบของ สนช. ก็ต้องมาเสนอ ครม.ให้พิจารณากันอีกครั้งว่าจะจัดเก็บภาษีจริงที่อัตราเท่าไร ซึ่งภาษีตัวนี้จะเข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ และยืนยันว่าตามหลักการของกฎหมายจะต้องไม่กระทบกับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและมีบ้านหลังแรก โดยการจัดเก็บภาษีหลักๆ จะอยู่ในกลุ่มที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมเป็นหลัก”

ทั้งนี้ กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับนี้ จะออกมาเพื่อทดแทนภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ที่จะทำการยกเลิกหลังจากกฎหมายภาษีที่ดินมีผลบังคับใช้ โดยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเข้ามาช่วยให้การจัดเก็บภาษีเป็นธรรมมากขึ้น ลดปัญหาการซ้ำซ้อน ลดดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่และสนับสนุนให้ที่ดินรกร้างว่างเปล่าถูกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ด้านนายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง และประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หอการค้าไทย กล่าวว่า สำหรับภาคเอกชนถือว่ามีส่วนร่วมเกี่ยวกับการร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มาเป็นระยะเวลานาน ในหลักการโดยรวมมีความเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากเป็นการปรับปรุงโครงสร้างครั้งใหญ่ของสาธารณูปโภคในท้องถิ่น และสามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้อย่างชัดเจนจึงทำให้โครงสร้างดังกล่าวกลับเข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง

ส่วนผลกระทบที่มีต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ มองว่าจะส่งผลให้เกิดซัพพลายของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเข้าสู่ตลาดมากขึ้น, ราคาที่ดินบางพื้นที่ปรับตัวลดลง, ราคาหลักประกันอาจจะมีความเปลี่ยนแปลง, จะมีซัพพลายของบ้านมือสองเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะอาคารชุด และบ้านพักตากอากาศ ขณะที่ธุรกิจการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม, อพาร์ตเมนท์, อาคารสำนักงาน, โกดัง อาจจะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับภาษีโรงเรือนและที่ดิน

นอกจากนี้ ประเด็นที่ควรพิจารณาของกฎหมายดังกล่าว คือในเรื่องของคำจำกัดความของที่ดินเกษตรกรรม, ความซ้ำซ้อน หรือภาระซ้ำซ้อนของภาษี และค่าธรรมเนียม ที่มีผลต่อผู้บริโภคและเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนมือถือครอง ซึ่งควรพิจารณาปรับปรุงภาษี และค่าธรรมเนียม ดังนี้

1.ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ปัจจุบันอยู่ที่ 2% ของราคาประเมิน โดยข้อเสนอแนะ ให้กำหนดจำนวนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 บาท
2.ค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง ปัจจุบัน 1% ของราคาประเมิน ข้อเสนอแนะให้กำหนดจำนวนสูงสุดได้ไม่เกิน 100,000 แสนบาท
3.ภาษีธุรกิจเฉพาะ ปัจจุบัน 3% ของราคาประเมิน ข้อเสนอแนะ เปลี่ยนเป็น Capital Gain Tax และความสะดวกสบายในการจัดเก็บภาษี ควรเพิ่มช่องทาง Online จ่ายผ่านการหักบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตได้

อีกทั้งควรยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กรณีที่เป็นสาธารณูปโภคและทรัพย์สินส่วนกลางของหมู่บ้านจัดสรรและอาคารชุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อผู้อยู่อาศัยและเกิดความซ้ำซ้อนของภาษี, ข้อยกเว้น กรณีที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อขาย เพื่อไม่ให้เกิดการผลักดันภาระภาษีเข้าไปในต้นทุน ทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อในราคาแพงขึ้น โดยเสนอแนะให้มีการยกเว้นเป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่มีใบอนุญาตจัดสรรหรือใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (กรณีอาคารชุด) ไม่ใช่นับจากวันที่ถือครองกรรมสิทธิ์เพื่อป้องกันการแอบอ้างเพื่อหลบเลี่ยง

สำหรับที่ดินรกร้างว่างเปล่า ควรยกเว้นหรือผ่อนปรน กรณีที่ดินตาบอด ถูกลดหรือทอนสิทธิการใช้ประโยชน์จากกฎระเบียบ กฎหมายต่างๆ รวมถึงผังเมือง และควรกำหนดในแต่ละโซน ควรมีเปอร์เซนต์ที่ยอมรับ พื้นที่รกร้างว่างเปล่าเพื่อใช้เป็นการรักษาระบบนิเวศน์ และการมีพื้นที่ซับน้ำ ขณะเดียวกันค่าลดหย่อนภาษีบางกรณีมากเกินไป ไม่เหมาะสมและเพียงพอต่อการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เช่น กรณีที่อยู่อาศัยได้รับการยกเว้น 50 ล้านบาทแรก โดยเสนอแนะ ให้มีการลดหรือลดหย่อน 5 ล้านบาทแรก และส่วนที่เกินชำระตามอัตรา แต่สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เจ้าพ่ออสังหาฯ “พฤกษา” ขยายแนวรบเดินหน้าชิงแชร์บุกตลาดพรีเมี่ยม

สีสันโค้งสุดท้ายปลายปีวอก อสังหาฯ รายใหญ่ – รายกลาง เร่งเปิดตัวคึกโครม

อ่านต่อ12 ต.ค. 2559