รวมพระอัจฉริยภาพของพ่อหลวง ร.9 (ตอนที่1)

24 ต.ค. 2559

พ่อหลวงของแผ่นดิน พระภูมินทร์ของปวงชน ภาพจำของพสกนิกรชาวไทยที่ผ่านมากว่าหลายศตวรรษ คงจะเต็มไปด้วยคุณงามความดี พระจริยวัตรที่งดงามรวมถึงพระปรีชาสามารถอันสุดแสนจะหาใครเทียบเคียงได้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ หรือ รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทุ่มเทพระวรกายเพื่อปวงชนชาวไทยอยู่ทุกขณะลมหายใจ จนเสด็จสู่สวรรคาลัย แม้วันนี้ร่างกายจะจากไปแต่เรื่องราวอันแสนประทับใจของพระองค์ท่านยังคงอยู่ DDproperty ได้รวบรวมพระอัจฉริยภาพหลากหลายด้านที่แสดงให้เห็นว่าทำไมพระองค์ท่านถึงเป็นกษัตริย์ที่นานาประเทศต่างพากันชื่นชม

“อัครศิลปิน” แห่งสยาม

int1

int2

จากบทเพลงพระราชนิพนธ์กว่า 48 บทเพลงอันแสนไพเราะประกอบกับความสามารถในการทรงเครื่องดนตรีหลากหลายชนิด อาทิ แอคคอร์เดียน แซกโซโฟน คลาริเนต ทรัมเป็ต เปียโน และกีตาร์ (ครั้งหนึ่งเคยทรงแซ็กโซโฟนและแคลริเน็ต โต้ตอบกับนักดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียงของโลก อย่างเช่น เบนนี่ กู๊ดแมน (หรือสแตน เก็ทซ์) พระองค์ท่านจึงได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘อัครศิลปิน’ โดยได้ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงด้วยพระองค์ท่านเองและคำร้องภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช ซึ่งต่อมาบทเพลงของพระองค์ท่านถูกนำมาบรรเลงในรูปแบบต่างๆ ทั้งบรรเลงในลีลาเพลงแจ๊ส คลาสสิค เพลงสมัยนิยม บทเพลงขับร้องและบทบรรเลง แม้กระทั่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประทานเพลงแก่วงสุนทราภรณ์

ทางด้านการทรงดนตรีพระองค์ท่านสามารถทรงบรรเลงดนตรีร่วมกับวงดนตรีได้ทุกวงทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวงดนตรีแจ๊สที่ทรงดนตรีได้ไม่ต้องอาศัยโน้ต สามารถเล่น Solo ที่ศัพท์ทางดนตรี เรียกว่า Soloadlip ที่นักดนตรีจะต้องแต่งเนื้อหาขึ้นโดยฉับพลันแต่ต้องอยู่ในกรอบของจังหวะและแนวเพลงดังกล่าวได้ยอดเยี่ยม และเมื่อปีพ.ศ 2507 สถาบันการดนตรีและศิลปะการแสดงแห่งกรุงเวียนนา ก็ได้ทูลเกล้าฯ ถวายประกาศนียบัตร และสมาชิกกิตติมศักดิ์ลำดับที่ 23 แด่พระองค์ท่าน ถือว่าเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ที่มีอายุน้อยที่สุดและเป็นชาวเอเชียเพียงผู้เดียวที่ได้รับเกียรติอันสูงสุดนี้ อีกทั้งยังจับกลุ่มสร้าง ‘วงดนตรีลายคราม’ ที่ผ่านหลังกลายเป็น ‘วงดนตรี อ.ส. วันศุกร์’ สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ประชาชนในยุคนั้น

และดูเหมือนว่าดนตรีกับพ่อหลวงเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันได้ยาก ในยุคแรกพระองค์ท่านทรงใช้ดนตรีเพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสารกับประชาชนและเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ กระทั่งช่วงหลังมีปัญหาทางด้านพระวรกาย ที่รพ.ศิริราช พระองค์ท่านก็ยังทรงดนตรีด้วยพระองค์เองเพื่อใช้เป็น ‘ยา’ ผลัดกับมีคนเล่นถวายในทุกวันเสาร์ สำหรับบทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่ส่วนใหญ่คนรู้จักก็เช่น แสงเทียน (Candlelight Blues) , ยามเย็น (Love at Sundown), สายฝน (Falling Rain), ชะตาชีวิต (H.M. Blues), ลมหนาว (Love in Spring) และเพลงสุดท้ายที่พระราชนิพนธ์คือ เพลงเมนูไข่

กษัตริย์แห่งเทคโนโลยีสารสนเทศ

int3
พระกรณียกิจมากมายที่เราเห็นเริ่มต้นมาจาก “Macintosh Plus” คอมพิวเตอร์ส่วนพระองค์เครื่องแรกที่ ม.ล.อัศนี ปราโมช ซื้อขึ้นทูลเกล้าถวายฯ ในสมัยนั้นถือว่าเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศได้ให้ความสนพระหฤทัยอย่างลึกซึ้ง ศึกษาวิธีการใช้งานและโปรแกรมที่เกี่ยวข้องจนแตกฉาน จนทรงสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลข้อมูลด้วยพระองค์เอง เช่น ทรงแก้โปรแกรมภาษาไทย CU WRITER ให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ (ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM PC Compatible), ทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกพระราชกรณียกิจต่างๆ, ทรงติดตั้งเครือข่ายสื่อสารคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนพระราชภารกิจ ,ทรงประดิษฐ์รูปแบบตัวอักษรไทย (Font) เช่น แบบจิตรลดา แบบภูพิงค์ ฯลฯ และยังตั้งพระทัยในการประดิษฐ์อักษรภาษาอื่นๆ เพิ่มขึ้น คือ ภาษาสันสกฤต ต่อมาก็ได้หันมาศึกษาการแสดงตัวเทวนาครีบนจอภาพ หรือที่พระองค์ท่านทรงเรียกว่า “ภาษาแขก” เนื่องจากอยากศึกษาข้อธรรมะในพระพุทธศาสนาที่เดิมเผยแพร่มาจากอินเดียอย่างลึกซึ้ง หรือแม้กระทั่งบทพระราชนิพนธ์ที่หลายคนน่าจะเคยผ่านตา อย่าง ‘พระมหาชนก’ ก็เป็นหนึ่งผลงานที่รังสรรค์ผ่านคอมพิวเตอร์ โดยทรงใช้ในการคำนวณสภาพภูมิประเภทและภูมิอากาศอินเดีย รวมการประพันธ์คำร้องเพลงต่างๆ ในเพลงพระราชนิพนธ์ ก็ทรงพิมพ์ด้วยพระองค์เอง อย่างโน้ตเพลงรัก เมนูไข่ที่เขียนขึ้นใหม่ในช่วงหลังก็ทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งสิ้น

แล้วอย่างที่ทราบกันดีว่าในทุกปีพระองค์ท่านจะทรงพระราชทาน ส.ค.ส. เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ชาวไทย เดิมทีพระองค์ท่านทรงเริ่มประดิษฐ์ ส.ค.ส.ผ่านคอมพิวเตอร์ด้วยพระองค์เองก่อน ในฉบับแรกเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2530 พระองค์ท่านทรงปรุแถบเทเล็กซ์หรือโทรพิมพ์ ทำให้เห็นข้อความตามท้าย ส.ค.ส. ว่า “กส. 9 ปรุ” อันเป็นรหัสเรียกขานวิทยุแทนพระองค์ ส่วนตัวเลขที่ตามหลังคือวันที่และเวลาที่ทรงสร้างในรูปแบบ วว ชช นน ดด ปปปป. ดังนั้นใน ส.ค.ส. พระราชทานฉบับแรกจึงหมายถึงเวลา 14.30 น. วันที่ 31 ธันวาคม 2529

int4

 

VR009 พนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นสูง

int5

ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ครั้งพำนักอยู่สวิสเซอร์แลนด์ พระองค์ท่านทรงสนพระหฤทัยในเรื่องของเครื่องวิทยุสื่อสาร ได้ทรงซื้ออุปกรณ์เครื่องรับวิทยุแบบวางขายเลหลังในราคาถูกนำมาประกอบเป็นเครื่องรับวิทยุชนิดแรกที่สามารถรับฟังวิทยุกระจายเสียงในยุโรปได้หลายแห่ง รวมถึงได้ทรงทดลองอุปกรณ์หลอดวิทยุมาใช้ในเครื่องรับ-ส่งวิทยุ และเครื่องขยายเสียง ต่อมาในปีพ.ศ.2495 เมื่อพระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินกลับมาประทับอยู่ในประเทศไทยเป็นการถาวร ก็ได้ทรงตั้งสถานีวิทยุ อ.ส. ขึ้นที่พระราชวังสวนดุสิต ออกอากาศครั้งแรกที่พระที่นั่งอัมพรสถาน และต่อมาย้ายเข้าไปตั้งในบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

แรกเริ่มเดิมทีสถานีวิทยุ อ.ส. เป็นสถานีเล็ก มีเครื่องส่งเพียง 2 เครื่อง ขนาดกำลังส่ง 100 วัตต์ ที่กรมประชาสัมพันธ์ทูลเกล้าถวายฯ และติดตั้งให้ ออกอากาศด้วยคลื่นสั้นและคลื่นยาวในระบบ AM พร้อมๆ กัน ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 ได้เพิ่มการส่งกระจายเสียงในระบบ FM ขึ้นอีกระบบหนึ่ง ด้วยพระราชหฤทัยที่อยากให้พสกนิกรมีช่องทางการติดต่อกับพระองค์ท่านได้ง่ายขึ้นและกว้างขวาง รวมถึงใช้เพื่อติดต่อข่าวสารเผยแพร่ความรู้ให้ชาวไทยทราบ ไม่เพียงแค่นั้นสื่อกลางอย่างวิทยุที่เกิดจากพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านได้บรรเทาปัญหาของปวงชนนับไม่ถ้วน อาทิ โรคโปลิโอระบาด ในปี 2495 อหิวาตกโรคระบาดระหว่าง 2501-2502 โครงการควบคุมโรคเรื้อน ปี 2503 อุทกภัยครั้งใหญ่ทางภาคเหนือ ปี 2504 มหาวาตภัยภาคใต้ แหลมตะลุมพุก ปี 2505

นอกจากนี้พระองค์ท่านยังสนพระราชหฤทัยการสื่อสารทางวิทยุ ในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ทรงทดลองใช้วิทยุติดต่อภายในข่ายวิทยุอาสาสมัคร และทรงติดต่อทางวิทยุกับศูนย์สายลม กรมไปรษณีย์โทรเลข เพื่อทดสอบสัญญาณด้วยพระองค์เอง และทรงเป็นแบบอย่างของพนักงานวิทยุสมัครเล่นที่ดี มีพระจริยวัฒนอันดีงาม ปฏิบัติตามกฏระเบียบการใช้วิทยุคมนาคมตามมาตรฐานสากล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำแนะนำอธิบายปัญหาทางเทคนิคด้วยภาษาง่ายๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการสมาคมวิทยุสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และสมาคมวิทยุอาสาสมัคร จึงได้ทูลเกล้าฯถวายสัญญาณเรียกขาน “VR009″ และ ประกาศนียบัตร ‘พนักงานวิทยุสมัครเล่นชั้นสูง’ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ในพระบรมโกศ เรียกได้ว่าพระองค์ท่านทรงเป็น Telecom Man Of The Nation ที่แท้จริง

int6

 

พระราชาแห่งการกีฬา

int26

int27

“ …ร่างกายของคนเรานั้นธรรมชาติสร้างมาสำหรับให้ออกแรงใช้งาน มิใช่ให้อยู่เฉยๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดีโดยสม่ำเสมอ ร่างกายก็จะเจริญคล่องแคล่ว อดทน ยั่งยืน ถ้าไม่ใช้แรงเลย หรือไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะเจริญแข็งแรงไปไม่ได้ แต่จะค่อยๆ หมดแรงลงและหมดสภาพไปก่อนเวลาอันควร ดังนั้นผู้ที่ปกติมีการทำงานโดยไม่ใช้กำลังหรือใช้กำลังแต่น้อย จึงจำเป็นต้องหาเวลาออกกำลังให้พอเพียง ความต้องการตามธรรมชาติเสมอทุกวัน มิฉะนั้นจะเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่เขาจะใช้สติปัญญา ความสามารถของเขา ทำประโยชน์ให้แก่ตนเองและแก่ส่วนรวมได้น้อยเกินไป เพราะร่างกายอันกลับอ่อนแอลงนั้น จะไม่อำนวยโอกาสให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ… ”
จากพระราชดำรัสในโอกาสประชุมสัมมนาเรื่อง การออกกำลังเพื่อสุขภาพ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2523 แสดงให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงให้ความใส่ใจด้านกีฬา ไม่น้อยไปกว่าด้านอื่น ทั้งนี้ตั้งแต่วัยเยาว์พระองค์ท่านทรงสนพระทัยและโปรดทรงกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาประเภทที่ไม่ได้ใช้พละกำลังอย่างเดียว ต้องใช้ไหวพริบ ความละเอียดอ่อนและความสามารถรอบตัวมาประยุกต์ด้วย เช่น สกีน้ำแข็ง, ยิงปืน, กอล์ฟเล็ก, การแข่งขันรถเล็ก, เทนนิส, แบดมินตัน, เครื่องร่อน รวมถึง “เรือใบ” อันเป็นกีฬาสร้างชื่อให้พระองค์ท่าน
ไม่เพียงแค่เป็นนักกีฬาเท่านั้นแต่ยังทรงแสดงพระอัจฉริยภาพด้านการต่อเรือใบ ซึ่งเรือใบฝีพระหัตถ์ที่ลำแรก มีชื่อว่า “ราชปะแตน” และต่อมาทรงต่อเรือใบประเภท โอ เค ขึ้นอีก ชื่อว่า “นวฤกษ์” ซึ่งทรงนำมาใช้ในการแข่งขันกีฬาเรือใบในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ในวันที่ 16 ธ.ค.2510 ทรงชนะเลิศการแข่งขัน นอกจากนี้พระองค์ท่านยังสร้างเรือใบขึ้นมาด้วยพระองค์เองอีก ชื่อว่า “เรือใบแบบมด” สาเหตุที่ชื่อมดนั้นเพราะมดกัดเจ็บ ๆ คัน ๆ ดี ต่อมาทรงพัฒนาเรือแบบมดขึ้นมาใหม่โดยชื่อว่า เรือใบ “แบบซูเปอร์มด” และเรือใบในตระกูลมดนี้ลำสุดท้ายที่ทรงออกแบบคือเรือใบ “แบบไมโครมด” ถือได้ว่าพระองค์ท่านทรงเป็นประมุของค์เดียวในโลกที่มีพระปรีชาสามารถทางด้านเรือใบ

int7

int25

นอกจากพระปรีชาสามารถที่กล่าวมาข้างต้น พระองค์ท่านยังทรงมีพระจริยวัตรที่งดงาม เป็นแบบอย่างของนักกีฬาที่พึงมี ทั้งความขยันหมั่นเพียรและสปิริตนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ดังจะเห็นได้จากการให้ความสำคัญในการฝึกซ้อมอยู่เสมอและในการแข่งขันเรือใบครั้งหนึ่งที่พระองค์ท่านเสด็จฯ ออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นเรือใบเข้าฝั่ง สร้างความงงงวยแก่ผู้ที่มาเข้าเฝ้าฯ ทราบภายหลังว่าสาเหตุที่กลับเข้าฝั่งเพราะเรือใบพระที่นั่งแล่นไปโดนทุ่นเข้าซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวล์ ซึ่งอันที่จริงแล้วพระองค์ท่านจะทรงละเลยกติกาก็ได้เนื่องจากไม่มีใครเห็น

พระอัจฉริยภาพทางภาษาและวรรณกรรมเป็นที่ประจักษ์

int28

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงมีพระปรีชาสามารถในการใช้ภาษาได้หลายภาษา อาทิ ภาษาไทย ภาษาละติน ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน ภาษายาวี และภาษาสันสกฤต โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากเมื่อทรงพระเยาว์พระองค์ท่านทรงร่ำเรียน ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จึงมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก อันจะเห็นได้จากบทสัมภาษณ์กับทางฝรั่งมังค่าในหลายครั้ง หรือภาษาอังกฤษก็ทรงโต้ตอบได้อย่างคล่องแคล่ว ภาษาไทยก็เช่นเดียวกัน แม้จะทรงพำนักอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานานแต่ก็ทรงให้ความสำคัญต่อการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง นอกจากนี้พระองค์ท่านยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักอักษรศาสตร์ ทรงสนพระราชหฤทัยเกี่ยวกับเรื่องศัพท์ ที่มาของศัพท์ และรากศัพท์ และยังทรงแปลวรรณกรรมและบทความและทรงพระราชนิพนธ์หนังสืออีกกว่า 17 เรื่อง เช่น เมื่อข้าพเจ้าจากสยามสู่สวิสเซอร์แลนด์, นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลังพระ (หนังสือแปล), ติโต (หนังสือแปล), พระมหาชนก, เรื่องทองแดง และ พระราชดำรัส อันเป็นพระราชนิพนธ์ที่พระองค์ท่านทรงแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ

สำหรับเรื่องพระมหาชนก ที่ปวงชนชาวไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ถือว่า เป็นพระราชนิพนธ์ที่แสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านวรรณศิลป์ของพระองค์ท่านได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากทรงพระราชนิพนธ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษในเล่มเดียวกัน โดยใช้ภาษาโบราณในสองภาษา เพื่อคงความขลังของเนื้อหา ประกอบกับทรงใช้คอมพิวเตอร์วาดภาพประกอบแสดงเส้นทางเดินเรือของพระมหาชนกด้วยพระองค์ท่านเอง รวม 4 ภาพ ภาพวันที่ควรออกเดินทาง ภาพวันเดินทาง ภาพวันเรือล่ม และภาพพระมหาชนกทรงว่ายน้ำ ซึ่งแสดงถึงพระอัจฉริยภาพด้านทัศนศิลป์อีกด้วย

int30

int29

ขอบคุณภาพประกอบจาก chaoprayanews.com, thekingofsmilethailand.blogspot.com, Facebook KING’S ARMY, navy.mi.th, welovethaiking.com, vcharkarn.com

เรื่องข้างต้นเขียนโดย วัลย์ลดา หาญยุทธ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ wanlada@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เปิดห้องทรงงานส่วนพระองค์ กับเหตุผลที่ทรงงานหนัก

เราทุกคนต่างรู้ว่า ในหลวงฯ พระองค์ท่านนั้นทรงงานหนักเพื่อให้พสนิกรชา

อ่านต่อ22 ต.ค. 2559

หัวใจฝรั่งที่ไม่ต่างจากหัวใจคนไทย

  นอกจากผู้นำต่างประเทศทั่วโลกที่ออกมาสรรเสริญ พระบาทสมเด็จพระเจ้า

อ่านต่อ23 ต.ค. 2559