REIC ประเมินโครงการเปิดใหม่ทั้งแนวราบ-สูงทั้งปี ลดลง 10 – 15% ประมาณการณ์ 9.4 หมื่นหน่วย เผยโปรเจกต์ค้างท่อเลื่อนเปิดตัวจากไตรมาส4 ถัดไปปี’60 มีถึง 4,000 หน่วย
นายสัมมา คีตสินผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เปิดเผยถึงสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลปี2559 ว่าตลาดอสังหาฯเปิดใหม่ปีนี้โดยรวมทั้งแนวราบและสูงรวมจะอยู่ที่ประมาณ9.4 หมื่นหน่วย หรือลดลงประมาณ10-15% ต่ำสุดในรอบ 7 ปี โดยเฉพาะอาคารชุดซึ่งคาดว่าทั้งปีจะเปิดตัวประมาณ 5.2-5.4 หมื่นหน่วย ลดลงประมาณ 13-14% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากมีการเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส4ของปีนี้ออกไปประมาณ 4,000 หน่วย ส่วนโครงการจัดสรรเปิดตัวใหม่คงที่คาดว่าทั้งปีอยู่ที่ประมาณ4.2-4.4 หมื่นหน่วย
โดย 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค – ก.ย) พบว่าการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล มีจำนวน 313 โครงการ รวม 7.1 หมื่นหน่วย แบ่งเป็นบ้านจัดสรร จำนวน 215 โครงการ รวม 3.3 หมื่นหน่วย เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่มีโครงการเปิดใหม่ 209 โครงการ รวม 3.2 หมื่นหน่วย ขณะที่คอนโดมิเนียมเปิดตัวใหม่ 98 โครงการ รวม 3.7 หมื่นหน่วย ลดลง 17% เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ 109 โครงการ รวม 4.49 หมื่นหน่วย คาดว่าปีนี้ทั้งปี จะเปิดโครงการใหม่รวม 5 – 5.2 หมื่นหน่วย นับว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี
อย่างไรก็ดีประมาณการณ์ว่า ด้วยปัจจัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐอีกทั้งดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ การลงทุนภาคอสังหาฯยังมีต่อเนื่องเนื่องจากมีการเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ในปลายปีนี้ ขณะที่ซัพพลายที่อยู่ในตลาดมีจำนวนน้อย ประกอบกับดีมานด์ในตลาดยังมีอยู่ โดยเห็นได้จากตัวเลขของการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงในส่วนของบ้านจัดสรรมีสัดส่วนถึง90% ขณะที่คอนโดมีสัดส่วนอยู่ที่55-60% ที่เหลือซื้อเพื่อลงทุนหรือเก็งกำไร
ดังนั้นคาดว่าในปี 2560 ตลาดคอนโดเปิดใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 6.5 หมื่นหน่วย ส่วนบ้านจัดสรรอยู่ที่ประมาณ 4.2 หมื่นหน่วย เนื่องจากตลาดมีการปรับฐานมีความสมดุลทั้งดีมานด์และซัพพลายซึ่งจะทำให้อัตราการเติบโตของบ้านใหม่อยู่ที่ 10-15% ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้คงที่อยู่ที่ประมาณ 5.8 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ จากสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในกทม.-ปริมณฑลปี 2559 ว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นการสำรวจโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย และนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย โดยในส่วนของโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ในระหว่างการขายมี 1,077 โครงการ จำนวน 203,000 หน่วย ในจำนวนนี้ก่อสร้างเสร็จ 65% อยู่ระหว่างก่อสร้าง17% ที่เหลือยังไม่เริ่มก่อสร้าง ทั้งนี้จากหน่วยในผังโครงการทั้งหมด พบว่า 46 %เป็นทาวน์เฮ้าส์ 37% เป็นบ้านเดี่ยว 11% เป็นบ้านแฝด ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์และที่ดินเปล่า มีหน่วยเหลือขายในตลาดประมาณ 77,900 หน่วย มูลค่าประมาณ 340,150 ล้านบาท ทั้งนี้ระดับราคาบ้านในช่วงราคา 3.01-5 ล้านบาท ที่มีสัดส่วนมากสุดถึง 35 %
อย่างไรตามจากหน่วยในผังของโครงการทั้งหมด 1,077 โครงการ อยู่ในกรุงเทพฯมากที่สุด 429 โครงการ รวม 74,800 หน่วย เหลือขาย 21,050 หน่วย อยู่ในนนทบุรี 214 โครงการ รวม 40,600 หน่วย เหลือขาย 20,300 หน่วย อยู่ในปทุมธานี 164 โครงการ รวม 36,800 หน่วย เหลือขาย 12,600 หน่วย อยู่ในสมุทรปราการ 146 โครงการ รวม 32,300 หน่วย เหลือขาย 15,250 หน่วย อยู่ในสมุทรสาคร 61 โครงการ รวม 12,200 หน่วย เหลือขาย 5,800 หน่วย และอยู่ในนครปฐม 63 โครงการ รวม 6,300 หน่วย เหลือขาย 2,900 หน่วย ทั้งนี้พื้นที่มีหน่วยบ้านจัดสรรเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางพลี อำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอบางใหญ่ และอำเภอลำลูกกา หน่วยบ้านเดี่ยวเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางพลี อำเภอลำลูกกา อำเภอบางกรวย และอำเภอธัญบุรี ส่วนทาวน์เฮ้าส์เหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางพลี อำเภออำเภอบางใหญ่ เมืองสมุทรสาคร และอำเภอสมุทรปราการ
ส่วนอาคารชุด มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายมี 442 โครงการ จำนวน 231,400 หน่วย มีหน่วยเหลือขายประมาณ 59,700 หน่วย มูลค่าประมาณ 181,100 ล้านบาททั้งนี้จากหน่วยโครงการทั้งหมดพบว่ามีโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ39% อยู่ระหว่างการก่อสร้าง51% และยังไม่เริ่มก่อสร้าง10% โดยจากโครงการทั้งหมดแบ่งเป็นมีอาคารชุดขนาดความสูงไม่เกิน 8 ชั้น 2,476 อาคาร และขนาดความสูง 30 ชั้นขึ้นไป 624 อาคารโดยระดับราคาของหน่วยในผังพบว่าในช่วงราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท มีสัดส่วนมากสุดถึง 42% อย่างไรก็ดีจากหน่วยในผังของโครงการทั้งหมด 442 โครงการ อยู่ในกรุงเทพฯมากที่สุด 323 โครงการ รวม 156,100 หน่วย เหลือขาย 30,300 หน่วย อยู่ในนนทบุรี 58 โครงการรวม37,300 หน่วย เหลือขาย 12,600 หน่วย อยู่ในปทุมธานี 16 โครงการ รวม 13,400 หน่วย เหลือขาย 6,500 หน่วย อยู่ในสมุทรปราการ 31 โครงการ รวม 19,900 หน่วย เหลือขาย 8,400 หน่วย อยู่ในสมุทรสาคร 3 โครงการ รวม 1,300 หน่วย เหลือขาย 700 หน่วย และอยู่ในนครปฐม 11 โครงการ รวม 3,400 หน่วย เหลือขาย 1,200 หน่วย สำหรับพื้นที่ที่มีหน่วยห้องชุดเหลือขายมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอธัญบุรี เขตจตุจักร และเขตบางซื่อ
“ที่ผ่านมาผู้ประกอบการยังมีการเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีจำนวนหน่วยในผังโครงการเพิ่มขึ้น ซึ่งหน่วยบ้านจัดสรรใหม่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทหาได้ยากแต่ห้องชุดใหม่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทยังหาซื้อได้ในพื้นที่ปทุมธานี ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอธัญบุรี”
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com