เนอวานา กางแผนธุรกิจ ปี’60 เล็งเปิด 5- 6 โครงการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ไฮไลท์คอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านเจริญนครมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ส่องหาซื้อที่ดินเพิ่มอีก 2 แปลง ปั้นบ้านราคาจับต้องได้ 5 – 10 ล้านบาท โซนฝั่งตะวันออก
นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือสิงห์ เปิดเผยถึงแผนปี 2560 ว่า ตามแผนที่วางไว้เบื้องต้น 5-6 โครงการใหม่ มูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เช่น เนอวานา คัฟเวอร์ ทำเลใกล้รามคำแหง-กรุงเทพฯกรีฑา บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ย่านกรุงเทพกรีฑา คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านเจริญนคร 6,000 ล้านบาท ,โครงการโฮมออฟฟิศ ย่านเกษตร-นวมินทร์ มูลค่า 1,200 ล้านบาท
และอีก 2 โครงการอยู่ระหว่างการจัดหาซื้อที่ดินพื้นที่กรุงเทพตะวันออกพัฒนาบ้านเดี่ยว ไอคอน และเนอวานา อินโทร ราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบรนด์เก่านำกลับมาทำตลาดใหม่เป็นการกลับบุกตลาดอีกครั้ง หลังหยุดการขายไประยะหนึ่ง ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขาย คือ เนอวานา บียอนด์ พระราม 2 ราคา 15-40 ล้านบาท และแอทเวิร์ค ซึ่งเป็นโฮมออฟฟิศ ราคา 16 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี จะเปิด 1 โครงการ “เนอวานา ดีไฟน์ พระราม9” ทาวน์โฮม มูลค่า 700 ล้านบาท ราคาเริ่ม 9 – 15 ล้านบาท เปิดขายเดือน ธ.ค.นี้
ล่าสุด เพิ่งเปิดตัวโครงการโฮมออฟฟิศในชื่อ”เนอวานา แอทเวิร์ค รามอินทรา (@work รามอินทรา) “บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ สูง 4 ชั้นครึ่ง จำนวน 61 ยูนิต มูลค่า 1,000 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 เฟส โดยในเฟสแรก จะพัฒนาจำนวน 31 ยูนิต จับกลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดกลางและเล็ก ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 55% ทั้งนี้คาดว่าจะทำการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนทั้งโครงการได้ภายในปลายปี 2560 ราคาขายเริ่มต้นที่ 15.9-22 ล้านบาท นอกจากนี้ พื้นที่เดิมปัจจุบันที่เป็นเซลล์แกลเลอรี่ บนเนื้อที่ 3 ไร่นั้น จะนำมาพัฒนาเป็นคอมมูนีตี้มอลล์ขนาดเล็กรองรับลูกบ้านในโครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการออกแบบคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปลายปีนี้ด้วยและจะเริ่มก่อสร้างให้แล้วทันกับงานก่อสร้างโฮมออฟฟิศทั้งโครงการภายในปลายปี’60
สำหรับโครงการดังกล่าว เน้นความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโฮมออฟฟิศออกมาใช้งานได้จริงทั้งสำหรับเจ้าของธุรกิจ และพนักงานที่มาทำงานที่บริษัท โดยแนวคิดในการพัฒนาโครงการ สร้างความรู้สึกมีส่วนร่วม ความเป็นเจ้าของ และการได้ใช้ความคิดในการทำงานของพนักงานเป็นสำคัญ โดยแบ่งเป็นกลุ่มค้าที่ซื้ออยู่เอง 80% และลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุน 20%
ทั้งนี้ ด้วยพฤติกรรมของเจ้าของธุรกิจในปัจจุบัน พบว่าผู้ประกอบการมักจะให้ความสำคัญกับความพอใจของพนักงาน เป็นที่ตั้ง ทั้งในเรื่องของความสะดวกความสบายในการเดินทาง การติดต่อธุรกิจ กลุ่มของออฟฟิศที่ตั้งอยู่บนอาคารสำนักงานในโซนซีบีดี มีข้อดีในเรื่องของความรวดเร็วในการเดินทาง ติดต่อประสานงานกับลูกค้า แต่ข้อจำกัด คือ ต้องอยู่กันบนพื้นที่ที่แออัด ราคาค่าเช่าแพงขึ้นตามการเติบโตของเมืองหลวง ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ ส่งผลให้มีผู้ประกอบการอีกกลุ่มที่หันมามองออฟฟิศโซนรอบนอกเมือง ที่ยังคงรักษาเรื่องความสะดวกสบายในการเดินทาง พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ มองเห็นเป็นช่องว่างทางการตลาด
ด้านของผลประกอบการช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มียอดขาย 1,700 ล้านบาท ส่วนทั้งปีตั้งเป้า 2,000 ล้านบาท และปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ของบริษัท
สำหรับความคืบหน้าการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ไดอิ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 ธ.ค.นี้ โดยสิงห์จะเป็นผู้ซื้อหุ้นสามัญของไดอิ มูลค่า 3,395 ล้านบาท โดยสิงห์จะแลกกับหุ้นสามัญของเนอวานา ที่ถืออยู่ทั้งหมดคิดเป็น 51% มูลค่า 2,142 ล้านบาท และที่ดินอีก 2 แปลง มูลค่า 1,253 ล้านบาท
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com