เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเส้นทางของถนนสายสุขุมวิท ตลอดแนวจะเต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะ ช่วง BTS พร้อมพงษ์ ที่เป็นแหล่งรวมคอนโดมิเนียม อันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวอาริงาโตะผู้รักความสงบแต่ก็แฝงไปด้วยความสนุกยามค่ำคืน การย้ายเข้ามาของกลุ่มคนต่างชาติพวกนี้นี่เองที่มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ย่านนี้ให้กลายเป็นโอซากาในเมืองไทย จากการเกิดขึ้นของไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่เข้ามาอย่างมากมายโดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกินที่เปลี่ยนพื้นที่หนึ่งให้กลายเป็นสุดยอดพื้นที่ ที่รวบรวมแหล่งไลฟ์สไตล์แนวญี่ปุ่นเอาไว้อย่างซอยสุขุมวิท 39 ตั้งแต่ร้านอาหารดั้งเดิม ร้านขนมหวาน จนกระทั่งพับบาร์ โดยวันนี้ทาง DDproperty จะพาไปเยี่ยมชม 5 ร้านดัง แบบครบรสครบสไตล์ เยือนญี่ปุ่นในเมืองไทยแบบที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต
Shinsen Fish Market ยกตลาดสดปลายุ่น ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่นก็ได้ลิ้มลอง
เริ่มต้นกันที่มาสคอตแดนอาทิตย์อุทัย เอาใจคนรักปลาดิบ ตลาดปลาญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดในคราบของมาร์เกตเอาท์ดอร์สุดชิค ที่รวบรวมอาหารทะเลสดๆ นานาชนิด นานาพันธุ์ แบบที่เรียกได้ว่าสดกระทั่งยังมีชีวิตอยู่เลย ที่นี้เราสามารถเลือกกุ้ง หอย ปู ปลา ไม่ว่าจะเป็น ปูทาราบะ กุ้งล็อบสเตอร์ หอยเชลล์ ไปชั่งน้ำหนักคิดราคาแล้วให้เชฟปรุงรสได้ตามใจชอบเลยหรือจะนำกลับบ้านมารับประทานเองก็เลือกได้ ไม่เชื่อลองไปแล้วลองหยิบปลาแซลม่อนสดๆ ให้เชฟหั่นแล้วหยิบชิมตรงนั้นเลยคงไม่ต่างอะไรกันกับรสชาติตอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
Shinsen Fish Market
ตั้งอยู่: 163/6 ซอยสุขุมวิท 39 (ซอยเพชรบุรี 38/1) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพ
โทร: 0-2260-6522
เว็บไซต์: www.shinsenfishmarket.com,
เฟซบุค: Shinsenfishmarket
Ramen*Tsukemen Fujiyama go go วัตดุดิบจากแดนไกล ใครไม่ไป ถือว่าเผียดดด!

โกโร ราเมน ราเมนชามนี้ใช้เส้นราเมนขนาดกลาง ที่พิเศษมากๆ คือลูกค้าสามารถเพิ่มถั่วงอกและกระเทียมได้ฟรีตลอด
เจอกับอาหารสด ปลาดิบเอกลักษณ์ของเมืองยุ่นไปแล้ว สิ่งต่อไปที่พลาดไม่ได้ ก็คือพระรองที่เมื่อคิดถึงญี่ปุ่นก็จะต้องนึกถึงนั่นก็คือ ราเมน และในซอยสุขุมวิท 39 ก็มีร้านลึกลับสุดยอดที่นำวัตถุดิบจาก เมืองนาโงย่า ณ ประเทศญี่ปุ่น มาประกอบอาหาร รังสรรค์ออกมาเป็นน้ำซุป 4 รสชาติ 4 สไตล์ แต่ยังคงความเป็นต้นตำรับเอาไว้ อาทิ ซุปกระดูกหมูเข้มข้น ซุปที่ผสมปลาโอให้จางลงพร้อมกับมะนาวหนึ่งซีก ซุปมิโสะกับเต้าหู้ และซุปใส่กุ้ง พร้อมกับไฮไลท์ของงานคือการเลือกขนาดเส้น เพิ่มได้ 3 ไซส์ได้แก่ โอโมริ 1.5 เท่า เพิ่ม 40 บาท ฟูจิยามะ 2.5 เท่า เพิ่ม 80 บาท และก็ภูเขาเอเวอเรส 3.5 เท่า หรือ 1.2 กิโล ที่ 120 บาท เรียกได้ว่ากินกันจนลืมราเมนที่ประเทศญี่ปุ่นไปเลยทีเดียว
Tsukemen Fujiyama go go
ตั้งอยู่: ในซอยสุขุมวิท 39 หน้าปากซอยพร้อมมิตร ห่างจากปากซอยสุขุมวิท 39 ประมาณ 600 ม.
โทร: 02-662-6822, 081-629-3799
เฟซบุค: TSUKEMENFUJIYAMA55/
ไก่ทอดยามะจัง (Yamachan) อร่อยไม่บันยะบันยัง กระเพาะพังกันไปข้าง
ยาวไป ยาวไป กับร้านที่ 3 ได้กินปลาดิบแล้ว ได้กินราเมนแล้ว จะกินต่อไปก็คงไม่พ้นของทอด และในซอยสุขุมวิท 39 คงเป็นร้านไหนไปไม่ได้นอกจาก ยามะจัง (Yamachan) หนึ่งในร้านสุดยอดไก่ทอดที่มีสาขาทั่วเมืองโอซากาในประเทศญี่ปุ่น และถือเป็นอาหารยอดฮิตของชาวออฟฟิตที่วันใดไม่ได้กินหลังเลิกงานจะต้องรู้สึกขาดใจ เมื่อได้ยินแบบนี้จะรออะไร เพราะตอนนี้ ยามะจัง มาอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 39 แล้ว โดยเมนูเด่นของร้านนั้น ที่ทุกคนไปแล้วจะต้องสั่งก็คงจะต้องเป็น ปีกไก่ทอดยามะจังรสต้นตำรับ(Maboroshino Tebasaki) ที่กินเท่าไหร่ก็หยุดกินไม่ได้ ยิ่งหากจิบเบียร์ไปด้วยอะไรไปด้วย เพลินจนพุงแตกเป็นชูชกได้ไม่ยาก รวมไปถึงอีกหลากหลายเมนูหลากหลายสไตล์ที่อร่อยไม่แพ้กันให้เลือกสรรมาอัดแน่นในกระเพาะแบบไม่รู้ตัว
ไก่ทอดยามะจัง (Yamachan)
ตั้งอยู่: ซอยสุขุมวิท 39 เลยซอยพร้อมมิตรฝั่งที่ไปสุขุมวิท 35 มาไม่ไกล
เปิดบริการ: จ.-ศ. 17.30-00.30 น. ส.-อา. 11.30-00.30 น.
โทร: 061-647-3778 , 02-662-5541
เฟซบุค: yamachanthailand
Parden (Fruits Palor Café and ZAKKA)
กินของคาวเต็มที่แล้วก็อย่าลืมของหวานสำหรับสาว มาที่ร้านขนมของหวานสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับสาวๆ ทั้งวัยเด็กไปจนถึงวัยมีอายุ มีเมนูแนะนำอย่าง Parden Fruit Parfait ที่ด้านล่างจานจะเป็นเชอร์เบทผลไม้ และตามด้วยไอศกรีมโยเกิร์ตหลากรสแล้วแต่เลือกสรรค์ พร้อม ผลไม้ตามฤดูกาลอีก 8 ชนิด เรียกได้ว่าเป็นความกลมกล่อมที่ลงตัวชนิดเปิดวาร์ปไปประเทศญี่ปุ่นได้ในพริบตา
Parden (Fruits Palor Café and ZAKKA)
ตั้งอยู่: ร้านตั้งอยู่บนชั้น 2 ของคอมมูนิตี้มอลล์ชื่อ The Manor
เปิดบริการ: วันอังคาร – อาทิตย์ 11.00 – 17.45 น. (last order 17.00 น.)
โทร: 02-204-2205
เฟซบุค: Parden.Bangkok
HANAKARUTA Nagoya Food & Japanese Shochu Bar แฮงค์เอาท์ให้เต็มคราบ พาวาร์ปไปนาโกย่า
สุดท้ายกินอิ่มแล้ว ต้องมาตบด้วยความชิลล์สุดอลังการที่ลากเอาความสนุกจากพี่ยุ่นมาเยือนในเมืองไทยกับ Japanese Bar อย่างร้าน HANAKARUTA Nagoya Food & Japanese Shochu Bar ที่รวบรวมเอาสาเกต่างๆ กว่า 500 ชนิดมาให้จิบ มาให้ชิม มาให้ลอง บนบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นแบบสงบๆ อารมณ์กำลังขอร้องปรมาจารณ์ซามูไรให้รับเป็นศิษย์แต่ที่ไหนได้ไม่ถึงชั่วโมงก็อิ่มเอมไปกับความสุขของรสชาติสาเกซะแล้ว โดยร้านจะตกแต่งเป็นโทนสีดำและสีแดง ไฮไลท์คือด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ที่เป็นชั้นที่รวบรวมเครื่องดื่ม แถมยังมีบาร์เทนเดอร์ที่คอยให้ความรู้เรื่องเครื่องดื่มจนเมาแอ๋อีกด้วย ส่วนชั้นที่สองและสามจะเป็นโต๊ะอาหารแบบนั่งสบายๆ สไตล์โซฟา 4 ที่นั่ง แต่ชั้นที่ 4 เป็นโซนที่นั่งพื้นมีเบาะรองสไตล์ญี่ปุ่นจ้า สำหรับลูกค้าที่มาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ส่วนเมนูอาหารต่างๆ ก็คัดวัตถุดิบมาจากเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีความแปลกและอร่อยแบบที่ว่าไปหากินที่ญี่ปุ่นเองยังหาได้ยากกว่า
HANAKARUTA Nagoya Food & Japanese Shochu Bar
ตั้งอยู่: 36/4 ซอยสุขุมวิท 39 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
เปิดบริการ: ทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น.
โทร: 0 2662 7339
เฟซบุค: hanakaruta
นอกจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแนวญี่ปุ่นแล้ว สิ่งสำคัญที่ทำให้พื้นที่นี้พัฒนาไปสู่เป็นโอซากาขนาดย่อมในเมืองไทยก็คือชาวญี่ปุ่นที่เข้ามากระจุกตัวอยู่กันบริเวณนี้ ที่ทำให้พื้นนี้มีมูลค่าและเป็นที่ปักหลักของโครงการหรู ซึ่งโครงการระดับหรูที่น่าสนใจในปัจจุบัน แบบที่เรียกได้ว่าเข้าไปดูก็อยากได้ใจจะขาด จากความหรูหราโอ่อ่าประกอบกับทำเลซอยสุขุมวิท 39 ที่มอบความเป็นญี่ปุ่นมาให้แบบถึงที่สุด วันนี้ DDproperty จึงนำน้ำจิ้มรสเด็ดนำโครงการหรูมาบอกต่อให้กับท่านผู้ชม เผื่อใครสนใจและคิดว่าไหวจะอยากลองสักตั้งเพื่อให้ได้เข้ามาอาศัยอยู่บนซอยสุขุมวิท 39 ก็สามารถเข้าไปหาข้อมูลได้ ส่วนเรื่องราคาจะแรงขนาดไหน น่าอยู่หรือไม่ สามารถคลิ๊กที่ชื่อโครงการเข้าไปชมรีวิวได้เลย
แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 (Ashton Residence 41)
เดอะ ดิโพลแมท 39 (The Diplomat 39)
อโบฟ สุขุมวิท 39 (ABOVE Sukhumvit 39)
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กิตติคม พจนี Content Writer ประจำ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kittikom@ddproperty.com