“ทองหล่อ” ทำเลที่มีความเจริญเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง KHUN by YOO inspired by Starck ณ วันนี้ กลายเป็นโครงการที่มีราคาขายต่อตารางเมตรที่แพงที่สุดในย่านทองหล่ออยู่ที่ราคาเฉลี่ย 360,000 บาท ปัจจุบันมียอดพรีเซลจากลูกค้าเก่าคนไทยแล้วกว่า 60% และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนมีนาคมปี 60 และเมื่อถึงเวลานั้น อาจต้องมีการปรับราคาขายเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดย่านทองหล่อ พบว่าเป็นทำเลที่ราคาอสังหาฯมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้เปิดตัวโครงการครั้งแรกในย่านดังกล่าวราคาประมาณ 100,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งถือว่าสูงมากในตอนนั้น แต่ปัจจุบันราคาขายปรับขึ้นมาถึง 1 เท่าตัว คืออยู่ที่ประมาณ 270,000-300,000 บาท/ตารางเมตร หรือปรับขึ้นปีละประมาณ 13% มีอัตราการอยู่อาศัยสูง 80-90% เพราะเป็นทำเลที่มีดีมานด์ที่ต้องการเช่าอยู่อาศัยมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ที่เช่าอยู่อาศัยมากถึง 70% ซึ่งราคาค่าเช่าในย่านดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท/ตารางเมตร หรือห้องขนาด 1 ห้องนอน ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท/เดือน ส่วนขนาด 2 ห้องนอน ราคาเช่าประมาณ 70,000-80,000 บาท/เดือน อีกทั้งสามารถรีเซลได้ถึงราคา 250,000-270,000 บาท/ตารางเมตรด้วย
ขณะที่ราคาที่ดินในย่านทองหล่อเปิดราคาขายอยู่ที่ราว 1.5-2 ล้านบาท/ตารางวา ขณะที่ราคาประเมินจะอยู่ที่ประมาณ 400,000-500,000 บาท/ตารางวา คาดว่าระยะเวลาที่เหลืออีก 1 เดือนเศษของปี 2559 นี้ จะมีซัพพลายใหม่เข้ามาเติมในย่านทองหล่อ อีกประมาณ 450 ยูนิต และเมื่อรวมกับ 2 โครงการของแสนสิริ อีกประมาณ 260 ยูนิต ทำให้ซัพพลายรวมในย่านดังกล่าวโดยประมาณ 700 กว่ายูนิต ยังสอดรับกับความต้องการของตลาดในย่านนี้
โดยล่าสุด เตรียมเปิดตัวคอนโดฯ KHUN by YOO inspired by Starck (คุณ บาย ยู อินสไปร์บาย สตาร์ค) ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างแสนสิริฯและบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือ BTS ตั้งอยู่บริเวณซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ12) บนพื้นที่ 1ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดฯสูง 27 ชั้น จำนวน 1 อาคารพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 41.50-302.75 ตารางเมตร จำนวน 148 ยูนิต ราคาเริ่มต้นที่ 15-120 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยประมาณ 360,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท
ขณะนี้มียอดพรีเซลแล้ว 60% โดยลูกค้าเป็นคนไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าของบริษัทฯ 80% โดยคาดว่าจะเป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงสัดส่วน 60% และซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าสัดส่วน 40% ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2560 โดยมีแผนที่จะนำโครงการไปโรดโชว์ที่ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ และจีน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวผ่านการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในเดือนมกราคม 2560 และแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2563
ด้านการออกแบบนั้น ได้รับความมือจากสถาปนิกชื่อดังระดับโลก “ฟิลิปป์ สตาร์ค”ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานของ “ยู ดีไซน์ สตูดิโอ”(YOO Design Studio)โดยสาเหตุที่บริษัทเลือกบริษัทสถาปนิกดังกล่าว เพราะมีประสบการณ์ในการออกแบบมาถึง 55 โครงการ ใน 33 เมือง จาก 26 ประเทศ และทุกโครงการที่ได้รับการออกแบบพบว่ามีดีไซน์ที่ทันสมัย สวยงาม แปลกตา และเป็นแบรนด์ที่แข็งแรง สามารถดึงดูดลูกค้าได้ทั่วโลก อีกทั้งราคาที่ขายมีการปรับเปลี่ยนเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 30% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมตลาดในปีหน้า มองว่าจะดีกว่าปีนี้ จากพื้นฐานเศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกที่เป็นบวก อัตราดอกเบี้ยต่ำ ติดเพียงแค่ภาคการท่องเที่ยวเท่านั้นยังมีปัญหา หลายปัจจัยในปีนี้ มีความคลี่คลายและชัดเจนมากขึ้น รวมถึงนโยบายของภาครัฐ การแก้ปัญหารากหญ้าด้วย
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com