วี พร็อพเพอร์ตี้ ปูพรมธุรกิจอสังหาฯ ตั้งเป้าเข้าตลาด 2 ปีข้างหน้า ล่าสุดเปิดคอนโดหรูขายตารางเมตรละ 1.25 แสนบาท
นายพรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม จากการวิเคราะห์ตัวเลขเมื่อปี 58 ที่ผ่านมา พบว่ามีคอนโดมิเนียมที่มีการเปิดตัวในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จำนวน 60,400 ยูนิตลดลงจากปี 57 อยู่ที่ 17% และโดยเฉพาะคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทชั้นใน ตั้งแต่ซอย 1 – ซอย 77 นั้น มีการเปิดตัวคอนโดเนียมทั้งหมด 10,900 ยูนิต ซึ่งราคาคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะระดับราคาเกิน 5 ล้านบาทขึ้นไป มีการเปิดเพิ่มขึ้น 17% ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ และซูเปอร์ลักซ์ชัวร์รี่ ที่เปิดขายตารางเมตรละ 2.5 แสนบาทขึ้นไป ส่วนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายตารางเมตรละ 1.3 – 1.4 แสนบาทค่อนข้างมีการเปิดน้อย
ขณะเดียวกัน ราคาที่ดินย่านสุขุมวิท พบว่ามีการปรับตัวค่อนข้างสูงไม่ต่ำกว่า 10 % ต่อปี หรือบางแปลงมีการซื้อขายกันที่ราคา 1.5 – 2 ล้านบาท ทำให้มีผลกับราคาที่อยู่อาศัยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมน้อยกว่าในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ย่านสุขุมวิทยังเป็นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ เช่น ชาวญี่ปุ่น ซึ่งจากพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนี้ จะมองหาที่อยู่อาศัยไม่เกินจากย่านทองหล่อ และเป็นทำเลที่เงียบสงบ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ซึ่งทำเลย่านสุขุมวิทตอนกลางและไม่เกินทองหล่อยังเป็นตลาดที่ติดอันดับยอดนิยมของชาวต่างชาติเหมาะกับกลุ่มกำลังซื้อสูงและกลุ่มลูกค้านักลงทุนปล่อยเช่าคอนโดฯ ในเมือง
นายพรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2559 ทางบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม “ วีธารา สุขุมวิท 36” มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมย่านเจริญกรุง มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ด้วย
สำหรับวีธารา สุขุมวิท 36 คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร เนื้อที่โครงการกว่า 4 ไร่ จำนวน 466 ยูนิต มี 2 แบบ คือ 1 ห้องนอน ขนาด 28 – 45 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 50 – 78 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 125,000 บาท/ตร.ม. ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตก่อสร้าง โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2561
เบื้องต้นจะเปิดขายตึก A,E และ C ก่อน ส่วนตึก B และD จะเปิดขายในดือนมีนาคม ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 30% ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะมียอดขาย 50% และถ้าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้นั้น จบสิ้นปีน่าจะสามารถทำยอดขายได้ 70% ขณะที่กลุ่มลูกค้าแบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกันคือ 1. ซื้อเพื่ออยู่เอง และวางแผนระยะยาวเพื่อปล่อยเช่าเก็งกำไรในอนาคต 60% 2.ซื้อเฉพาะเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า 40%
ส่วนในช่วงปลายปีนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 1 โครงการในย่านเจริญกรุง เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเอเชียทีคบนเนื้อที่ 4 ไร่ คาดว่าจะเปิดขายตารางเมตร 80,000 – 90,000 บาท
นอกจากนี้ ยังได้เตรียบงบเพื่อซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ 700 – 800 ล้านบาท เพื่อรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 1-2 โครงการ
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนเตรียมความพร้อมที่จะยื่นไฟลิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2 ปีข้างหน้าด้วย โดยตั้งเป้าเติบโตอย่างน้อยปีละ 20%
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่sineewan@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่