เพซฯ เล็งผุด 2 โครงการใหญ่ในไทยและญี่ปุ่น ตั้งงบ 1-2 พันล้านบาทซื้อที่ดิน เพิ่มพอร์ตรายได้ต่อเนื่องถึงปี’62
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “PACE” เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี2559 ว่า ในปีนี้ทางบริษัทมีแผนลงทุนโครงการใหม่อีก 1 แห่ง ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยย่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ในรูปแบบคอนโดมิเนียมใหม่สูง 40 ชั้น ขนาด 40 ยูนิตบวก/ลบ ขนาดพื้นที่ 400-500 ตารางเมตร มูลค่าโครงการประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท ราคาขายประมาณ 150,000-200,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งจะเป็นโครงการที่แตกต่างจากคอนโดเมืองทั่วไปที่ไม่เน้นติดรถไฟฟ้าแต่จะชูห้องขนาดใหญ่แทน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด นอกจากนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการที่เมืองตากอากาศนิเซโกะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุน โดยคาดว่าจะใช้งบในการซื้อที่ดินประมาณ 500 – 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการในรูปแบบวิลล่า มูลค่าโครงการประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาและโอกาสในการพัฒนา
ส่วนความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนานั้น ในส่วนของโครงการมหาสมุทร หัวหิน พัฒนาบนพื้นที่รวม 130 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 7,000 ล้านบาทประกอบด้วย “โครงการมหาสมุทร วิลล่า” ซึ่งเป็นไพรเวท ลักชัวรี่ วิลล่า จำนวน 80 หลัง มีให้เลือก 4 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 447-587 ตารางเมตร พื้นที่ดิน 161.9 ตาราวา ขนาด 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และห้องแม่บ้าน พร้อมที่จอดรถ 3 คัน เปิดขายด้วยกรรมสิทธิ์ฟรีโฮลด์ ในราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายวิลล่าแล้ว 40% คาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จในปีนี้ และอาจจะคาบเกี่ยวถึงปี 2560 ส่วนโครงการมหาสมุทร คันทรี่ คลับ” ไพรเวทคันทรี่ คลับ พื้นที่รวม 75 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2560 ทั้งนี้ตั้งเป้าจำนวนสมาชิกเมมเบอร์ชิพ 10,000 ราย
อย่างไรก็ตาม PACE ยังมีโครงการที่พักอาศัยที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 2 โครงการ ได้แก่ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการมหานคร ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้า90% คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้ และโครงการนิมิต หลังสวน ซึ่งมีปิดการขายไปเมื่อต้นปี2558 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอEIA ทั้งนี้จะเริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายนนี้ โดยมีมูลค่าส่วนที่พักอาศัยของทั้งสามโครงการรวม 22,000 ล้านบาท ที่สามารถจะทยอยรับรู้รายได้ในอีก3ปีจากนี้(2559-2561) เฉลี่ยปีละ 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (backlog) มูลค่า 14,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าโครงการในมืออยู่ที่ 32,200 ล้านบาท จาก 3 โครงการ ได้แก่ โครงการมหานคร 18,000 ล้านบาท ,มหาสมุทร 7,000 ล้านบาท และนิมิต หลังสวน 7,200 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทจะเร่งโอนกรรมสิทธิ์เพื่อให้มีรายได้ที่ 10,000 ล้านบาท เพื่อจะนำบางส่วนไปชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดีเพื่อให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่องในปี 2562 ในปีนี้จึงวางงบซื้อที่ดิน1,000-2,000 ล้านบาทซึ่งจะเน้นพื้นที่ในกรุงเทพฯเป็นหลักสำหรับพัฒนาโครงการต่อเนื่อง
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่