เสนาฯ เปิดหมู่บ้านโซลาร์ 2 โครงการรวด เสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน/เสนาวิลล์ บรมราชชนนี – สาย5 มูลค่ากว่า 1,800.ลบ.
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการบริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินโครงการหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบรายแรก กล่าวว่า แนวโน้มการอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตมาก ทั้งนี้แนวคิดการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งในอดีตยังมีต้นทุนการติดตั้งสูงมาก ทำให้ไม่คุ้มค่า แต่เสนาฯ ได้พัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน “โซลาร์รูฟ” อย่างจริงจังมา 2 – 3 ปีแล้ว
และเพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจ จึงได้ขยายการลงทุนธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาหรือ โซลาร์ รูฟท็อป ที่จะขยายสู่ทุกโครงการของเสนาฯ ทั้งโครงการแนวราบรวมถึงการติดตั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางในโครงการคอนโดมิเนียมด้วย
ทั้งนี้ ตามแผนของกลุ่มเสนาฯ หลังจากลงนามในสัญญาความร่วมมือธุรกิจกับบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บี.กริม.เสนา” และตั้งเป้ารุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน 2 ส่วน คือ ส่วนแรกขยายการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซลาร์ฟาร์ม 1,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี คาดเพิ่มกำลังการผลิตจาก 46.5 เมกะวัตต์ เป็น 100 เมกะวัตต์ เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่เดือน ม.ค. โดยจะรับรู้เข้ามาในรูปของเงินปันผลปลายปีประมาณ 40-50 ล้านบาท
นอกจากนี้ เป็นการต่อยอดธุรกิจหลัก โดยใช้โซลาร์ รูฟท็อปในโครงการเพื่อเพิ่มมูลค่าบ้านและสร้างจุดขายใหม่ โดยเฉพาะการที่ลูกบ้านสามารถผลิตไฟฟ้าทั้งใช้เองและขายคืนภาครัฐ ส่วนธุรกิจติดตั้งโซลาร์ รูฟท็อป ตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปีข้างหน้า จะมีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ และปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้เข้ามา 200 ล้านบาท และรับรู้เป็นกำไรกว่า 10%
“เทรนด์พลังงานทดแทนนี้ต้องเกิดแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ ทางบริษัทเสนาฯพยายามศึกษาข้อมูลต่างๆ มาโดยตลอด และเมื่อต้นทุนการติดตั้งในปัจจุบันถูกลงกว่าเดิมถึง 50% ที่สำคัญคือ แนวคิดของภาครัฐที่จะให้ประชาชนสามารถผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เองและขายกลับให้ภาครัฐได้ด้วยถือเป็นเรื่องที่ดีเกิดขึ้นในอนาคตด้วย” เกษรากล่าว
โดยล่าสุด ได้เปิดตัว 2 โครงการนำร่อง หมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบรายแรกของประเทศไทย ประกอบด้วย โครงการเสนาพาร์ค วิลล์ รามอินทรา – วงแหวน จำนวน 218 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท ซึ่งโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพสามารถเดินทางได้ 2 ทาง คือ จากถนนรามอินทรา กม.9 และถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก นอกจากนี้ ยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู และแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ ห้างพรอมานาด โรงเรียนสาธิตพัฒนา และโรงพยาบาลชั้นนำ เช่น โรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ อีกด้วย
และโครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี – สาย 5 บนสังคมส่วนตัวเพียง 178 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4 ล้านกว่าบาท บนทำเลแห่งศักยภาพหลังเซ็นทรัลศาลายา สะดวกสบายด้วยเส้นทางเชื่อมถนนสายหลัก 3 ทาง ได้แก่ ถนนบรมราชชนนี , ถนนพุทธมณฑล สาย 5 และถนนศาลายา – นครชัยศรี ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล มหาวิทยาลัยมหิดลฯ โรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นต้น
“ถือเป็นการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่หัวใจรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดีโดยพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ทั้ง 2 โครงการ เริ่มต้นที่ 135 – 157 ตร.ม. ภายในโครงการมีสิ่งอำนายความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ Fitness สวนส่วนกลางที่ออกแบบโดยให้ธรรมชาติช่วยกำหนดทิศทางลม Free WiFi ที่บริเวณ Club House Bike Lanes สำหรับผู้ที่รักการปั่นจักรยาน และระบบรักษาความปลอดภัย 3 ชั้น ที่สำคัญลูกค้าที่ซื้อบ้านทั้งสองโครงการยังได้ใช้ไฟฟ้าฟรีนานถึง 25 ปี ด้วยการติดตั้ง Solar Roof ทั้งยังติดตั้งให้บริเวณพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าส่วนกลางได้กว่า 30-40%
อย่างไรก็ตาม หลังจากเปิดขาย 2 โครงการดังกล่าว ปัจจุบันมียอดขายแล้วโครงการละ 15%
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้