ครม.ไฟเขียวปรับโครงการสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ต่ำว่า 26,000 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี เริ่มมีผลบังคับใช้ปีภาษี 2560
จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 เม.ย.59) ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวมทั้งหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงการคลังได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากพบว่าหลักเกณฑ์การหักค่าใช้จ่าย การหักค่าลดหย่อน การกำหนดเงินได้พึงประเมินที่ต้องยื่นรายการสำหรับบุคคลธรรมดา และอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ไม่สอดคล้องกับภาระค่าครองชีพในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป จึงสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราภาษีดังกล่าวให้เหมาะสมเป็นธรรม และสอดคล้องกับภาระค่าครองชีพในปัจจุบัน
หนึ่งในไฮไลท์ของการปรับโครงสร้างภาษีฯ ในครั้งนี้คือการขยายเพดานรายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้ที่จะต้องเสียภาษี โดยผู้เสียภาษีที่มีเฉพาะเงินได้ประเภทเงินเดือนและหักลดหย่อนส่วนตัวโดยไม่ใช้สิทธิลดหย่อนรายการอื่น จะเริ่มเสียภาษีเมื่อมีเงินได้ 26,000 บาทต่อเดือน จากเดิมที่ผู้มีรายได้มากกว่า 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปจะเข้าเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มเพดานอัตราการหักค่าใช้จ่ายเหมาจากเดิมร้อยละ 40 ซึ่งรวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เป็นร้อยละ 50 และรวมกันต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในขณะที่อัตราการหักลดหย่อนของผู้มีเงินได้ก็มีการเพิ่มจากเดิมลดหย่อนที่ 30,000 บาทต่อปี เป็น 60,000 บาทต่อปี
และได้ทำการยกเลิกการลดหย่อนเพื่อการศึกษาของบุตร จากเดิมที่ผู้มีเงินได้สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนให้กับบุตรที่กำลังศึกษาได้คนละ 2,000 บาท
ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในครั้งนี้ จะมีผลบังคับใช้ในปีภาษี 2560 ซึ่งจะใช้ในการยื่นแบบรายการภาษีระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 31 มีนาคม 2561 คาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีของปีภาษี 2560 ประมาณ 32,000 ล้านบาท แต่จะทำให้ระบบภาษีมีความเป็นธรรมยิ่งขึ้น
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้