ใกล้อวสานบัตร ATM หลังบริการบัตรเดบิตชิปการ์ดดีเดย์เริ่มใช้วันนี้ ผู้ถือบัตร ATM แบบเดิมควรเริ่มทยอยเปลี่ยน เพราะจะสามารถใช้ได้ถึงปี 2562 เท่านั้น
เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกระลอกหนึ่งของแวดวงธุรกรรมการเงินบ้านเรา เมื่อเทคโนโลยี “ชิปการ์ด” ได้ฤกษ์เปิดฉากวันนี้ หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งออกบัตร ATM และบัตรเดบิตแบบชิปการ์ดให้กับลูกค้า และตู้เอทีเอ็มรับบัตรชิปการ์ดตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำรายการผ่านเครื่อง ATM ให้มากยิ่งขึ้น โดยบัตรดังกล่าวจะสามารถป้องกันการโจรกรรมข้อมูล และการปลอมแปลงบัตรได้ดีกว่าบัตร ATM ที่เป็นแถบแม่เหล็กแบบเดิม
ขณะนี้ ทางธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ทยอยแนะนำบัตรแบบชิปการ์ดให้กับลูกค้า โดยการคิดค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตติดชิปการ์ด และบัตรเอทีเอ็ม จะเป็นไปตามข้อตกลงของสมาคมธนาคารไทย คือ ให้คิดค่าธรรมเนียมออกบัตรใหม่ 100 บาท และรายปี 200 บาท หากมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ พ่วงกับบัตรก็จะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่ถือบัตรแถบแม่เหล็กแบบเดิมก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติไปจน 31 ธันวาคม 2562
สำหรับบัตรชิปการ์ด หรือที่เรียกกันในชื่ออื่น อาทิ Smart Card หรือ EMV (Europay, MasterCard
และ Visa) คือ บัตรที่มีการเก็บข้อมูลของผู้ถือบัตรไว้ในชิป เป็นเทคโนโลยีที่ได้รรับการยอมรับ โดยหลายประเทศทั่วโลกได้มีการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็มที่เป็นชิปการ์ดแล้ว ส่วนประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
สําหรับในประเทศไทย บัตรที่ใช้ชิปการ์ดก่อนหน้านี้ มีเพียงบัตรเครดิตเท่านั้น
รายละเอียดบัตรชิปการ์ดของธนาคารต่างๆ
ธนาคารกรุงเทพ
บัตรบีเฟิสต์ สมาร์ท เป็นบัตรแบบชิปการ์ดที่ทางธนาคารกรุงเทพได้เปิดตัวออกมา โดยชูไฮไลท์การเป็นบัตรที่ให้ความปลอดภัยสูงกว่าบัตรบีเฟิสต์ธรรมดา ด้วยเทคโนโลยีชิพ EMV ปัจจุบันธนาคารไม่ได้บังคับให้ลูกค้าเปลี่ยนไปใช้บัตรบีเฟิสต์สมาร์ท แต่หากต้องการเปลี่ยน จะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท ต่อปี (ปกติ 300 บาท) สำหรับผู้ที่เปลี่ยนเป็นบัตรชิปการ์ดภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2559
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย บัตรเอทีเอ็ม และบัตรเดบิตมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท ค่าธรรมเนียมรายปีบัตรเดบิตอยู่ที่ 200 บาท โดยชิปการ์ดจะมีอายุ 5 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารเจ้าของบัตร
ธนาคารกสิกรไทย
นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า บัตรเดบิตกสิกรไทยแบบชิปการ์ด มี 3 รูปแบบ คือ บัตรเดบิต K-Debit Card เป็นบัตรที่สามารถทำธุรกรรมได้ที่เครื่อง ATM ในการซื้อสินค้าในร้านค้า และช้อปออนไลน์ได้ทั่วโลก, บัตรเดบิต K-My Play ที่เน้นไลฟ์สไตล์คนที่ชอบความบันเทิงออนไลน์ผ่าน 3 แอพพลิเคชั่นดัง ได้แก่ PrimeTime, KKBOX, OOKBEE และบัตรเดบิต K-Max Plus ที่มาพร้อมกับค่ารักษาพยาบาล ประกันอุบัติเหตุ โดยลูกค้าที่สนใจเปลี่ยนบัตรเดบิตจากแบบแถบแม่เหล็กเป็นชิปการ์ด สามารถติดต่อที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ โดยจะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้า และเสียเฉพาะค่าธรรมเนียมรายปีตามประเภทของบัตร
ธนาคารไทยพาณิชย์
นางสาวพรรณพร คงยิ่งยง รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้เปิดตัว “บัตรเดบิต เอส สมาร์ท” บัตรเดบิตชิปการ์ดที่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินและเงินในกระเป๋าสูงสุด 5,000 บาท เมื่อถูกชิงทรัพย์ และ/หรือปล้นทรัพย์ รวมถึงวิ่งราวทรัพย์ และคุ้มครองความปลอดภัยของบัญชีด้วยระบบชิปการ์ด โดยธนาคารจะเริ่มดำเนินการแนะนำให้ลูกค้าทยอยเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มและบัตรเดบิตในระบบแถบแม่เหล็กเป็นบัตร “บัตรเดบิต เอส สมาร์ท” ตั้งแต่ 15พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป โดยบัตรดังกล่าวมีบริการ 4 รูปแบบ ได้แก่ บัตรเดบิต เอส สมาร์ท สำหรับคนชอบช้อป, บัตรเดบิต เอส สมาร์ท พลัส ที่มาพร้อมแผนประกันภัยอุบัติเหตุ, บัตรเดบิต เอส สมาร์ท เอ็กซ์ตร้าพลัส สำหรับคนชอบความคุ้มค่า ทั้งเจ็บ ทั้งป่วย มีเงินชดเชย และ บัตรเดบิต เอส สมาร์ท ซูเปอร์ พลัส สำหรับคนชอบความอุ่นใจ เจ็บก็จ่ายรายได้ไม่หด
ธนาคารทหารไทย
ด้านธนาคารทหารไทย ได้เปิดตัวบัตรเดบิต ทีเอ็มบี ออลล์ ฟรี แบบมี Chip ที่มีไฮไลท์คือสามารถกดเงินได้ทุกตู้ ทุกที่แบบไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนครั้ง โดยบัตรดังกล่าวมีอายุการใช้งาน 5 ปี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 500 บาท ค่าธรรมเนียมปีต่อๆ ไป 350 บาทต่อปี กรณีบัตรหาย/ บัตรชำรุด/ ทำบัตรใหม่ 350 บาท/บัตร
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย กาญจนา พาหา บรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ kanchana@ddproperty.com