“ออลล์ อินสไปร์ ”อสังหาฯน้องใหม่ เดินหน้าลงทุนต่อเนื่องเล็งเปิด 3-4 โครงการ ตั้งเป้าโตก้าวกระโดด ปี’60 รายได้แตะ 3,000 ล้านบาท พร้อมแต่งตัวเข้าตลาดอีก 2 ปีข้างหน้า
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 3 ปี ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 410 ล้านบาท(ชำระเต็ม) ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทพัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้ว 4 โครงการ ได้แก่ 1.The Excel Bearing มูลค่าโครงการ 120 ล้านบาท ปัจจุบันโอนหมดแล้ว 2.The excel Hideaway คอนโดมิเนียมติดสนามกอล์ฟ มูลค่าโครงการ 320 ล้านบาท 3.The excel Hybrid ลาซาล ซอย 8 มูลค่าโครงการ 220 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือขาย 4 – 5 ยูนิต คาดว่าจะโอนได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และ 4.The excel Parc ลาซาล ซอย 19 มีทั้งหมด 104 ยูนิต มูลค่าโครงการ 230 ล้านบาท เป็นโครงที่นำออกไปขายต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ ไต้หวัน และจีน ขณะนี้มียอดขายแล้ว 49% ส่วนยูนิตที่เหลือคาดว่าจะเปิดขายปลายปีนี้ในประเทศไทย
ล่าสุด เปิดคอนโดมิเนียมใหม่ The Excel Groove เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น บนที่ดินทั้งหมด 7.1 – 74.7 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส ทั้งหมด 5 อาคาร ทั้งสิ้น 655 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท เบื้องต้นเปิดให้จองเฟสแรก จำนวน 1 อาคาร จำนวน 182 ยูนิต ห้องขนาด 25-30 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 900,000 บาท หรือเฉลี่ยตารางเมตรละ 39,600 บาท นอกจากนี้ ยังมีส่วนของ รีเทล พื้นที่ขนาด 2,000 ตารางเมตร จะเริ่มก่อสร้างปลายปี59 ทั้งนี้ โครงการอยู่ระหว่างการยื่น EIA คาดว่าจะผ่านภายในเดือนกันยายนนี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนตุลาคม และโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2560
อย่างไรก็ดี โครงการ The Excel Groove จะเปิดให้จองเฟสแรก ในวันที่ 28 – 29 พ.คนี้ ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าที่จองล่วงหน้าผ่านเว็ปไซต์ และสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ รวม 5,000 ราย แนวโน้มน่าจะเปิดขายเฟส 2 ด้วยในวันเดียวกัน
สำหรับแผนการดำเนินการของบริษัทฯ ในปี 2559 จะพัฒนาโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง ราว 3 -4 โครงการ ประกอบด้วย 1.ทาวน์โฮม 3 ชั้น ย่านเกษตรนวมินทร์ จำนวน 10 ไร่ ทั้งหมด 100 กว่ายูนิต ราคาเริ่ม 3 ล้านบาท มูลค่ารวม 300 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดปลายปีนี้ 2.เป็นคอนโดมิเนียมซึ่งไปเทคโอเวอร์มาพัฒนาต่ออยู่ย่านอุดมสุข โดยใช้ชื่อว่า excel อุดมสุข เนื้อที่ทั้งหมด 600 ตารางวา เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise ราคาเริ่ม 1.4 ล้านบาท จำนวน 200 ยูนิต ขนาดห้องเริ่ม 25 – 50 กว่าตารางเมตร มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายในช่วงเดือนสิงหาคม
3.คอนโดมิเนียม ย่านคูคต ใกล้กับ Lotus คลอง 2 เนื้อที่ 5 ไร่เศษ มีทั้งหมด 3 อาคาร ราคาเริ่ม 8 แสนบาท มูลค่าโครงการราว 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดปลายเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีที่ดินที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีก 1 แปลง ย่านสุขุมวิท ซอย 50 สถานีอ่อนนุช ที่ดิน 2 ไร่เศษ คาดว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมที่มีความสูงไม่ต่ำกว่า 20 ชั้น พร้อมกันนี้ ทางบริษัทมีแผนเทคโอเวอร์โรงแรม และ เซอรวิสอพาร์ตเม้นต์ ตามหัวเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ เบื้องต้นได้มีการพูดคุยเจรจาแล้วที่พัทยา
นายธนากร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการลงทุนในอนาคต นับจากปี 2559 เป็นต้นไป บริษัทฯ ได้มีการปูทางในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2561 และจะต้องมีรับรู้รายได้ที่โตต่อเนื่อง โดยปี 2558ที่ผ่านมา รับรู้รายได้ 100 ล้านบาท และตั้งเป้ารับรู้รายได้ในปี 2559 จำนวน 200 ล้านบาท และปี 2560 จะเป็นปีแห่งการก้าวกระโดด รายได้จะไปปิดที่ 3,000 ล้านบาท และปี 2561 รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 4,000 ล้านบาท
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com