บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ: ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคนเรามีรูปแบบที่แตกต่างกันไป นอกจากจับจ่ายใช้สอยแล้ว มนุษย์เงินเดือนยุคใหม่เริ่มคิดถึงการลงทุนเพื่อให้มีช่องทางการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพราะบางครั้งเงินเดือนเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอและไม่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบสะดวกสบายได้ เพราะบางครั้งอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และนั่นหมายความว่า เราอาจจะไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเสมอไป หนึ่งในวิธีที่จะพาตัวเองให้รอดจากสถานการณ์ดังกล่าวในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนก็คือ การหาเงินด่วนจากบริการปล่อยสินเชื่อต่างๆ โดยการนำทรัพย์สินหรือเงินเดือนของตนเองนั้นเป็นหลักประกัน เพื่อให้ได้เงินก้อนไว้ใช้สำหรับลงทุนตั้งแต่วงเงินเล็กๆ ไปจนถึงสินเชื่อ 6-7 หลักกันเลยทีเดียว ปัจจุบันมีช่องทางหาเงินด่วนหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปสำหรับการอนุมัติให้กู้ยืม แต่เหนือสิ่งอื่นใดถึงจะมีเงื่อนไขบ้างบางประการ แต่รับรองว่าดอกเบี้ย และการผ่อนชำระต้องดีกว่าการกู้นอกระบบ ซึ่งมีดอกรายวันที่สูง และที่สำคัญค่อนข้างเสี่ยงกับการตามทวงหนี้ที่น่ากลัว อย่างแน่นอน ทีนี้มีการปล่อยสินเชื่อในระบบแบบไหนที่ได้รับความนิยม (และปลอดภัยต่อชีวิต) บ้างในปัจจุบัน ลองมาดูกัน
1. บ้านเปลี่ยนเป็นเงิน
ช่องทางใหม่ล่าสุด ที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ถือว่าเป็นสินเชื่อที่ฮ็อตฮิตติดตลาดมาก เพราะการขอสินเชื่อแบบนี้ใช้หลักประกันเป็นที่อยู่อาศัยหรือบ้านที่ปลอดภาระ โดยส่วนใหญ่จะให้วงเงินขั้นต่ำที่ 500,000 บาท ตั้งแต่หลักประกันประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และห้องชุดพักอาศัย ที่ให้วงเงินสูงสุด 80 % ของราคาประเมิน รวมไปถึงอาคารพาณิชย์กับวงเงินสูงสุดไม่เกิน 70% ของราคาประเมิน ข้อดีของการเปลี่ยนบ้านเป็นเงิน หลักๆ คือการใช้ทรัพย์สินที่มีมูลค่า อาทิ บ้านที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน ดังนั้นระยะเวลากู้จึงนานไปด้วย โดยมีระยะเวลากู้สูงสุดถึง 30 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าอายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 65 ปี) ดังนั้นคำนวนง่ายๆ คือ ผู้กู้ที่ต้องการกู้สูงสุดที่ 30 ปี จะต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปี และสามารถ มีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 3 คน (รวมผู้กู้หลักเป็น 4 คน) ซึ่งผู้ที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมต้องมีความสัมพันธ์กับผู้กู้หลัก เช่น เป็นสามี ภรรยา พี่น้องท้องเดียวกัน หรือบิดามารดากู้ร่วมกับบุตร เป็นต้น โดยสามารถคำนวนความสามารถในการกู้ได้ที่
https://www.krungsri.com/bank/th/Other/Calculator/HomeCalculator/BorrowingPowerCaculator.html
และหนึ่งในธนาคารที่กำลังออกแคมเปญสินเชื่อบ้านแลกเงินที่น่าสนใจ ได้แก่ ธนาคารกรุงศรี ซึ่งนอกจากแคมเปญบ้านเปลี่ยนเป็นเงินแล้ว ทางทางธนาคารกรุงศรีฯ ยังจัดโปรโมชั่นพิเศษลุ้นรับทาวน์โฮม 2 ชั้น ในโครงการบ้านพฤกษา รถยนต์มาสด้า 2 หรือทองคำมูลค่า 10,000 บาท รวม 102 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2.88 ล้านบาท เมื่อยื่นขอสินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช ระหว่างวันนี้ ถึง 30 พ.ย. 59 รับ 1 สิทธิ์ สำหรับทุกๆ 100,000 บาท ของยอดเบิกรับเงินกู้ภายในสิ้นปีนี้ด้วย
สนใจสินเชื่ออเนกประสงค์ อนุมัติเร็ว อัตราดอกเบี้ยต่ำ ติดต่อ สินเชื่อกรุงศรีโฮมฟอร์แคช โทร 1572 กด 9 หรือ https://www.krungsri.com/bank/th/PersonalBanking/LoanProducts/KrungsriHomeLoan/HomeforCash.html
2. บัตรเครดิต/ บัตรกดเงินสด
สิ่งที่ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือนได้เป็นอย่างดีของช่องทางนี้ก็คือ ความสะดวกของการจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะใช้ในการผ่อนสินค้า หรือรูดชำระแทนเงินสด ซึ่งทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรนั้นก็จะมียอดสะสมเพื่อแลกของรางวัลมาล่อตาล่อใจ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคารเจ้าของบัตร และยังสามารถกดเงินสดออกมาเหมือนบัตรกดเงินสด โดยมีดอกเบี้ยเท่ากันอยู่ที่ประมาณ 28% ต่อปี ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจ่ายชำระหนี้ด้วย ซึ่งข้อแตกต่างของบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดก็คือบัตรกดเงินสดนั้นสามรถถอนเงินสดจำนวนมากได้ เนื่องจากส่วนมากบัตรกดเงินสดจะอนุมัติวงเงินมากกว่าบัตรเครดิตและให้ระยะเวลาการผ่อนคืนนานกว่า
3. สินเชื่อบุคคลธรรมดา
การเป็นหนี้กรณีนี้คล้ายกับการเข้าธนาคารไปกู้เงินแล้วก็เป็นหนี้ด้วยความง่ายดาย แต่มองกลับกันด้วยความจำเป็นในสถานภาพทางการเงิน การได้รับเงินจากการเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกและรวดเร็ว เนื่องจากการเป็นหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลนั้นทางธนาคารไม่ต้องการหลักทรัพย์ใดๆ ค้ำประกัน ซึ่งจะสามารถได้รับเงินเป็นก้อนมาเพื่อที่จะเอาไปใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ตามความเหมาะสมของผู้ขอ โดยจำนวนเงินที่ขอสินเชื่อนั้นจะได้อยู่ที่ประมาณ 5 เท่าของเงินเดือนแต่ด้วยความเสี่ยงนี้เองที่จะนำไปสู่หนี้เสีย อัตราดอกเบื้ยของสินเชื่อส่วนบุคคลจึงมีอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านซึ่งมีบ้านเป็นหลักประกัน แต่ทั้งนี้ยังสามารถกำหนดจำนวนเงิน ในการชำระเงินรายเดือนและระยะเวลาชำระคืนเงินได้ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบกว่าช่องทางอื่นๆ เนื่องจากจะทำให้สามารถกำหนดอนาคตข้างหน้าได้ว่าจะเคลียร์หนี้หมดได้ตอนไหน
4.รถแลกเงิน
รถแลกเงินหรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกติดปากว่า “คาร์ฟอร์แคช” (Car for Cash) คือการนำรถมาจำนำทะเบียนไว้กับสถาบันทางการเงินที่ให้กู้สินเชื่อรถแลกเงิน โดยมีเงื่อนไขหลักคือรถที่นำมายื่นกู้จำเป็นต้องชำระด้วยเงินสดหรือผ่อนหมดแล้วเท่านั้นเพื่อความคล่องตัวทางการเงิน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารจะแตกต่างกันไป ซึ่งจุดเด่นของการนำรถมาแลกเงินตรงนี้นอกจากจะใช้รถเป็นหลักประกันในการกู้เงินสดแล้ว ยังสามารถนำรถยนต์ที่นำมาค้ำไปใช้งานได้ปกติอีกด้วย ถือเป็นอีกช่องทางเงินด่วนที่น่าสนใจสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรถเป็นของตัวเองและยังมีดอกเบี้ยต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลด้วย รวมไปถึงการอนุมัติก็จะดูง่ายขึ้นเพราะมีหลักค้ำประกันเป็นรถยนต์ แต่ด้วยการประเมินราคาจากอายุการใช้งานรถจึงมีข้อกำหนดอายุรถที่จะนำมาใช้อยู่ที่ประมาณ 15-16 ปีแล้วแต่ธนาคาร โดยมีระยะเวลากู้สูงสุดที่ 5-7 ปี วงเงินสูงสุดที่ 5 เท่าจากราคาประเมิน
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่