เร่งจัดตั้งกองทุนเลี้ยงชีพหลังเกษียณจี้นายจ้างจ่ายสมทบ 3% มีผลบังคับใช้ปี'61

16 ส.ค. 2559

หลังครม.ไฟเขียวกฎหมาย ร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำนาญแห่งชาติ บังคับนายจ้างจัดตั้งกองทุนหลังเกษียณ พร้อมต้องจ่ายสมทบเท่ากันที่ 3% ช่วง 3 ปีแรก คาดเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2561

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างกำหนดสัดส่วนการส่งเงินสะสมของลูกจ้าง และการจ่ายเงินสมทบของนายจ้าง โดยลูกจ้างต้องจ่ายเงินสะสมอัตรา 3% ของเงินเดือน และนายจ้างต้องจ่ายสมทบเท่ากันที่ 3% แต่หลังจากปีที่ 4-6 เพิ่มขึ้นเป็น 5% และตั้งแต่ปีที่ 7 เป็นต้นไป ปรับเพิ่มเป็น 7% ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดและจะไม่เพิ่มอีกแล้ว

“กบช.จะไม่เป็นภาระแก่ลูกจ้างและนายจ้าง เพราะอัตราจ่ายเงินสะสมเท่ากัน ส่งผล ให้ลูกจ้างที่ทำงานนาน ๆ จะมีเงินสะสมบวกเงินสมทบ รวมถึงเงินผลประโยชน์จากการลงทุน ทำให้ มีเงินกองทุนใหญ่ขึ้น และเพียงพอต่อการดำรงชีวิตในช่วงเกษียณได้ในระดับหนึ่ง”

ทั้งนี้ กบช.จะเริ่มบังคับในปี 2561 เบื้องต้นจะบังคับใช้กับผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 รายขึ้นไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สำหรับลูกจ้างที่ต้องจ่ายเงินสมทบก็ไม่มีภาระเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะในปี 2561 การลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะมีผลบังคับใช้ ทำให้มีภาระการเสียภาษีน้อยลง

โดยกระทรวงการคลังก็ต้องการให้นำภาระภาษีที่ลดลงกลับมาเป็นเงินออมเพื่อใช้ในวัยเกษียณของประชาชน รวมทั้งยังยกเว้นสำหรับลูกจ้างที่รายได้ไม่ถึง 1 หมื่นบาทต่อเดือน ไม่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ โดยให้นายจ้างจ่ายสมทบฝ่ายเดียว เพราะถือเป็นลูกจ้างที่มีรายได้น้อย

“การตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ เป็นเรื่องของนายจ้างและลูกจ้าง รัฐบาลไม่เกี่ยวและคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือการจ่ายสมทบของทั้งสองฝ่าย เพราะภาระการจ่ายสมทบก็นำมาเป็นรายจ่ายหักภาษีได้อยู่แล้ว”

อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ