เอกชนตีปี๊บรอรถไฟฟ้าสายสีเทา แห่ปักหมุดยึดทำเลทองใหม่พัฒนาคอนโดมิเนียมหรูใจกลางธุรกิจย่านสาทร-นราธิวาสฯ ด้านฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส ชี้สาทร-นราธิวาส อุปสงค์และอุปทานยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งการอยู่อาศัยและลงทุน
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พูดถึงตลาดคอนโดมิเนียมย่านสีลม สาทร ว่าปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมสะสมทั้งหมด ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 59 ทั้งหมด 22,844 ยูนิต คิดเป็น 4.7% ของคอนโดในกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 3 โซนดังนี้ 1.โซนสาทรตะวันออกเหลือขาย 44% 2.โซนสาทรตะวันตกเหลือขาย 31% และ3.โซนสีลม เหลือขาย 25% ที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมที่มีการเปิดตัวใหม่อัตราการขายทั้ง 3 โซนเฉลี่ย 92% ส่วนคอนโดมิเนียมในซอยอัตราการขายบางโครงการเหลือขาย 50% ขณะที่คอนโดมิเนียมในย่านดังกล่าว มีราคาขายต่อตารางเมตรเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 แสนบาท
อย่างไรก็ดี ย่านสาทร-นราธิวาส พบว่าอุปสงค์และอุปทานยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งการอยู่อาศัยและลงทุนโดยมีปัจจัยบวกที่ส่งเสริมให้ตลาดคอนโดมิเนียมย่านสีสม สาทรยังเป็นที่ต้องการอยู่ ซึ่งปัจจุบันคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่ในย่านดังกล่าวมีการเปิดตัวค่อนข้างน้อย เนื่องจากต้นทุนราคาที่ดินแพงปรับตัวสูงขึ้น 3 – 10 % ต่อปี ในขณะที่ย่านสีสม สาทรยังคงเป็นแหล่งงานที่สำคัญมีคนที่ทำงานในอาคารสำนักงานในพื้นที่นี้มีประมาณ 242,000 – 322,000 คน รวมถึงมีแหล่งสถานศึกษาชื่อดังหลายแหล่ง โรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ที่สำคัญในย่านดังกล่าวจะมีโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเทาที่วิ่งพาดผ่าน ซึ่งจะยิ่งเสริมศักยภาพทำเลย่านนี้ให้เป็นทำเลทองได้ในอนาคต
สำหรับรถไฟฟ้าสายสีเทา มีระยะทางรวม 39.91 กม. จำนวน 39 สถานี แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 วัชรพล – ทองหล่อ ระยะทาง 16.25 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี ช่วงที่ 2 พระโขนง- พระราม 3 ระยะทาง 12.17 กิโลเมตร จำนวน 15 สถานี และช่วงที่ 3 พระราม 3 – ท่าพระ ระยะทาง 11.49 กิโลเมตร จำนวน 9 สถานี
ซึ่งปัจจุบันช่วงที่ 1 ยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบ คาดว่าในอนาคตโครงการจะมีความล่าช้าออกไป และส่งผลยืดการเปิดบริการออกไปเป็นปี 2564 จากเดิมคือปี 2562
ส่วนการก่อสร้างในช่วงที่ 2 ช่วงพระโขนง-พระราม 3 และช่วงที่ 3 พระราม 3-ท่าพระ กทม.จะศึกษาความเหมาะสมในการก่อสร้างต่อไป ภายหลังได้เปิดให้บริการในระยะแรกก่อน
แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงทันทีที่รถไฟฟ้าสายสีเทามีความคืบหน้า นั่นคือ ตามแนวถนนประดิษฐ์มนูธรรม เพราะมีความพร้อมในเรื่องของโครงการค้าปลีกและไม่ไกลจากพื้นที่ที่มีความเจริญในปัจจุบันอย่างถนนลาดพร้าว แต่ยังขาดเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าปัจจุบันเท่านั้น
ทั้งนี้ จากการสำรวจราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเทาในเฟสแรก พบว่า บริเวณรามอินทรา เสนอขายอยู่ที่ 2-2.5 แสนบาท/ตร.ว. ส่วนซอยสุขุมวิท 71 หรือซอยเอกมัย ราคาที่ดินช่วงกลางซอยอยู่ที่ 3-4 แสนบาท/ตร.ว. ส่วนสุขุมวิท 55 หรือซอยทองหล่อช่วงกลางซอยอยู่ที่ 5-6 แสนบาท/ตร.ม. จะเห็นว่าหากมีการเวนคืนที่ดินบริเวณช่วงต้นๆ เส้นทาง จะมีต้นทุนในการเวนคืนที่สูงมาก
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เตรียมเคลียร์พื้นที่ย่านถนนนราธิวาสราชนครินทร์ พัฒนาคอนโดมิเนียมใหม่สูง 45 ชั้น “ไนท์บริดจ์ ไพรม์ สาทร (KnightsBridge Prime Sathorn)” บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่เศษ มีทั้งหมด 726 ยูนิต ราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 1.5 แสนบาท หรือ ราคาเฉลี่ยเริ่ม 4 – 6 ล้านบาท นับว่าเป็นก้าวสำคัญของทางบริษัทออริจิ้น กับการเข้ามาพัฒนาโครงการย่านใจกลางธุรกิจ และเป็นการเปิดขายคอนโดมิเนียมราคาอัพไซต์เป็นครั้งแรกด้วย
ก่อนหน้านี้ มีคอนโดหรู “นารา 9” ย่านถนนสาทร-นราธิวาส ของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 40 ชั้น จำนวน 361 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ดินกว่า 3 ไร่ มีมูลค่าโครงการประมาณ 2,400 ล้านบาท ห้องชุดเป็นแบบยูนิตหน้ากว้าง มีระเบียงทุกยูนิต มองเห็นวิวแบบ 360 องศา ขนาด 1 ห้องนอน ราคาเริ่มต้น 5.8 ล้านบาท และ 2 ห้องนอนราคาเริ่มต้น 10 ล้านบาท ปัจจุบันโครงการดังกล่าวขายเกือบหมดแล้ว
ต้องรอลุ้นกันว่า “ไนท์บริดจ์ ไพรม์ สาทร (KnightsBridge Prime Sathorn)”หลังจากเปิดอย่างเป็นทางการ ยอดจองจะวิ่งกระฉูดตามที่ต้องการหรือไหม!
อัพเดทข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี้
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com
