8 เคล็ดลับ สอนเด็ก Gen Z ให้ใช้เงินเป็น

5 ม.ค. 2560

ครั้งที่แล้วเรานำเสนอเกี่ยวกับคน Gen Y (กลุ่มคนที่เกิดระหว่าง พ.ศ.2523 – 2540) กันไปแล้ว ว่าทำไมคน Gen Y ถึงมีปัญหากับเรื่องการเก็บออมเงินกันนัก คราวนี้มาถึง กลุ่ม Gen Z เด็กที่เกิดหลังจากปี 2540 เป็นต้นไปกันบ้าง ซึ่งก็คือรุ่นลูกหลานคุณนั่นแหละ ว่าเราจะมีเคล็ดลับอย่างไรที่จะสอนให้เด็กเหล่านี้ใช้เงินเป็นตั้งแต่ยังเล็ก

ก่อนจะมาแนะนำเคล็ดลับต่างๆ เรามาสรุปลักษณะของเด็ก Gen Z แบบคร่าวๆ กันก่อนเพื่อทำความเข้าใจ

สำหรับเด็กกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและอินเตอร์เนต (Facebook IG Line Youtube ซื้อของผ่านออนไลน์) ทำให้ชอบความสะดวกสบาย บางทีอาจจะมีนิสัยชอบให้ตามใจก็ได้ มักจะถูกเลี้ยงโดยคุณปู่ย่าตายาย เพราะ พ่อแม่ต้องออกไปทำงาน จึงไม่มีเวลาเลี้ยงดู พอให้ปู่ย่าเลี้ยงก็เลยอาจจะถูกตามใจมากเกินไป ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องสอนลูกในยุคนี้ให้มีความรับผิดชอบทางด้านการเงินนั้น จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ แต่ไม่เป็นไร เพราะเรามีเคล็ดลับง่ายๆ 8 ข้อดังนี้

1.สอนให้รู้จักคุณค่าของเงิน
โดยใช้หลักการของคนญี่ปุ่น ได้แก่การเปรียบเทียบมูลค่าของเงินในแต่ละรายการว่าอันไหนมาก อันไหนน้อยกว่า โดยการให้เด็กเห็น กองเงินของเงินเดือนว่า ทั้งเดือนคุณพ่อคุณแม่ทำงานมาได้เงินเดือนกองเท่านี้ โดยอาจจะเทียบกับ กองเงินของค่าเทอมของตัวเองว่า กองเงินค่าเทอมใหญ่ขนาดไหน เมื่อเทียบกับกองเงินเดือนของพ่อแม่

รวมถึงอาจจะให้เขาเห็นถึงรายจ่ายรายการอื่นๆ ด้วยว่า ที่จ่ายรายการนี้ไป กองเงินใหญ่แค่ไหน โดยการสอนข้อนี้จะช่วยให้เด็กเข้าใจว่า กองเงินรายการไหนเยอะ อันไหนน้อย เด็กจะเรียนรู้ไปด้วยว่า พ่อกับแม่ออกไปทำงานเพื่อมีเงินเดือนมาเลี้ยงครอบครัว หรือ ส่งลูกเรียนดีๆ

2.สอนให้รู้จักเก็บเงินให้ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ
ข้อนี้ก็คือการไม่ซื้ออะไรง่ายๆ ให้กับลูก โดยหากเป็นของที่ลูกอยากได้เอง โดยถ้าไม่จำเป็นกับการเรียน ก็ต้องฝึกให้เก็บเงินซื้อเอง แต่ก็อาจจะให้รางวัลสนับสนุนบางส่วนบ้างก็ได้ เช่น ถ้าอยากได้ของเล่นใหม่ ก็อาจจะตั้งเป้าให้เก็บเงินเอง ซึ่งหากเป็นของที่มีประโยชน์ก็จะให้เงินช่วยบางส่วนก็ได้ แต่ห้ามซื้อให้แบบตามใจเด็ดขาด

3.พาไปฝากเงินที่ธนาคาร
หากลูกมีการเก็บเงินได้อย่างสม่ำเสมอทุกอาทิตย์จนสามารถมีเงินใส่กระปุกออมสินจนเต็มแล้ว ก็ให้พาไปเปิดบัญชีที่ธนาคารเลย ซึ่งจะได้อธิบายถึงความสำคัญของธนาคาร ว่าถ้าเราฝากเงินกับธนาคาร เราจะได้อะไรแล้วให้เค้าเห็นเงินเติบโตในบัญชีบ่อยๆ โดยอาจจะ update สมุดบัญชีของลูกบ่อยๆ เพื่อให้ลูกได้เห็นเงินในบัญชีที่งอกเงยขึ้น แถมรู้เรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารให้เพิ่มอีกด้วย

4.สอนให้บันทึกรายรับรายจ่ายผ่าน Application ใน Smartphone
ต้องยอมรับว่าเด็กยุคนี้ใช้ Application ในมือถือเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้นการจะให้จดลงในสมุดทุกๆ วัน อาจจะเกิดความน่าเบื่อในการทำบัญชีรายรับรายจ่าย

ดังนั้นการบันทึกรายรับรายจ่ายลงผ่าน Application ใน Smartphone น่าจะทำให้เด็กเกิดความสนุกได้ แถมอาจจะมีให้รางวัลเพิ่มเติมถ้าทำบัญชีรายรับรายจ่ายผ่าน Application แล้วเอามาส่งให้ตรวจ ซึ่ง Application ฟรีๆ ที่สามารถเก็บบันทึกบัญชีรายรับรายจ่ายได้ เช่น Spending ,Pocket Expense ,Expensify เป็นต้น อ่านเพิ่มเติม บัญชีรายรับ-รายจ่ายยุคใหม่ทำได้ง่ายด้วยสมาร์ทโฟน

5.พาไปวัดหรือสถานสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส
การทำให้เด็กมีความคิดต่อเรื่องการเงินดีขึ้น เช่น การพาเด็กไปวัด เพื่อให้เด็กรู้จักการทำบุญ การให้ เช่น ตามวัดจะมีตู้หยอดให้ทำบุญ พ่อแม่ก็จะได้สอนว่าถ้าเราเก็บเงินได้เยอะๆ มากพอ เราก็จะสามารถแบ่งปันช่วยเหลือคนอื่นๆได้ หรือ การพาไปสถานสงเคราะห์ต่างๆ เช่น พาไปทำบุญบ้านพักคนชรา ก็จะได้สอนทั้งเรื่องการให้ แต่สอนในเรื่องของการไม่มีเงินเก็บมากพอ จึงทำให้ต้องมาพึ่งสถานสงเคราะห์ ลูกหลานก็ไม่สนใจ เป็นต้น

6.ฝึกให้ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แทน
เช่น การให้ลูกมีกิจกรรมช่วยเหลือครอบครัว เช่น การให้ล้างจาน การให้กวาดบ้าน ถูพื้น ก่อนเล่นเกมส์ เป็นต้นว่า ให้ช่วยกวาดพื้นถูพื้น 1 ชม จะให้เล่นเกมส์ 30 นาที เป็นต้น หรืออาจให้รางวัลเป็นเงินฝากเพิ่มในบัญชีธนาคาร ถ้าทำกิจกรรมให้กับครอบครัวได้ตามตกลงไว้

7.กำหนดงบประมาณในการซื้อของแต่ละครั้ง
วิธีนี้ก็คือ การกำหนดให้ลูกรู้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า มาห้างนี้ มาร้านนี้ มีกำหนดซื้อได้แค่ 30 บาท เช่น ให้ซื้ออะไรก็ได้ แต่ห้ามเกิน 30 บาทเป็นต้น ซึ่งธรรมชาติของเด็กก็จะหยิบของที่อยากได้ก่อน แต่สุดท้ายพอมารวมราคาอาจจะเกิน 30 บาทไปเยอะ ก็ต้องถึงเวลาที่จะเลือกว่า สรุปแล้วซื้ออะไรดีที่จะได้ประโยชน์ต่อตัวเด็กเองมากที่สุด ซึ่งสามารถใช้กับทั้งการเดินในห้าง ในร้านสะดวกซื้อ หรือร้านหนังสือก็ได้ ไอเดียนี้เห็นว่ามีหลายครอบครัวที่ทำและได้ประโยชน์มากๆ ซึ่งก็จะทำให้เด็กรู้คุณค่าของเงินเป็นอย่างดี

8.พาไปดูงานแสดงต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุน
ข้อนี้อาจจะใช้กับเด็กที่เริ่มโตสักหน่อย ก็น่าจะประมาณ ระดับประถมศึกษาตอนปลายขึ้นไป ซึ่งพ่อแม่ที่พาไป ก็จะได้มีโอกาสสอนลูกเกี่ยวกับเรื่องการเงินการลงทุน กองทุนคืออะไร การกู้เงินคืออะไร ประกันชีวิตคืออะไร เป็นต้น

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือใครกำลังมองหาบ้านและคอนโดก็สามารถดูรีวิวโครงการใหม่ได้ที่นี่

genz-01

เขียนโดย : Kevin’s Daddy คุณพ่อนักวางแผนการเงิน
Facebook : Kevin’s Daddy คุณพ่อนักวางแผนการเงิน
จาก AomMoney.com : “8 เคล็ดลับ สอนเด็ก Gen Z ให้ใช้เงินเป็น”

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

เช็คหมดอายุ เงินในเช็คจะหายไหม?

เช็ค ถือว่า เป็นหนึ่งในวิธีการสั่งจ่ายที่นิยมทำกันในปัจจุบันเพราะมีค

อ่านต่อ26 ธ.ค. 2559