แบงก์พาณิชย์ -รัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้ ช่วยลดภาระ – ความเดือดร้อนผู้ประสบภัยด้านที่อยู่อาศัย “ออมสิน” มอบสิทธิพิเศษลูกค้าชั้นดี ปลอดชำระหนี้เงินต้น 2 – 3 ปี ธอส. ช่วยลูกค้าเก่า-ใหม่ ลูกค้าเดิมงดจ่ายดอกเบี้ย 3 เดือนแรก เดือนที่ 4 – 12 จ่ายดอกเบี้ย MRR -2.50 พร้อมออกสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 3%นาน 3 ปี ด้าน LH Bank พักชำระเงินต้น 12 เดือนสำหรับลูกค้ารายย่อย พร้อมให้สินเชื่อเพิ่มลูกค้าธุรกิจ
อุทกภัยน้ำท่วมในภาคใต้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ทั้งด้านอาหาร เครื่องใช้เพื่ออุปโภคบริโภค โดยเฉพาะความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากภาวะดังกล่าวข้างต้น ทำให้กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินได้ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีหลายๆสถาบันการเงิน ที่มีการออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า เช่น ธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้ออกมาตรการผ่อนชำระหนี้เงินกู้และลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ได้ประกาศพักชำระหนี้ชั่วคราวหลังน้ำลด โดยได้นำเงินจากกองทุนภัยพิบัติและภัยธรรมชาติของธนาคาร จำนวน 22 ล้านบาท มาช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ ยังมี ธนาคารออมสิน ที่มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าชั้นดี โดยให้ปลอดชำระหนี้เงินต้น 2 – 3 ปี กับกลุ่มลูกค้าปรับโครงสร้างหนี้ และให้พักเงินต้นแล้วจ่ายดอกเบี้ย ร้อยละ 50 ระยะเวลา 3 ปี กับลูกหนี้ที่มีหลักประกัน และ 2 ปี กับลูกหนี้ ที่ไม่มีหลักประกัน และ ธนาคารกสิกรไทย ที่ได้ออกประกาศพักชำระเงินต้นให้แก่ลูกค้า โดยให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย นานสูงสุด 12 เดือน รวมถึงการต่ออายุลูกค้าที่ใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือวงเงินเทรดไฟแนนซ์ ที่ครบกำหนดออกไปอีก 1 รอบ ด้วย
ขณะที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ก็ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเก่าและใหม่ ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมภาคใต้ 2 มาตรการ คือ หากเป็นลูกค้าเดิมจะงดคิดดอกเบี้ย 3 เดือนแรก ส่วนเดือนที่ 4 – 12 คิดอัตราดอกเบี้ย MRR -2.50 ต่อปี จากปัจจุบัน MRR อยู่ที่ร้อยละ 6.75 นอกจากนี้ ยังออกสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ ร้อยละ 3 ต่อปี นาน 3 ปี ให้กับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่บ้านเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อกู้ไปปลูกสร้างทดแทนหลังเดิมและกู้ซ่อมแซม วงเงินต่อรายไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อ 1 หลักประกัน ขณะที่กระทรวงการคลังได้ขยายวงเงินทดลองราชการจากจังหวัดละ 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท รวม 9 จังหวัด ที่ประสบภัย โดยมอบหายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ใช้เงินทดรองจ่ายเป็นกรณีพิเศษ
ด้านนางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank กล่าวว่าปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ที่เกิดขึ้นนั้น ธนาคารมีความห่วงใยต่อประชาชนและลูกค้าธนาคารที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคใต้ ดังนั้น เพื่อเป็นช่วยเหลือและลดภาระลูกค้าของ LH Bank ธนาคารจึงได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารในด้านต่างๆ แก่ผู้ประสบภัย รวมทั้งการออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
โดยมาตรการดังกล่าว LH Bank จะพิจารณาตามความเหมาะสมทางธุรกิจของลูกค้าแต่ละราย เช่น การเพิ่มวงเงินสินเชื่อ การยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ หรือการปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระ ซึ่ง LH Bank หวังว่ามาตรการช่วยเหลือของธนาคารในครั้งนี้ จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าว อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามพัฒนาการของผลกระทบที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ สำหรับ กลุ่มลูกค้ารายย่อย LH Bank ได้ออก 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าคือ 1.การพักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 12 เดือน หรือ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน และปรับลดอัตราการผ่อนชำระให้ลูกค้า 2.การให้วงเงินสินเชื่อO/D ระยะเวลา 5 ปี และไม่ต้องชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 ที่ MLR-1% ปีที่ 2-5 อัตราดอกเบี้ย MLR เพื่อนำไปปรับปรุง ฟื้นฟูที่อยู่อาศัย หรือสถานประกอบการ
ส่วนกลุ่มลูกค้าธุรกิจ LH Bank ได้ออก 3 มาตรการในการช่วยเหลือ คือ 1.พักชำระหนี้เงินต้นนานสูงสุด 12 เดือน หรือ ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้สูงสูด 12 เดือน และ ปรับลดอัตราการผ่อนชำระ 2.เพิ่มวงเงินสินเชื่อ O/D 20% ของวงเงินเดิมไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ 3.ให้วงเงินสินเชื่อเพื่อปรับปรุง ฟื้นฟูธุรกิจ ระยะเวลา 3 ปี ดอกเบี้ยปีแรก 5% ปีที่ 2-3 MLR-1% และไม่ต้องชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ ทางอีเมลส่งตรงจากเว็บไซต์อสังหาฯ อันดับ 1 ของเมืองไทยฟรี สมัครได้ที่นี่ หรืออ่านรีวิวโครงการบ้านและคอนโดฯใหม่