[บทความประชาสัมพันธ์พิเศษ] แม้ว่าที่ผ่านมาตลาดโฮมออฟฟิศจะไม่ได้เติบโตอย่างหวือหวามากนัก แต่ก็เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความต้องการต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่เทรนด์สตาร์ทอัพมาแรง ธุรกิจขนาดเล็กขยายตัว ยิ่งทำให้กระแสความต้องการโฮมออฟฟิศเพิ่มมากขึ้น จากการที่กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดโฮมออฟฟิศ โดยทำเลรอยต่อใจกลางเมือง หรือทำเลใกล้เมืองที่เชื่อมต่อเข้าใจกลางเมืองได้สะดวกจะได้รับความสนใจมากสุด เพราะกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องติดต่อทำการค้าด้วยส่วนใหญ่ตั้งออฟฟิศอยู่ย่านใจกลางเมือง ดังนั้น ทำเลใกล้เมืองจึงเป็นหัวใจสำคัญของโครงการโฮมออฟฟิศ
ปัจจัยที่ทำให้โฮมออฟฟิศเป็นที่นิยมของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากโฮมออฟฟิศสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งเป็นที่พักอาศัย และทำธุรกิจการค้าไปพร้อมกัน ซึ่งกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่ยังมีเงินทุนจำกัด ยังไม่สามารถแยกสำนักงาน หรือหน้าร้านของตัวเองออกจากที่พักอาศัยได้ ก็จะเลือกเริ่มต้นธุรกิจจากที่อยู่อาศัยของตัวเองก่อน โดยโฮมออฟฟิศจะถูกออกแบบมาให้เหมาะทั้งการอยู่อาศัยและใช้เป็นสำนักงาน ทำให้ในระยะหลัง กลุ่มสตาร์ทอัพที่เดิมเคยใช้คอนโดมิเนียมใจกลางเมืองเป็นที่ทำงานหรือเริ่มต้นธุรกิจ เมื่อถึงวันที่ต้องขยับขยาย ก็จะมองโฮมออฟฟิศใกล้เมืองเป็นทางเลือก เพราะนอกจากจะเดินทางสะดวกแล้ว ยังมีระดับราคาที่อยู่ในงบประมาณที่เอื้อมถึงด้วย
นอกจากนี้ โฮมออฟฟิศยังเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น หรือกำลังจะขยายตัวที่ต้องการพื้นที่เช่าไม่มาก แตกต่างจากอาคารสำนักงานในเมืองที่จะเน้นการปล่อยเช่าพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ต้นทุนในการเช่าสูงมาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจขนาดย่อม โดยรูปแบบในการปล่อยเช่าโฮมออฟฟิศในปัจจุบันมีความยืดหยุ่นสูง รองรับความต้องการของกลุ่มผู้เช่าที่หลากหลายระดับธุรกิจ โดยมีทั้งแบบให้เช่าทั้งหลัง และให้เช่าบางส่วน ซึ่งในส่วนของการให้เช่าบางส่วน เจ้าของโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่จะแบ่งพื้นที่ให้เช่าในแต่ละชั้นตามความต้องการของผู้เช่า ทำให้มีพื้นที่ในการปล่อยเช่าได้มากขึ้น ดังนั้น ตลาดโฮมออฟฟิศจึงเป็นที่นิยมของกลุ่มนักลงทุนระยะยาวในการซื้อเพื่อปล่อยเช่า
ในด้านทำเล ในอดีตทำเลทองของตลาดโฮมออฟฟิศคือ ย่านสุขุมวิทตอนกลาง เช่น ทองหล่อ และเอกมัย ซึ่งเป็นย่านที่มีอาคารสำนักงานขนาดเล็กเกิดขึ้นหลายแห่ง แต่เมื่อเมืองมีการขยายตัว พื้นที่ดังกล่าวถูกพัฒนาจนเกือบเต็มพื้นที่แล้ว และหาที่ดินเพื่อพัฒนาเป็นโฮมออฟฟิศได้ค่อนข้างยาก ในขณะที่ราคาที่ดินสูงมาก ทำให้ซัพพลายที่ดินที่เข้าสู่ตลาดส่วนใหญ่จะถูกนำไปพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ส่วนโปรดักส์ประเภทโฮมออฟฟิศก็เริ่มขยับไปยังบริเวณที่เป็นรอยต่อใจกลางเมือง มีการเชื่อมต่อเข้าเมืองได้สะดวก เช่น ย่านทาวน์อินทาวน์ ซึ่งถือเป็นทำเลยอดนิยมอันดับต้นๆ สำหรับโครงการประเภทโฮมออฟฟิศ
ทำเล “ทาวน์อินทาวน์” เรียกได้ว่าเป็นแหล่งโฮมออฟฟิศที่ขยายตัวต่อเนื่อง มีกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากตั้งสำนักงานอยู่ย่านนี้ เนื่องจากเป็นย่านที่เชื่อมเข้าเมืองได้สะดวกมาก อยู่ใกล้พระราม 9 ซึ่งเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจแห่งใหม่ที่บริษัทชั้นนำเริ่มมาตั้งสำนักงานใหญ่ ใกล้ย่านรัชดาภิเษก ใกล้ลาดพร้าว หรือจะเข้าตัวเมืองชั้นในอย่างทองหล่อ สุขุมวิท ก็สะดวกเช่นกัน ด้วยถนนหลายสายที่เชื่อมต่อกัน ทำให้การเดินทางจากในเมืองมายังย่านทาวน์อินทาวน์ หรือเดินทางออกจากย่านทาวน์อินทาวน์เข้าเมืองก็มีความสะดวกมาก
ด้วยปัจจัยด้านความสะดวกในการเดินทาง และความต้องการโฮมออฟฟิศในย่านทาวน์อินทาวน์ ทำให้ที่ผ่านมาตลาดโฮมออฟฟิศย่านนี้มีทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่อใช้งานเอง และกลุ่มผู้ซื้อเพื่อปล่อยเช่า เพราะมองแล้วว่าเป็นทำเลที่มีโอกาส โดยจากการสำรวจ พบว่าโฮมออฟฟิศในย่านทาวน์อินทาวน์แบ่งเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ กลุ่มโฮมออฟฟิศเก่า อายุอาคาร 20-30 ปี อัตราค่าเช่าเริ่มต้น 2-3 หมื่นบาท/เดือน จนถึงประมาณ 1 แสนบาท/เดือน มีโอกาสในการได้อัตราผลตอบแทนที่ 3.4-7% ต่อปี ส่วนกลุ่มโฮมออฟฟิศใหม่ อายุอาคารไม่เกิน 5 ปี อัตราค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2-1.5 แสนบาท/เดือน มีโอกาสในการได้อัตราผลตอบแทนราวๆ 6-7%
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนทั้งโฮมออฟฟิศเก่าและใหม่ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของโฮมออฟฟิศนั้นๆ และพื้นที่ในการให้เช่า ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นของราคาที่อยู่อาศัยย่านนี้อยู่ที่ 5-10%
การที่ภาพรวมตลาดโฮมออฟฟิศมีความต้องการต่อเนื่องจากการที่เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ต้องการขยับขยายธุรกิจและต้องการมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง กลุ่มผู้ที่มองหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุน ทำให้บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำที่ดินย่านทาวน์อินทาวน์มาพัฒนาเป็นโครงการโฮมออฟฟิศ ภายใต้แบรนด์ใหม่ล่าสุด “Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว” ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งโครงการไฮไลท์ของปี 2560 จากค่าย SC ASSET

ด้านซ้าย : แบบบ้าน PRESIDENT พ.ท.ใช้สอย 479 ตร.ม.
ด้านขวา : แบบบ้าน PRESIDENT (S) พ.ท.ใช้สอย 576 ตร.ม.
Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว จะพัฒนาเป็น Biz Villa ที่ประกอบไปด้วยโฮมออฟฟิศหรูแห่งแรกที่ให้นิยามใหม่ของสังคมแห่งธุรกิจและการพักอาศัยในเมือง บนพื้นที่โครงการรวม 6 ไร่ และมีจำนวนเพียง 29 ยูนิต กับขนาดที่ดินของแต่ละแปลงเริ่มต้นที่ 44.4 – 107 ตารางวา และมีพื้นที่ใช้สอย 479 – 693 ตารางเมตร ปรับแต่งได้ตามต้องการ พร้อมพื้นที่พักอาศัยให้ชีวิตทั้ง 2 ด้านเชื่อมต่อกันได้ ภายใต้ภาพลักษณ์เรียบ หรู บนทำเลธุรกิจที่คุ้นเคย กับระดับราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท
สำหรับทำเลที่ตั้งของโครงการ Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว อยู่บนทำเลธุรกิจใจกลางย่านทาวน์อินทาวน์ ติดถนนใหญ่ “อินทราภรณ์” ตรงข้าม รร.บดินทร์เดชา ซึ่งเดินทางสะดวกเชื่อมสู่ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, ทองหล่อ, ลาดพร้าว, รามคำแหง, รัชดาภิเษก และถนนพระราม 9 ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ทำเลดังกล่าวยังมีมูลค่าเพิ่มจากการอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT ลาดพร้าว MRT ศูนย์วัฒนธรรม และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคตด้วย
อ่านพรีวิวโครงการ : เฮดควอเทอร์ส เอกมัย-ลาดพร้าว (Headquarters Ekamai-Ladprao)
การเดินทาง
นอกจากนี้ ยังแวดล้อมด้วยความสะดวกสบายในย่านทาวน์อินทาวน์ ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมของสำนักงานธุรกิจชั้นนำเกี่ยวกับความบันเทิงและการออกแบบ รวมถึง SME ต่างๆ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและเชื่อมต่อธุรกิจกับ Suppliers ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว อีกทั้ง ยังอยู่ไม่ไกลจากคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรมและร้านอาหารชั้นนำ อาทิ The scene, ต้นซุง อเวนิว, เซ็นทรัลพระราม9, โรงแรมทาวน์อินทาวน์, โรงแรม SC park เป็นต้น
รวมไปถึง สถานศึกษา
โรงแรม
– โรงแรม TOWN IN TOWN 0.9 กม.
– โรงแรม SC PARK 1.7 กม.
โรงพยาบาล
– รพ.ลาดพร้าว 5.8 กม.
– รพ.พระราม 9 7.7 กม.
เตรียมพบกับโครงการ Headquarters เอกมัย – ลาดพร้าว โฮมออฟฟิศหรู ทางเลือกใหม่ของนักลงทุนจาก SC ASSET ได้เร็วๆ นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถขอรับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 089-203-2233 หรือ ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลโครงการเพิ่มเติม ได้ที่ http://boffice.scasset.com/Register/registerForm59_HQ-EL.asp
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหา บ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน