ท่ามกลางกระแสข่าวมาตรการช้อปช่วยชาติซึ่งผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ยังมีอีกมาตรการที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ในวันเดียวกันคือ แนวทางการดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ผู้สูงอายุที่มีฐานะดีสามารถแจ้งเจตจำนงบริจาคเบี้ยผู้สูงอายุให้กับผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจนได้ โดยมาตรการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560
พบผู้สูงอายุมีฐานะดีประมาณ 5 ล้านคน
จากข้อมูลของรัฐในปัจจุบันมีกลุ่มที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประมาณ 8 ล้านคน โดยเป็นผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยซึ่งมาลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ หรือลงทะเบียนคนจนประมาณ 3.6 ล้านคน ซึ่งมีรายได้ทั้งหมดหารจำนวนสมาชิกในครัวเรือนเฉลี่ยต่ำกว่า 3,000 บาท/คน/เดือน ดังนั้นหากผู้สูงอายุที่มีรายได้สูงกว่าเกณฑ์ความยากจนที่เหลืออีกประมาณ 5 ล้านคน นำเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาบริจาคจะทำให้กองทุนผู้สูงอายุมีเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 6 หมื่นล้านบาท/ปี แต่คาดว่าจะมีผู้บริจาคจำนวน 10% หรือประมาณ 5 แสนคน ซึ่งจะทำให้กองทุนผู้สูงอายุมีเงินเพิ่มขึ้น 4 พันล้านบาท/ปี
เงินบริจาครวมภาษีบาป เพิ่มให้คนชรา 200 บาท/เดือน
ขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กำลังพิจารณาร่างพระราชบัญญัติผู้สูงอายุ (ฉบับที่…) พ.ศ…. กำหนดให้นำเงินจากภาษีบาป 2% เข้ากองทุนผู้สูงอายุ ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ได้ภายในปี 2561 เมื่อรวมกับเงินบริจาค 4 พันล้านบาทแล้ว จะสามารถเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุให้กับผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐได้อีกคนละ 200 บาท/เดือน แบ่งเป็นเงินจากการบริจาค 100 บาท และเงินจากภาษีบาป 100 บาท โดยคาดว่าจะเริ่มเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ภายในต้นปี 2561
รายละเอียดการบริจาคเบี้ยยังชีพ
การแจ้งความประสงค์ขอบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจะเป็นการบริจาคเงินเบี้ยยังชีพทั้งจำนวนตามสิทธิการได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของผู้บริจาคแต่ละคนตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่ได้แจ้งความประสงค์ไป จนกว่าจะแจ้งยกเลิกการบริจาค ซึ่งผู้บริจาคสามารถยกเลิกการบริจาคได้ เงินบริจาคจะนำมาจ่ายเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติจะกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดสรรเงินช่วยเหลือดังกล่าว และกรมบัญชีกลางจะนำเงินช่วยเหลือเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้แก่ผู้สูงอายุในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป
โครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ
มอบเหรียญเชิดชูเกียรติ พร้อมลดหย่อนภาษี
สำหรับผู้บริจาคจะได้เหรียญเชิดชูเกียรติ เพื่อเป็นการตอบแทนการเสียสละเงินเบี้ยยังชีพที่จะนำไปให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและได้รับสิทธิในการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 1 เท่าของเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นแล้วไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมินหลังจากหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อน ซึ่งกองทุนผู้สูงอายุจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้แก่ผู้บริจาคต่อไป
ผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้ตามสถานที่ดังต่อไปนี้
– หากมีภูมิลำเนาในกรุงเทพฯ สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์บริจาคด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจได้ที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ที่ได้ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพไว้
– หากผู้ที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดที่อาศัยในต่างจังหวัด สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์บริจาคด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจได้ที่เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล หรือเมืองพัทยา ที่ตนได้ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพไว้
– หากผู้ที่มีภูมิลำเนาในต่างจังหวัดที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์บริจาคด้วยตัวเองหรือมอบอำนาจได้ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (ถ.นครราชสีมา เขตดุสิต)
ทั้งนี้ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเมืองพัทยา จะส่งเงินบริจาคให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เพื่อส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุต่อไป ส่วนสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครจะส่งเงินบริจาคเข้ากองทุนผู้สูงอายุโดยตรง
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
