AI มาแรง ห่วง 10 อาชีพ เสี่ยงตกงาน

30 พ.ย. 2560

AI มาแรง ห่วง 10 อาชีพ เสี่ยงตกงาน

ปัญหาประดิษฐ์หรือ AI ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ไม่มีชีวิต โดยมีการรวบรวมและจัดใส่ข้อมูลซอฟแวร์หลากหลายระบบ เพื่อพัฒนาให้สามารถคิดและทำงานในด้านต่าง ๆ ได้คล้ายมนุษย์ ทั้งการตัดสินใจ การแก้ปัญหา และการเรียนรู้ อาทิ ระบบนำทางรถยนต์ไร้คนขับ หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์เพื่อช่วยงาน ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยเริ่มมีการนำระบบเอไอมาใช้ในการติดตาม และวิเคราะห์ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แล้ว โดยทางสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้ทำการรวบรวมข้อมูลพบว่า แม้ AI จะเข้ามาทดแทนแรงงานกลุ่มทักษะต่ำ โดยคาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า ทั่วทั้งอาเซียนคนกลุ่มนี้จะเสี่ยงตกงานมากถึง 140 ล้านคน

10 อาชีพเสี่ยงตกงานจาก AI
สศค. ได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากบริษัทเอคเซนเชอร์ ที่ปรึกษาด้านไอทีของกลุ่มแอปเปิล และองค์การแรงงานระหว่างประเทศของสหประชาชาติเพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้ AI ในอนาคต พบว่า AI จะช่วยให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นในทุกสาขาการผลิต โดยมีการประเมินว่า AI จะทำให้จีดีพีของประเทศพัฒนาแล้วเติบโตขึ้นอีก 1.7 เท่า ในปี 2578 ขณะเดียวกันจะช่วยเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น 30-40% แต่การเข้ามาของ AI จะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานทั้งในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานทักษะต่ำที่คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้า มีความเสี่ยงที่จะตกงานมากถึง 140 ล้านคน ขณะที่แรงงานของไทยถึง 44% ของกำลังแรงงานรวม มีความเสี่ยงสูงที่จะตกงาน โดยเฉพาะในสาขาอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เพราะจะถูกเอไอเข้ามาแทนที่

นอกจากนี้ยังพบว่า 10 อาชีพที่จะถูกเทคโนโลยีเอไอเข้ามาแย่งอาชีพ ประกอบด้วย นักพัฒนาเว็บไซต์ นักการตลาดออนไลน์ ผู้ดูแลออฟฟิศ นักบัญชี ฝ่ายทรัพยากรบุคคล นักข่าว บรรณาธิการ นักกฎหมาย แพทย์ และจิตแพทย์

ขณะนี้ สศค. มีการจัดทำข้อมูลเศรษฐกิจแนวใหม่ให้มีความสอดคล้องกับสภาพสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เพื่อต้องการเผยแพร่ให้เกิดการรับรู้และการปรับตัวก้าวให้ทันโลก ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาการปรับตัวได้ในอนาคต

อาชีพเสี่ยงตกงานจาก AI

อาชีพเสี่ยงตกงานจาก AI

งานวิจัยชี้ 375 ล้านคน ต้องเปลี่ยนอาชีพ
สอดคล้องกับข้อมูลของสถาบันแมคคินซีย์ โกลบอล ที่ได้เปิดเผยรายงานว่า คนทำงาน 375 ล้านคน จะต้องเปลี่ยนหมวดอาชีพภายในปี 2030 หรืออีก 13 ปีข้างหน้า เนื่องจากหุ่นยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่แทน โดยงานที่เสี่ยงต่อการถูกหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่มากที่สุดคือ งานทางกายภาพที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่คาดการณ์ได้ เช่น งานที่ปฏิบัติงานกับเครื่องจักร หรืองานเตรียมอาหาร รวมถึงนักกฎหมาย แพทย์ นักการตลาดออนไลน์ ผู้ดูแลออฟฟิศ นักพัฒนาเว็บไซต์ นักบัญชี จิตแพทย์ บรรณาธิการ นักข่าว และฝ่ายบุคคล

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับดังกล่าวเชื่อว่าแรงงานจะสามารถก้าวพ้นความท้าทายนี้ไปได้เช่นเดียวกับในยุค 1980 ที่มีการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และมีการคาดการณ์ว่าจะกำจัดงานบางอย่างออกไป แต่ความเป็นจริงคือได้สร้างตำแหน่งงานใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายบทบาท หากตั้งใจจะพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ก็จะสามารถหางานใหม่ ๆ ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ตำแหน่งตัดแต่งสวน ช่างประปา ผู้ดูแลเด็กหรือคนชรา ก็อยู่ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงน้อยที่หุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ