มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ เพราะในการซื้อของสักชิ้นหรือเลือกใช้บริการสักอย่างนั้น นอกจากปัจจัยเรื่องเงินแล้วยังต้องคำนึงถึงปัจจัยด้านอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งของเล่นที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งใจจะซื้อให้ลูกน้อย ของเล่นหลายชิ้นก่อให้เกิดอันตราย และอีกหลายชิ้นถ้าเด็กได้เล่นแล้วอาจไม่เป็นผลดีต่อพัฒนาการทางสมอง
1.โทรศัทพ์มือถือและแล็บเล็ต
การให้ลูกติดจอ จ้องจอนานๆ ส่งผลต่อสายตาแน่นนอน และจากการวิจัยยังพบว่า เด็กที่ดูสื่อหน้าจอมากเกินไปเป็นเวลามากกว่า 1 ชั่วโมงต่อเนื่องต่อวันจะมีพัฒนาการที่ล่าช้า มีปัญหาด้านพฤติกรรม ทำให้ลูกเฉื่อยชาสมาธิสั้นได้
2.ของเล่นที่มีชิ้นส่วนเล็กๆ
เพราะชิ้นส่วนเล็กๆ อาจไปเตะตาเจ้าลูกจอมซนของคุณ เด็กอาจนำเข้าปากไปอมเล่นและกลืนลงท้องไป อาจทำให้ติดคอหรือเป็นอันตรายต่อผนังลำไส้และร้ายแรงถึงขนาดลำไส้อุดตันได้
3.ของเล่นที่มีสีสันฉูดฉาด
สีสันที่ฉูดฉาดของของเล่นที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจมีการปนเปื้อนสารพิษที่มีอันตรายเช่นสารปรอท เมื่อสัมผัส หรือนำเข้าปากก็ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัวได้
4.ของเล่นหรือเกมที่ส่งเสริมการใช้ความรุนแรง
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการต่อสู้อย่างนวมชกมวย ปืนอัดลม หรือเกมต่อสู้ที่มีฉากเลือดสาดกระจาย นอกจากไม่เหมาะกับเด็กวัยอนุบาลแล้วอาจกลายเป็นปลูกฝังให้ลูกใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาและเห็นว่าการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องสนุก สะใจไปเลยก็ได้ นอกจากนี้กระสุนปืนอัดลมลูกเล็กๆ กลมๆ อาจล่อตาล่อใจให้ลูกจับใส่ปากกลืนลงท้องหรือยัดใส่ในรูจมูกทำให้หายใจไม่ออก อุดตันหลอดลมได้
5.ของเล่นที่มีส่วนแหลมคม
มีดทำครัว ดาบนักรบ หรือกระบี่จอมยุทธ์หากให้ลูกเล่นอาจทำให้เกิดอันตรายได้เพราะถึงแม้จะไม่มีความคม แต่หากเด็กเล่นกันสนุกมากจนลืมตัว แรงจากการกระแทกของปลายดาบทู่ๆ ก็อาจทะลุเนื้ออ่อนๆ ของเด็กได้
6.ของเล่นที่มีแบตเตอรี่ก้อนกลมแบน หรือของเล่นที่มีแม่เหล็กเล็กๆ
แบตเตอรี่ในของเล่น หรือแม่เหล็กที่ติดมากับของเล่นอาจหลุดออกมา ยั่วยวนให้ตัวเล็กของเราหยิบใส่ปากไปอมเหลือเกิน และอาจกลืนลงท้องได้ไม่ยาก
7.ของเล่นที่มีเสียงดังเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นปืนยิงแบบมีเสียง หุ่นยนต์ หรือเครื่องดนตรีจำลอง เพราะอาจมีเสียงดังเกินไปจนอาจทำให้ลูกมีปัญหาเกี่ยวกับการได้ยินได้
8.รองเท้าสเก็ตหรืออินไลน์สเก็ต
หากลูกอยากเล่นสเก็ตควรพาไปเล่นในสนามหรือสถานที่เฉพาะที่มีผู้ฝึกสอน มีอุปกรณ์ป้องกันให้ครบเมื่อเกิดอุบัติเหตุจะได้ไม่บาดเจ็บร้ายแรง ไม่ควรซื้อให้ลูกใส่เดินในห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่สาธารณะ เพราะอาจเป็นการรบกวนผู้อื่นและอาจก็ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อตัวเด็กได้
หลักการง่ายๆในการเลือกซื้อของเล่นให้ลูกที่พ่อแม่ต้องทำคือ สำรวจมาตราฐานสินค้าว่ามีเครื่องหมาย มอก.ได้รับการรับรองมาตราฐานการผลิตหรือไม่ จากนั้นดูชื่อบริษัท ดูที่อยู่บริษัทว่ามีหลักแหล่งแน่นอนหรือไม่ และควรอ่านคำแนะนำที่กล่องด้วยว่าเหมาะกับเด็กวัยไหนและมีวิธีการใช้อย่างไร และของเล่นที่ดีที่สุดของลูกก็คือพ่อแม่
ในส่วนของของเล่นชิ้นเล็กๆ วิธีตรวจสอบคือ หากของเล่นชิ้นไหนผ่านแกนกระดาษทิชชู่ได้ ถือว่าเล็กเกินกว่าจะนำมาให้ลูกเล่น อย่าลืมตรวจดูสีและกลิ่นของวัสดุที่นำมาใช้ทำของเล่นหากไม่มีความคงทน มีกลิ่นสารเคมีรุนแรงก็ไม่ควรซื้อมาให้ลูกเล่น ใส่ใจเลือกของเล่นให้ลูกสักนิดเพราะอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดเพราะของเล่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่จะมองข้ามได้เลย
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย