ไขคำตอบ Smart City ยกระดับคุณภาพชีวิตพลเรือนได้จริงหรือ?

22 ธ.ค. 2560

ไขคำตอบ Smart City ยกระดับคุณภาพชีวิตพลเรือนได้จริงหรือ?

ไฮไลท์…
– ภูเก็ต เป็นจังหวัดแรกที่นำร่องการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City)
– การพัฒนาเมืองให้ก้าวเข้าสู่ความอัจฉริยะ จำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย 
– คุณภาพชีวิตของประชาชน ถูกพัฒนาไปพร้อมกับเมืองอัจฉริยะ (Smart City)

[สกู๊ปพิเศษ] ท่ามกลางการผลักดันของรัฐบาลที่ต้องการแปลงโฉมประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ความล้ำสมัยของ Thailand 4.0 จึงเดินหน้ายกระดับ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น และชลบุรี จังหวัดที่เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ ให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อันมีความสมบูรณ์แบบผสมผสาน ทั้งในด้านเมืองน่าอยู่และความก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจของตนเอง โดยอยู่บนกรอบแนวคิดพัฒนาคุณภาพชีวิตพลเรือนแบบยั่งยืน สวนกระแสกับประชาชนบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจนโยบายดังกล่าว จึงเกิดข้อสงสัยว่าชีวิตความเป็นอยู่จะดีขึ้นจริงหรือ หากภูมิลำเนาของตนเองถูกพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี ในขณะที่ชาวชนบทยังต้องใช้เวลาเข้าถึงนวัตกรรมสมาร์ทที่ถูกสรรสร้างขึ้น

องค์ประกอบ Smart City

องค์ประกอบ Smart City ภาพ via www.thailandsmartcities.com

ทำความเข้าใจวัตถุประสงค์ ของการเป็นเมือง “Smart CIty”
คำว่า “Smart City” เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2558 จากการที่รัฐบาลได้สร้างนโยบายเพื่อเตรียมตัวเข้าประชาคมอาเซียน โดยให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาจังหวัดจำเป็นต้องอยู่ภายใต้แนวคิดแห่งความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นในด้านสังคม เศรษฐกิจ หรือแม้แต่สิ่งแวดล้อม โดยทั้งหมดจะถูกปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภายใต้นวัตกรรมเทคโนโลยี เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ความเป็นเมืองไฮเทคที่น่าอยู่ของประเทศ และการที่จะเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) สมบูรณ์แบบ จำเป็นต้องมีองค์ประกอบ 7 อย่าง ดังต่อไปนี้

1. Smart Mobility การสัญจรอัจฉริยะ
2. Smart Community ชุมชนอัจฉริยะ
3. Smart Economy เศรษฐกิจอัจฉริยะ
4. Smart Environment สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ
5. Smart Governance การปกครองอัจฉริยะ
6. Smart Building อาคารอัจริยะ
7. Smart Energy พลังงานอัจฉริยะ

ส่อง 4 จังหวัดนำร่องเมืองอัจริยะ เดืนหน้าใส่เกียร์พัฒนาเมืองเต็มรูปแบบ
เป็นที่รู้กันดีว่า ภูเก็ต ถูกเลือกเป็นจังหวัดแรกของประเทศในการนำร่องเป็นเมืองอัจริยะ ซึ่งมีภาครัฐ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตัล และความร่วมมือจากภาคเอกชน เข้ามาส่งเสริมให้จังหวัดนี้มีความโดดเด่นในด้านธุรกิจดิจิทัล นอกเหนือจากความน่าสนใจในการเป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเริ่มที่เขตเทศบาลเมืองป่าตอง และเขตเทศบาลเมืองภูเก็ต เน้นความอัจริยะในด้านเศรษฐกิจ และสังคมเป็นหลัก ทั้งนี้มีแผนการพัฒนายั่งยืนไปจนถึงปี 2562 พร้อมเพิ่มในเรื่องศักยภาพด้านการศึกษา ความปลอดภัย รวมถึงสุขภาพ

การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็น Smart City

การพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ ให้เป็น Smart City ภาพ via www.northpublicnews.com

ส่วนจังหวัดที่ 2 อย่างเชียงใหม่ ศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของภาคเหนือ ได้ถูกผลักดันให้เป็นเมืองอัจฉริยะเช่นกัน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ของการพัฒนาเมืองครั้งนี้ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาศรษฐกิจและแผนพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ประจำปี พ.ศ. 2561-2564 ภายใต้แนวคิดที่ว่า “กินดี อยู่ดี มีสุข” อันประกอบไปด้วยยุทธศาสตร์ทั้ง 5 ด้าน อาทิ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเรือน ยกระดับความมั่นคง พัฒนาการบริหารและการบริการภาครัฐ และ เพิ่มศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเป็นหลักในการดำเนินการลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน ทั้งนี้ยังมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีมาพัฒนาย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ให้กลายเป็นถนนเศรษฐกิจที่สำคัญของเมือง ด้วยการเริ่มนโยบาย สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) พร้อมด้วยระบบจอดรถอัจฉริยะ (Automatic Parking) และความเสถียรของระบบนำทางเสมือนจริง (GPS) มาพัฒนาในย่านดังกล่าว

สำหรับทางฝั่งภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น ถูกเลือกจากการรวมตัวของเหล่านักธุรกิจกว่า 20 ราย ที่ต้องการพัฒนาเมืองแห่งนี้ให้มีการเติบโตแบบยั่งยืน โดยกรอบแนวคิดของการพัฒนาจังหวัดนี้ให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่วางผังเมืองใหม่ให้มีความเหมาะสม เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่จังหวัด ประกอบกับมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กับการขนส่งบริการ อย่างการติดตั้งระบบ GPS กับรถบัสโดยสารทำให้รู้กำหนดเวลาวิ่ง และระยะเวลาในการเข้าจอดในจุดรับส่งผ่านแอพพลิเคชัน เป็นต้น ยังไม่นับรวมการพัฒนาระบบคมนาคมจากรัฐบาล ที่สนับสนุนให้ก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง

แนวทางการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ให้เป็น Smart City

แนวทางการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ให้เป็น Smart City

มาถึงอีกหนึ่งจังหวัดที่หลายภาคส่วนกำลังจับตามองการพัฒนาความเป็นเมืองอัจฉริยะ ไปพร้อมกับพัฒนาโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นั่นคือ ชลบุรี โดยเริ่มที่เขตเทศบาลเมืองแสนสุข เน้นด้านสุขภาพ เพื่อให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้สูงอายุ พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจร้านอาหาร เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจเมือง ทั้งนี้ปัจจุบันเขตศรีราชา กำลังเดินหน้าพัฒนาเป็นเมืองอัจฉริยะเช่นกัน โดยเน้นเรื่องความปลอดภัย พร้อมเดินหน้าปรับปรุงทัศนียภาพเมือง ด้วยโครงการระบบโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนำแสงใต้ดิน คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561 นี้

ผลพลอยได้ของประชาชน เมื่อภูมิลำเนาถูกพัฒนาบนพื้นฐานของเทคโนโลยี
แน่นอนว่าการพัฒนาเมืองที่ประชาชนอยู่อาศัยให้มีความเพียบพร้อมรอบด้าน โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือ จะสร้างความสะดวกสบายมาสู่ประชาชน แต่ยังคงมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจกับการเป็นเมืองอัจริยะเท่าไรนัก นั่นคือ กลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีรายได้น้อย แน่นอนว่าการจะปรับผังเมืองให้มีความพร้อมเป็นเมืองอัจฉริยะ จำเป็นต้องสำรวจความคิดเห็นประชาชนเป็นหลัก พร้อมทั้งต้องทำให้เข้าถึงได้ทุกกลุ่ม ถึงจะทำให้วัตถุประสงค์ของการสรรสร้าง Smart City ดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์ ที่ต้องการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนแบบยั่งยืน

ผลพลอยได้ของประชาชน เมื่อภูมิลำเนาถูกพัฒนาเป็น Smart City

ผลพลอยได้ของประชาชน เมื่อภูมิลำเนาถูกพัฒนาเป็น Smart City

ดังนั้นการพัฒนาเมืองต่างๆ ให้กลายเป็น Smart City ต้องทำควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ประชาชนมีอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้คนกลุ่มนี้มีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นโครงการสร้างงาน สร้างรายได้คนจน ต่อยอดจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมไปถึงโครงการคนไทยมีบ้าน เป็นต้น ทั้งนี้ยังจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสังคมผู้สูงอายุด้วย เนื่องจากปัจจุบันพบว่าคนกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น ประกอบกับประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ และคาดว่าจะสมบูรณ์แบบในอีก 7 ปีข้างหน้า อ่านรีวิวโครงการใหม่ ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุ ได้ที่นี่่!

เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ araya@ddproperty.com

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ