4 วิธี บริหารเงินโบนัสเพื่ออนาคตที่สดใส

26 ธ.ค. 2560

“บริหารเงินโบนัสให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปโปะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงและโปะหนี้บ้าน นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนให้งอกเงย และเก็บออมเงินเพื่อเป้าหมายในอนาคต” 

ปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในรอบปีของใครหลายคน เพราะนอกจากจะเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย มีวันหยุดพักผ่อนติดต่อกันหลายวันแล้ว ยังเป็นช่วงที่หลายคนรอคอยรับเงิน “โบนัส” นั่นเอง ซึ่งจะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการบริษัท และผลงานของเราในช่วงปีที่ผ่านมา ดังนั้น เมื่อได้รับเงินโบนัสจากความอุตสาหะของเราแล้ว K-Expert ธนาคารกสิกรไทย แนะนำให้กันเงินก้อนส่วนหนึ่งเพื่อใช้สอยส่วนตัว และนำเงินก้อนส่วนที่เหลือมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด ด้วย 4 วิธีบริหารเงินโบนัส ดังนี้

1. โปะหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง
หากมีภาระหนี้ที่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูง เช่น หนี้นอกระบบ หนี้บัตรกดเงินสด หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้บัตรเครดิต ควรลดภาระหนี้ด้วยการลดเงินต้น จะช่วยให้ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง เพราะดอกเบี้ยที่เสียจะคำนวณจากเงินต้น ยิ่งเงินต้นสูงดอกเบี้ยก็สูงตาม ดังนั้น หากสามารถปิดภาระหนี้ที่มีได้หมดจะช่วยให้หมดกังวลกับภาระหนี้ที่มี

หนี้บัตรเครดิต หนี้สินตัวร้ายที่คนสมัยใหม่มักจะเป็นกัน อ่านวิธีปลดหนี้บัตรเครดิตให้ได้ผล  

2. โปะหนี้บ้าน
สำหรับผู้ที่มีภาระผ่อนบ้าน แน่นอนว่าย่อมอยากให้บ้านที่อยู่กับครอบครัวหมดภาระโดยเร็ว และไม่ต้องการให้ภาระการผ่อนบ้านต้องตกไปอยู่กับบุคคลที่รัก ดังนั้น การลดระยะเวลาในการผ่อนบ้านให้เหลือเวลาผ่อนน้อยลงและเสียดอกเบี้ยน้อยลง ด้วยการโปะหนี้บ้าน จะช่วยลดภาระหนี้เงินต้นและหมดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น

อ่านเคล็ดลับสำหรับการปลดหนี้บ้าน 
เคล็ดลับผ่อนบ้านให้หมดไว ชำระเกินทุกงวด vs. โปะเพิ่มปีละครั้ง 
โปะหนี้บ้านให้หมดไวอย่างได้ผล 

3. ลงทุนให้เงินงอกเงย
เมื่อได้รับเงินโบนัสมา หรือมีเหลือหลังจากชำระหนี้แล้ว แนะนำให้ลงทุนโดยคำนึงถึงความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะสินทรัพย์ทางการเงินในแต่ละรูปแบบมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อโอกาสได้รับผลตอบแทน
• รับความเสี่ยงได้ต่ำ แนะนำเงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ รวมถึงกองทุนรวมตราสารหนี้ ซึ่งโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปแบบนี้จะไม่สูงนัก แต่จะเน้นรักษาเงินต้น
• รับความเสี่ยงได้ปานกลาง แนะนำกองทุนรวมผสมที่ลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน (หุ้น) โอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่กึ่งกลางระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุน คือไม่ต่ำและไม่สูงจนเกินไป
• รับความเสี่ยงได้สูง แนะนำหุ้น กองทุนรวมหุ้น มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูง แต่ต้องยอมรับโอกาสขาดทุนที่สูงได้ ทั้งนี้ การลงทุนระยะยาวช่วยลดความความผันผวนหรือการขาดทุนได้ 

สำหรับคนที่ยังไม่เคยลงทุน หากอยากซื้อกองทุน มาดูกันว่าควรเริ่มต้นอย่างไร  

4. เก็บออมเพื่อเป้าหมาย
เป้าหมายของคนหนึ่งคนไม่ได้มีเพียงเป้าหมายเดียว และแต่ละเป้าหมายมักจะมีความแตกต่างกันในช่วงระยะเวลา ดังนั้น การออมเงินเพื่อเป้าหมายแต่ละเป้าหมายจึงแตกต่างกัน
• เป้าหมายระยะสั้น ไม่เกิน 3 ปี เช่น การออมเงินสำหรับการดาวน์บ้าน การเดินทางท่องเที่ยว หรือการศึกษาต่อ แนะนำให้ออมในสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงไม่มากนัก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
• เป้าหมายระยะกลาง มากกว่า 3 ปีแต่ไม่เกิน 5 ปี เช่น การเตรียมเงินสำหรับการศึกษาลูกชั้นประถม มัธยม หรือ อุดมศึกษา ที่มีระยะเวลาเก็บเงินนานขึ้น แนะนำให้มีการออมในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงระดับปานกลาง หรือการเลือกลงทุนในกองทุนผสม
• เป้าหมายระยะยาว มากกว่า 5 ปี เช่น การออมเงินสำหรับการเกษียณอายุ แนะนำให้มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามความสามารถในการยอมรับความเสี่ยง เพราะหากเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเพียงอย่างเดียวจะทำให้ผลตอบแทนที่ได้ต่ำกว่าเงินเฟ้อ ซึ่งหมายถึงมูลค่าเงินจะลดลงในอนาคต

ติดตามอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับการออมได้ที่นี่  

การตั้งเป้าหมาย ช่วยให้ประเมินได้ว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หากประเมินแล้วไม่สามารถเป็นไปได้ จะได้รีบทำการปรับเปลี่ยนเป้าหมาย นอกจากนี้ การออมเงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ที่สำคัญต้องมีการเก็บออมอย่างสม่ำเสมอ หากใช้เวลาออมน้อย จำนวนเงินที่ออมควรเพิ่มขึ้น หากมีระยะเวลาในการออมมาก จำนวนเงินที่ออมอาจไม่มากนัก

หวังว่า 4 วิธีบริหารเงินโบนัสข้างต้น จะช่วยให้เงินโบนัสที่ได้รับมาเกิดประโยชน์อย่างเต็มที่

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย นิชฌานี ฉันทศาสตร์ CFP® K-Expert ฝ่ายวางแผนและให้คำปรึกษาลูกค้าบุคคล ธนาคารกสิกรไทย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการปรึกษาวางแผนเพิ่มเติม สามารถปรึกษากับ K-Expert ธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ K-Expert@kasikornbank.com 

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ