6 ข้อควรรู้ ทาสีบ้านได้เองไม่ง้อช่าง

1 ก.พ. 2560

แม้จะไม่มีฝีมือด้านงานช่างหรือไม่เคยทาสีบ้านมาก่อน เราก็สามารถจัดการระบายสีของผนังบ้านด้วยตัวเองได้ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่รู้เทคนิคและวิธีการอีกเล็กน้อย ไม่เพียงประหยัดเงินค่าจ้างค่าแรงเท่านั้น การทาสีร่วมกันกับครอบครัวหรือคนรักยังเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจในการสานสัมพันธ์ความรักความอบอุ่น ทั้งยังได้ภูมิใจกับผลงานผนังบ้านสีสวยที่เกิดขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของทุกคน

6 ข้อควรรู้ ทาสีบ้านได้เองไม่ง้อช่าง

• รู้จักกับประเภทของสีทาบ้าน
ก่อนจะเริ่มต้นการทาสี เราควรทำความเข้าใจกับสีทาบ้านประเภทต่างๆ เพื่อให้สามารถเลือกสีได้ถูกต้องเหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งสีทาบ้านในปัจจุบันแบ่งตามการใช้งานได้ ดังนี้

2017-01-31_14-47-10

• ภายนอก VS. ภายในอาคาร
ไม่เพียงการเลือกสีตามคุณสมบัติและการใช้งานเท่านั้น เรายังต้องพิจารณาบริเวณที่เราต้องการทาสี ยกตัวอย่างเช่น
– การทาสีภายในอาคาร ใช้สีน้ำพลาสติกสำหรับทาภายใน และห้องต่างๆ ภายในบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ไม่โดนแดดโดนฝน
– การทาสีภายนอกอาคาร ควรใช้สีประเภทอะคริลิค (Pure Acrylic Paint) เนื่องจากทนแดดทนฝนได้ดี หลุดร่อนยากและทำความสะอาดง่าย เป็นต้น

• เตรียมพื้นผิวก่อนทาสี
สำหรับการทาสีบ้านให้อยู่ทนและอยู่นานต้องมีการเตรียมพื้นผิวให้แห้งสนิท ไม่มีสภาพเป็นกรดด่าง หรือมีฝุ่นเกาะ โดยควรเป็นผนังฉาบเรียบไม่มีรอยแตกร้าว รวมถึงไม่ควรทาสีในขณะที่พื้นผิวชื้อเพราะจะทำให้ขึ้นรา หรือสีหลุดร่อน บวมออกมาได้

ที่สำคัญหากมีสีเดิมอยู่ เราควรจัดการให้เรียบร้อยก่อนทาสีใหม่ โดยหากเป็นพื้นผิวเหล็ก เราต้องขูดสีเก่าหรือขูดสนิมออกให้หมด หลังจากนั้นควรทาสีรองพื้นชนิดกันสนิม และทาสีน้ำมันตามอีกครั้ง เช่นเดียวกับการทาภายในอาคารที่เป็นวัสดุเหล็ก เราควรเลือกใช้สีน้ำมัน โดยทาสีรองพื้นกันสนิมก่อนทำการลงสีบนพื้นผิวของวัสดุ รวมถึงพื้นผิวปูนซีเมนต์ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เราสามารถทาสีรองพื้นและทาสีน้ำอะครีลิคบนผิวปูนซีเมนต์ได้หลังจากขูดทำความสะอาดสีเก่าจนหมด

• สีรองพื้นให้เหนียวแน่นหนึบ
อย่าเพิ่งใจร้อนจับแปรงทาสีที่ชอบทันที แต่ให้ซ้อมมือก่อน ด้วยการทาสีรองพื้น ซึ่งเป็นสีขั้นแรกสุดที่เคลือบติดพื้นผิว เพื่อช่วยเพิ่มการยึดเกาะระหว่างพื้นผิวและสีทาผนัง โดยสามารถช่วยป้องกันความเสียหายต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การกันด่างในปูน การกันสนิมในเหล็ก หรือการกันยางไม้

• ขั้นตอนในการทาสี
1.เริ่มต้นคนสีในกระป๋องให้เข้ากัน เนื่องจากสีที่ถูกทิ้งไว้นานมักจะนอนก้น โดยสามารถใช้น้ำมันสนผสมเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อสีมีความหนืดกำลังพอดี หลังจากนั้นจึงกวนสีและน้ำมันสนให้เข้ากัน
2.วิธีการจุ่มแปรงทาสี ควรจุ่มแค่ปลายแปรงและเริ่มทาจากขอบชิ้นงานด้านใดด้านหนึ่ง
3.หลังจากทาแนวแรกแล้วจึงทาแนวที่สองให้เกยทับแนวแรกเล็กน้อยตลอดชิ้นงาน
4.สำหรับการทาสีทุกประเภทควรทาประมาณ 2 – 3 รอบ โดยทิ้งระยะให้สีที่ทาครั้งแรกแห้งสนิทก่อนจึงทาทับครั้งต่อไป ที่สำคัญอย่าทาสีเกิน 5 รอบ เนื่องจากจะทำให้ชั้นของสีมีความหนาเกินไป และหลุดร่อนได้ง่าย
5.สำรวจตามซอกมุมต่างๆ ทาสีให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ

• เพิ่มลูกเล่นให้บ้านด้วยสีสัน
นอกจากการทาสีผนังบ้าน เรายังสามารถสร้างสีสันหรือเพิ่มความแปลกใหม่ให้บ้านของเราได้ด้วยการทาสีบางมุมของบ้านได้อย่างสนุกสนาน เช่น การทาสีขอบประตู และขอบหน้าต่าง ให้บ้านดูสดใส หรือการเพิ่มลูกเล่นให้เฟอร์นิเจอร์ตัวเก่าที่ได้รับมรดกตกทอด ด้วยการจับโต๊ะหรือเก้าอี้มาระบายสีใหม่ การทาสีด้านในตู้หนังสือ การทาสีลิ้นชักไม้ หรือกล่องไม้โบราณรุ่นเจ้าคุณปู่ เป็นต้น
สุดท้ายนี้การทาสีบ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่การตกแต่งบ้านให้สวยงามเท่านั้นยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการคลายร้อนจาก 5 วิธี โดยสามารถอ่านต่อได้ที่บทความ 5 วิธีคลายร้อนให้บ้านเก่า และที่สำคัญ..ก่อนตัดสินใจลงแปรงทาสีบ้านใหม่ เราควรเลือกเฉดสีที่ใช่และชอบมากที่สุด รวมถึงอาจเลือกสีให้เหมาะกับธาตุโดยอิงจากหลักฮวงจุ้ย เพื่อช่วยเสริมดวงชะตาด้วยอีกทาง บ้านสวยด้วยเฮงด้วย!

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

อัพเดท 3 เทรนด์หลัก...บ้าน-คอนโดฯ ปี 2560

“เทรนด์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ ปี 2560 ที่คาดว่าจะได้เห็นมากขึ้นในปีนี้ น

อ่านต่อ9 ม.ค. 2560