ปักหมุด “ทองหล่อ”เพิ่มพอร์ตอสังหาฯผุดอพาร์ตเมนต์ให้เช่า

1 ก.พ. 2560

 

ออริจิ้นฯเผยแผนปี 60ลงทุนพัฒนา 9 โครงการใหม่มูลค่า 15,000 ล้านบาท เน้นเจาะตลาดพรีเมียมแมส ตั้งเป้ายอดขาย 13,000 ล้านบาท ระบุ “นวัตกรรม – บริการหลังการขาย” ปัจจัยสำคัญอสังหาฯที่ยุคใหม่ต้องมี ชี้แค่ทำเล-คุณภาพ-ราคา ยังแข่งขันลำบาก วางวิสัยทัศน์ก้าวสู่ Your Digital Butler ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยยุคดิจิทัล นำร่องเปิดตัว ORIGIN Family Club Card

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปี 2560 นี้ บริษัทมีแผนจะเปิดขายโครงการใหม่ 9 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ได้แก่ ไนท์บริดจ์ 3 โครงการ มูลค่า 6,400 ล้านบาท นอตติ้ง ฮิลล์ 3 โครงการ มูลค่า 5,400 ล้านบาท เคนซิงตัน 2 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ปีนี้จะเริ่มพัฒนาโครงการแนวราบอีก 1 โครงการ มูลค่า 700 ล้านบาท บนเนื้อที่ 20 ไร่ ราคาเริ่ม 4-5 ล้านบาท ทั้งหมด 150 ยูนิต อยู่บนถนนศรีนครินทร์ คาดว่าจะเปิดในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ พร้อมทั้งขยายเข้าสู่การดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า เพื่อปรับพอร์ตสินค้าในมือ และรายได้ โดยที่ดินในย่านทองหล่อ ขนาดที่ดิน 2 ไร่ ลีสโฮลด์ 30 ปี คาดก่อสร้างปลายปี′60 และ 4.ที่ดิน แฮมป์ตัน ศรีราชา ขนาดที่ดิน 2 ไร่ครึ่ง คาดเริ่มก่อสร้างต้นปี′61 ซึ่งโครงการวัน ทองหล่อและแฮมป์ตัน ศรีราชา คาดว่าจะออกแบบเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรือโรงแรม หรือมิกซ์ยูสทั้ง 2 ประเภท

ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงเน้นทำตลาดคอนโดระดับพรีเมียมแมส ราคา 2-5 ล้านบาท ในแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุมเส้นทางรถไฟฟ้า 5 สาย ทั่วกรุงเทพฯชั้นในและชั้นนอก เพื่อตอกย้ำความสำเร็จของเราในการทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับคอนโดที่หรูหราแต่จับต้องได้ หรือ Affordable Premium Condo โดยในปีนี้ ออริจิ้นฯ ตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 13,000 ล้านบาทเติบโตจากปี 2559 ที่มียอดขาย 10,844 ล้านบาท 20% ขณะที่วางเป้ารายได้ของปี 2560 จะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท โดยจะมาจาก Backlog ในมือ 77%

สำหรับ ออริจิ้นฯในปัจจุบันมีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Project Development Business) 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาฯ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร สำหรับธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขายนั้น พัฒนาคอนโดมิเนียมมาแล้ว 34 โครงการ รวมมูลค่ารวมกว่า 27,000 ล้านบาท

ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์เข้มข้นมากขึ้น จากเดิมที่ดีเวลลอปเปอร์ใช้เพียง 3 ปัจจัยหลักๆ คือ ทำเล คุณภาพของโครงการ และราคา ในการก้าวสู่ความสำเร็จ แต่นับจากนี้ไปปัจจัยหลักๆ ที่ใช้กันอยู่อาจไม่เพียงพอให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อีกต่อไป เนื่องจากลูกค้าในยุคใหม่มีความต้องการที่มากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมีการพัฒนาปัจจัยใหม่ๆเข้ามาเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ช่วยให้แข่งขันอยู่ในตลาดได้

ทั้งนี้ 3 ปัจจัยแรกที่ผู้ประกอบการใช้กันมาจะเป็นเสมือนสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับการแข่งขันในอนาคต เนื่องจากจุดที่จะทำให้ผู้พัฒนาแต่ละเจ้าโดดเด่นและสามารถครองใจผู้บริโภคและเติบโตไปอย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาปัจจัยใหม่ๆเข้ามาเสริม โดยเฉพาะปัจจัยในเรื่องนวัตกรรมใหม่ๆ และการบริการหลังการขาย ซึ่งจะเข้ามาเสริมความแข็แกร่งให้แก่บริษัท และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่

ดังนั้น ในปี 2560 นี้ ออริจิ้นฯ จึงวางวิสัยทัศน์ในการพัฒนาธุรกิจและโครงการใหม่ๆเพื่อให้สนองตอบความต้องการของผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ได้มากยิ่งขึ้น โดยการการมุ่งมั่นนำองค์กรก้าวสู่การเป็น“Your Digital Butler” โดยจากนี้ไป บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญกับ เรื่องของการนำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้ในการพัฒนาโครงการและการบริการหลังการขาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยยุค “Digital Life Attitude”

“ สำหรับButler คือ ผู้ทำหน้าที่ให้บริการในสังคมอังกฤษ ขณะที่ออริจิ้นฯ เองก็เป็นผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมสไตล์อังกฤษที่จะคอยบริการผู้บริโภค แต่ ออริจิ้นฯจะเป็นแค่ Butler ธรรมดา แต่จะเป็น Butler ที่มีนวัตกรรม และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการนำเรื่องดิจิทัลเข้ามาประยุกต์กับการบริการผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นจุดแข็งใหม่ของเราที่ช่วยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน”

ภายใต้แนวคิดดังกล่าว ออริจิ้นฯ ได้วางแนวทางการดำเนินธุรกิจไว้ 4 ด้าน คือ การตอบโจทย์ชีวิตดิจิทัลด้วยเซอร์วิสแอพพลิเคชั่น การเป็นมากกว่าคอนโดมิเนียมด้วยบริการระดับโรงแรม การจับมือกับพันธมิตรเพื่อมอบสิทธิพิเศษในการใช้ชีวิตให้แก่ผู้อยู่อาศัย และการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยล่าสุด บริษัทเริ่มตอบโจทย์ Digital Life Attitude ด้วยการจับมือกับบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเท็ม จำกัด หรือ BSS ผู้ให้บริการบัตรแรบบิท จัดทำบัตร ORIGIN Family Club Card ใช้บัตรเพียงใบเดียวเข้าได้ทั้งคอนโดมิเนียมและรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมได้รับทั้งแต้มของบริษัทและแต้มของแรบบิทสำหรับใช้รับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย โดยจะทยอยส่งมอบบัตรดังกล่าวให้แก่ผู้อยู่อาศัยของบริษัทตั้งแต่ 1 ก.พ.นี้ เป็นต้นไป

>>แนะนำคอนโดมิเนียมใหม่<<

“หลังจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน “ORIGIN Digital Butler” เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ให้ทำทุกอย่างได้ง่ายเพียงแค่ปลายนิ้ว โดยขณะนี้มีพันธมิตรในการจัดทำแอพพลิเคชั่นแล้ว ซึ่ง ออริจิ้นฯ มั่นใจว่า ชีวิตในฝันเป็นสิ่งที่สร้างได้ การดำเนินการทั้ง 4 ด้านดังกล่าว จึงจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ฝันของผู้อยู่อาศัยเป็นจริง ทำให้เกิดการบอกต่อ และทำให้แบรนด์ “ออริจิ้น” เติบโตไปได้อย่างยั่งยืน”

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรสู่ Tech Company รายแรกในไทย

อนันดาฯ ผนึก กลุ่ม Startup ต่อยอด Ananda UrbanTech ร่วมตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีและ

อ่านต่อ31 ม.ค. 2560

ESTAR ขอโตต่อเนื่อง ฝ่าปัจจัยลุ้น ปี’60

&nbsp; อีสเทอร์น สตาร์ เดินหน้าขยายฐานสร้างการเติบโตต่อเนื่องจ่อเปิด 2-3 โค

อ่านต่อ1 ก.พ. 2560