“คอลลิเออร์ส” ชี้ปี60อสังหาฯร่วมทุนต่างชาติเพิ่ม หวังเสริมแกร่ง นวัตกรรม บริการ และการแข่งขัน รองรับวามต้องการลูกค้ายุคใหม่ คาดปีนี้เห็นอีก2รายประกาศร่วมทุนญี่ปุ่น เผยเบื้องลึกประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษ เหลือชิงดำแค่2ราย “กลุ่มเซ็นทรัล ของตระกูลจิราธิวัฒน์ และกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” แย้มกลุ่มเซ็นทรัลมีสิทธิ์ชนะประมูลสูง เหตุช่วยต่อยอดอาณาจักรขนาดใหญ่ย่านวิทยุ-ชิดลม เผยแนวโน้มหลังเซ็นทรัลชนะปะมูลอาจร่วมทุนกลุ่มฮ่องกง ผุดมิกซ์ยูส หากเป็นคอนโดราคาขายไม่ต่ำ500,000บาทต่อตร.ม.
นายสัญชัย คูเอกชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน มีความแตกต่างจากอดีตมากขึ้นเนื่องจากความต้องการของลูกค้า ดังนั้นรูปแบบการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการจึงเน้นในเรื่องการเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจและการสร้างจุดแข็งในการแข็งขัน ทำให้ในปีนี้ จะเห็นผู้ประกอบการอสังหาฯรายใหญ่ และรายกลาง มีการร่วมทุนกับบริษัทอสัหาฯต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มทุนจาก“ประเทศญี่ปุ่น” ซึ่งมีนวัตกรรมการอยู่อาศัยใหม่ๆ โดยก่อนหน้านี้มีหลายบริษัทร่วมทุนกับบริษัทข้ามชาติมากหลายรายแล้ว แต่รูปแบบการร่วมมือนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการร่วมพัฒนาโครงการมากกว่าการร่วมทุน ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้จะมีการร่วมทุนระหว่างผู้ประกอบการไทยและและญี่ปุ่นให้เห็นอีกประมาณ 2 ราย โดยจะเป็นรายใหญ่ 1 รายและรายกลางอีก 1 ราย นอกจากนี้ยังจะเห็นความร่วมมือรูปแบบเป็นพันธมิตรด้านดิจิทัล การให้บริการและการส่งเสริมการขายซึ่งกันและกัน
“สำหรับกลุ่มบริษัทอสังหาฯต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว เรื่องเม็ดเงินลงทุนไม่ใช่ปัจจัยของการร่วมทุน ขณะที่ผู้ประกอบการไทยเองก็ไม่ได้มองที่เม็ดเงิน แต่ต้องการหาพันธมิตรมาเสริมกลยุทธ์ ทำให้มีจุดขายของโครงการมากขึ้น ทั้งในแง่การพัฒนาโปรดักส์โดยเฉพาะพันธมิตรซึ่งเป็นกลุ่มญี่ปุ่น ที่มีบางบริษัทมีศูนย์วิจัยกลุ่มอายุลูกค้า เทรนด์ โปรดักท์ เพื่อนำมาพัฒนาโปรดักส์รองรับความต้องการลูกค้า รวมถึงบริการการขายที่มีบริการที่มากกว่า”
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเราได้เห็นการร่วมทุนกับต่างชาติในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ เช่น บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ร่วมทุน กับ ฮ่องกง แลนด์ เปิดบริษัท S36 Property ในการพัฒนาโครงการคอนโดหรู ในย่านทองหล่อ โดยมีข้อตกลงร่วมกับ สิงห์ เอสเตท ถือหุ้น 51% และ ฮ่องกง แลนด์ 49% สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ ติดสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เป็นโครงการคอนโดสูง 40 ชั้น จำนวน400 ยูนิต มูลค่า 6,000 ล้านบาท
การประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษพื้นที่ 23 ไร่ ที่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการประมูลว่า ทราบว่าขณะนี้เหลือเพียงกลุ่มเซ็นทรัล ของตระกูลจิราธิวัฒน์ และกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เพียง 2 รายเท่านั้น และมีแนวโน้มว่ากลุ่มเซ็นทรัล น่าจะชนะการประมูลที่ดินแปลงดังกล่าว ซึ่งหากกลุ่มเซ็นทรัลชนะการประมูลดังกล่าวจะช่วยเสริมศักยภาพให้กลุ่มเซ็นทรัล สามารถสร้างเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้ได้ชนะประมูลที่ดินบริเวณด้านหน้าสถานทูตอังกฤษมาแล้ว 10 ไร่ ในราคา 950,000 บาท/ตารางวา
>>อ่านรีวิวคอนโดมิเนียมใหม่ย่านรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต <<
โดยปัจจุบันได้ก่อสร้างเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ซึ่งคาดว่าหากกลุ่มเซ็นทรัลสามารถชนะการประมูลในครั้งนี้ ราคาที่ดินน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านบาทต่อตารางวา(ตร.ว.) จากมูลค่าที่ดินทั้งหมดกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งหากกลุ่มเซ็นทรัลได้ที่ดินแปลงดังกล่าวมาคาดว่าจะร่วมทุนกับกลุ่มฮ่องกง แลนด์ เพื่อพัฒนาโครงการร่วมกัน ส่วนรูปแบบโครงการที่จะพัฒนาให้มานั้นน่าจะมีรูปแบบเป็นโครงการมิกซ์ยูส เพราะมีความหลากหลาย แต่หากพัฒนาคอนโดฯ ราคาขายต่อ ตร.ม. คาดว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 500,000 บาทต่อ ตร.ม.
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน