เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น “ฮันคิว เรียลตี้” นำร่องโครงการแรก ครึ่งปีหลัง คอนโดมิเนียมไฮไลท์ “The Niche Pride ย่านเตาปูน”
นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยถึง โครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น คือ บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมใหม่ The Niche Pride ย่านเตาปูน มูลค่าโครงการกว่า 3,000 – 4,000 พันล้านบาท โดยจะพัฒนาเป็นอาคาร High Rise สูง 40 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัย 700-800 ยูนิต บนพื้นที่โครงการกว่า 3 ไร่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบโครงการและอยู่ระหว่างการประเมินราคาขายโครงการ ซึ่งคาดว่าจะเปิดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 60 นี้
โครงการดังกล่าวจะเป็นการพัฒนาภายใต้บริษัทร่วมทุน คือ บริษัท เสนา ฮันคิว 1 จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ซึ่งบริษัทถือหุ้น 51% และฮันคิวฯ ถือหุ้น 49% ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ามีโอกาสที่จะพัฒนาโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนดังกล่าวเพิ่มอีก 1 โครงการ ภายในปี 60 ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณากันอีกครั้ง
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 60 บริษัทตั้งเป้ารายได้ในเติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 4,060 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้มรายได้ของบริษัทปีนี้คาดว่าจะเป็นการเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อจากปี 59 โดยในปี 60 จะทยอยรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ 3,000 – 4,000 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ 80 – 90%
ส่วนตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโต 20% จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้กว่า 4 พันล้านบาท โดยวางแผนเปิด 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท คอนโดมิเนียมนั้น จะเน้นเป็นแบรนด์ The Niche ทั้งหมด 9 โครงการ และ 1 โครงการแนวราบ โดยใน 10 ทำเล คือ สุขุมวิท 50, บางกะดี่, ปากเกร็ดหรือแจ้งวัฒนะ, บางแค, สุขุมวิท 70 หรือ แบริ่ง, รามอินทรา กม.9, ลำลูกกา, คูคต, เตาปูน และสุขุมวิท 113ที่เป็นเฟสต่อขยาย
ปีนี้คอนโดมิเนียมจะติดรถไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ เพราะบริษัทมองว่ายังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าอยู่มาก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่ไม่ห่างจากรถไฟฟ้ามากนัก ในราคาระดับกลาง-ล่าง ที่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีสัดส่วนมากในตลาด และเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท ซึ่งแนวโน้มของลูกค้ากลุ่มระดับกลาง-ล่างในอนาคตคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ผ่านพ้นไป และภาระหนี้รถคันแรก ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ได้รับผลกระทบในเรื่องการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นมาก และกำลังซื้อที่ลดลงนั้น น่าจะผ่านพ้นไปแล้ว
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในปีนี้ เรื่องของภาระหนี้รถคันแรกที่เกิดขึ้นหากสิ้นสุดลงไป จะส่งผลดีต่อตลาดกลาง-ล่างมีการฟื้นตัวขึ้น ทั้งในแง่ของอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่ลดลงและกำลังซื้อที่กลับมา จึงทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสเน้นกลุ่มลูกค้าในระดับกลาง-ล่างค่อนข้างมากในปีนี้ โดยใน 10 โครงการเปิดใหม่ปีนี้เป็นโครงการระดับกลาง-ล่าง จำนวน 7 โครงการ และโครงการระดับกลาง-บน จำนวน 3 โครงการ
โดยในช่วง 2 เดือนของปีนี้ เสนาเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Niche Mono สุขุมวิท 50 และโครงการ The Kith Lite บางกะดี่-ติวานนท์ โดยยอดขายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/59 อย่างชัดเจน โดยส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากภาวะตลาดที่เริ่มคลายความโศกเศร้าหลังผ่านพ้นเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อความรู้สึกของคนไทยไปในช่วงเดือนต.ค.เป็นต้นมา ซึ่งทำให้ช่วงต้นปีมีการกลับมาซื้อที่อยู่อศัยมากขึ้นของคนที่ต้องการและเตรียมซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงปลายปีก่อน แต่ได้ชะลอการซื้อออกไป อีกทั้งเป็นช่วงที่มีการจ่ายเงินโบนัสทำให้มีการใช้จ่ายในช่วงต้นปีค่อนข้างมาก และส่งผลให้แนวโน้มอัตราการปฏิเสธสินเชื่อในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาลดลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี ทางบริษัทตั้งงบซื้อที่ดิน 1,200 ล้านบาท เพื่อซี้อที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต โดยในปีที่ผ่านมาใช้งบในการซื้อที่ดินไปแล้ว 800 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจโซลาร์ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 4-5% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 37.3 ล้านบาท โดยจะมีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ครบทั้ง 50 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทและบริษัทร่วมทุน คือ บริษัท บี.กริม เสนา โซล่าร์ เพาเวอร์ จำกัด ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทยังมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากที่สุด 93% รายได้จากธุรกิจเช่าและบริการ 6% และธุรกิจโซลาร์ 1% ตามลำดับ
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน