ถือว่าเป็นสภาวะปกติของไตรมาส 2 ที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะนิ่งเงียบ การซื้อขายหรือ แม้แต่การเปิดตัวโครงการจะไม่คึกคักเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับไตรมาสอื่น ๆ เนื่องจากเป็นช่วงของเทศกาลและมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน
แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักพัฒนาที่ดินยังมองมุมบวกว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ แต่อาจจะไม่หวือหวามากนัก เนื่องจากยังมีปัจจัยลบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลกและการเกิดสงครามในต่างประเทศ แต่เนื่องจากไทยและภูมิภาคอาเซียนเศรษฐกิจยังมีความเข้มแข็ง ประกอบกับภาครัฐเร่งเดินหน้าโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายจึงเป็นตัวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญให้กับประเทศได้
หันมาโฟกัสกันที่ตลาดคอนโดฯเซกเมนท์ระดับล่างยังคงเหนื่อยกับการผลักดันสต็อกที่เหลือขาย ส่วนตลาดคอนโดฯระดับกลางถึงไฮเอนด์นั้นไม่น่ากังวลเพราะยังมีความต้องการอยู่ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องของการหาที่ดินมาพัฒนา ซึ่งจะช่วยกรองผู้เล่นในตลาดให้เหลือน้อยลง ท้ายที่สุดก็จะเหลือผู้ประกอบการรายใหญ่ๆแข่งขันกันเอง
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมตลาดคอนโดฯติดรถไฟฟ้าในปัจจุบันว่า ในส่วนตัวยังไม่กังวัลกับสถานการณ์ในตลาดคอนโดฯ ระดับกลางถึงไฮเอนด์มาก เพราะดีมานด์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาเจาะลึกที่ตลาดคอนโดฯติดรถไฟฟ้าย่านสะพานควาย-พหลโยธินพบว่ามีจำนวนซัพพลายในขณะนี้ไม่สอดคล้องกับความต้องการที่ยังเติบโต ซึ่งจากการสำรวจของบริษัทพบว่าในช่วง 5 ปีย้อนหลัง มีจำนวนซัพพลายของยูนิตในโครงการคอนโดฯย่านรถไฟฟ้าสะพานควาย-พหลโยธิน ที่เหลือขายเพียง 2,000 ยูนิต โดยมี 900 ยูนิตมาจากโครงการของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่
นอกจากนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่ย่านรถไฟฟ้าสะพานควาย-พหลโยธินในช่วงที่ผ่านมา มีปริมาณลดลง เพราะที่ดินในย่านดังกล่าวมีขนาดที่ไม่เหมาะสมกับการพัฒนาโครงการ และค่อนข้างหาซื้อที่ดินยาก ผู้ประกอบการที่เข้ามาแข่งขันพัฒนาคอนโดมิเนียมในย่านดังกล่าวน้อยลง ซึ่งสวนทางกับดีมานด์ที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 85% โดยเฉพาะสินค้าคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าระดับกลางถึงไฮเอนด์ราคาขายในช่วง 3-7 ล้านบาท ล้วนเป็นโครงการของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่ขายได้ดี
“ตลาดคอนโดติดรถไฟฟ้าย่านสะพานควาย-พหลโยธินยังไม่โอเวอร์ซัพพลาย เพราะยังมีดีมานด์ที่รอสินค้าที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการในทุกด้าน ดังนั้นสินค้าที่จะลงไปแข่งขันในตลาดนี้ต้องสร้างความแตกต่าง เพื่อที่จะชนะใจคนเมืองที่กำลังมองหาคอนโดในทำเลนี้ ที่นับวันจะมีแต่มูลค่าเพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้จากแผนธุรกิจในการพัฒนาสินค้าคอนโดมิเนียมปี 2560 เอพีฯ เตรียมเปิดตัว 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายในส่วนคอนโดมิเนียมไว้ที่ 12,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 24% จากยอดขายปีที่แล้ว และในไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทตั้งเป้ายอดขายโครงการคอนโดมิเนียมไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท โดยวางแผนการเปิดโครงคอนโดมิเนียมใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป และจะเปิดในไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้แก่ โครงการ LIFE ลาดพร้าว และอีกหนึ่งโครงการคือ LIFE One Wireless
สำหรับโครงการแรก คอนโดมิเนียมใหม่ แบรนด์ LIFE ลาดพร้าว มูลค่า 7,600 ล้านบาท จำนวนยูนิต 1,615 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.9 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 140,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งจะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 20-21 พ.ค. 2560 นี้ ที่สำนักงานขายโครงการ LIFE ลาดพร้าว ตรงข้ามศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้ามาลงทะเบียนแสดงความสนใจแล้ว 2,500 ราย ในขณะที่ปลายไตรมาส 3 หรือต้นไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 1 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท
สำหรับยอดขายโครงการคอนโดมิเนียมในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย. 60) บริษัททำยอดขายได้แล้วราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งยอดขายมาจากการขายโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 15 โครงการ มูลค่าเหลือขายรวม 13,400 ล้านบาท และยังมีโครงการที่ร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป อีก 8 โครงการ มูลค่าเหลือขายราว 3,000 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (backlog) ในส่วนของคอนโดฯ ราว 25,900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะโอนในปีนี้ราว 8,300 ล้านบาท
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน