บิ๊กอสังหาฯ ยังมั่นใจสภาพตลาดที่อยู่อาศัยไม่เกิดภาวะฟองสบู่ เนื่องจากคนที่ซื้อเพื่อลงทุนมีความสามารถแค่วางมัดจำแต่โอนไม่ได้มากระดับ 90% แต่ปัจจุบันกลุ่มที่โอนไม่ได้ยังมีไม่ถึง 10% โดยกลุ่มที่เติบโตได้ดี คืออสังหาริมทรัพย์ระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป
นายวิวัฒน์ เลาหพูนรังษี กรรมการบริหาร บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในไตรมาสแรกของปี 2560 ว่า ส่วนของยอดขายในช่วงไตรมาสแรกปีนี้แม้จะเพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่าทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากการชะลอตัวของภาคอสังหาฯ ที่มีมาตั้งแต่ปีก่อน และผลกระทบจากการปล่อยสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร ซึ่งมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 40 % ของยอดขอสินเชื่อ แต่บริษัทมีการเพิ่มช่องทางเพื่อโฆษณามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นโฆษณาออนไลน์ การจัดงานส่งเสริมการตลาด และขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติมากขึ้น ตั้งเป้าหมายรับรู้รายได้จากตลาดต่างชาติ 10% หรือ 500 ล้านบาท โดยกลุ่มหลักคือ จีน ฮ่องกง รวมถึงจะทำตลาดสร้างแบรนด์เพิ่มเพื่อผลดีระยะยาวทำให้โดยรวมแล้วสามารถทำกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีนี้จำนวน 29.07 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2560 มียอดขาย 2,218 ล้านบาท เติบโต 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมียอดรับรู้ราย หรือยอดโอน จำนวน 1,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยมาจาก 30 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านแนวราบ 25 โครงการ และแนวสูง 5โครงการ ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์อยู่ในสภาวะทรงตัว เพราะขาดปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการ ของภาครัฐเช่นเดียวกับปี 2559 แม้ว่ากำลังซื้อในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม ประกอบกับสถาบันการเงินมีความกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้ผลการขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้รับอนุมัติน้อยกว่าที่คาดไว้
อย่างไรก็ตามบริษัทมั่นใจว่า ปีนี้ จะมียอดรับรู้รายได้ 6,400 ล้านบาท และมีเป้าหมาย การเติบโตรายได้ไม่น้อยกว่า 35 – 38 % เมื่อเทียบกับผลประกอบการปี 2559 ภายใต้กลยุทธ์การใช้ฟังก์ชั่นและดีไซน์บ้านที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ และสุดท้ายนโยบายหลักที่เน้นเรื่องการบริการ คือการดูแลลูกบ้านทั้งก่อนและหลังการขายไม่ว่าโซนไหนลูกค้าต้องการสินค้าคุณภาพ ดูแลดี เชื่อถือได้
ทั้งนี้ ทางบริษัทยังคงมองเห็นความต้องการที่อยู่อาศัยในปีนี้เพิ่มขึ้น แม้จะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2559 โดยปีนี้จะขยายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด วางแผนเปิด 11 โครงการ ไตรมาสแรกเปิดไปแล้ว 1 โครงการ
และในไตรมาส 2 จะเปิดบ้านแนวราบจำนวน 4 โครงการมูลค่า 3,000 ล้าน ได้แก่ โครงการเดอะ เพลส กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ 2 โครงการเดอะ วิลเลจ รังสิต-วงแหวนโครงการเดอะ คัลเลอร์ส มิกซ์ รังสิต-วงแหวน และโครงการ เดอะ คัลเลอร์ส วงแหวน-รามอินทรา 2 พร้อมการทำแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าจะมียอดโอนในไตรมาส 2 ที่ 1,600 ล้านบาท โดยเป็นโครงการแนวราบ 1,200 ล้านบาท และโครงการแนวสูง 400 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง ทางบริษัทมีแผนเปิดโครงการไฮไลท์ ประเภทคอนโดมิเนียม 2 โครงการในโซนบางนามูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท และโซนสุขุมวิท ทองหล่อ 1 โครงการ มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน