ฝนมาเยือนกันอีกแล้ว หลายคนนอกจากจะต้องรับมือกับการเดินทางอันแสนสาหัสในช่วงหน้าฝนแล้ว ยังต้องรับมือกับปัญหา “น้ำรั่ว” ภายในบ้านจากการตกหนักของฝนด้วย ดังนั้น ถ้าใครเตรียมตัวไว้ก่อนถึงหน้าฝนแล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าใครยังไม่ได้วางแผนรับมือไว้ ก็ถือว่าเวลานี้เป็นจังหวะที่ดี เพราะจะได้รู้จุดที่รั่วซึมภายในบ้านจริงๆ โดยเราควรทำเป็นเช็กลิสต์ไว้เลยว่า จุดสำคัญจุดไหนบ้างภายในบ้านที่ถ้ารั่วเมื่อไหร่ น้องฝนก็เข้ามาได้แน่นอน
1. หลังคา
จุดนี้ถือเป็นจุดที่อ่อนไหวที่สุด เพราะเปรียบเสมือน “หมวก” ของบ้าน ถ้าหมวกรั่ว ฝนตก เราก็มีสิทธิ์จะเปียก เช่นกัน ถ้าหลังคารั่ว ฝนตก ก็มีสิทธิ์ที่น้ำจะซึมเข้ามาในบ้านของเรา โดยส่วนใหญ่จะรั่วบริเวณข้อต่อของกระเบื้อง ซึ่งจะเป็นจุดมองไม่ได้ออกว่ามีการรั่ว ดังนั้น จะรู้ว่ารั่วซึม ก็ต่อเมื่อฝนตกเท่านั้น
แต่หากเป็นฤดูอื่นๆ ที่เราต้องการเตรียมตัวรับมือก่อนเข้าหน้าฝน เราอาจใช้วิธีง่ายๆ ในการตรวจสอบ คือ การเทน้ำสักถังแรงๆ ลงบนหลังคา แล้วให้คนที่อยู่ข้างล่าง ดูว่า มีจุดไหน ที่มีการรั่วซึมของน้ำบ้าง ถ้าพบเจอ แล้วนำปากกาเมจิกมาขีดกากบาทไว้ เพื่อรอการซ่อมแซมในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม วิธีการเทน้ำ ลักษณะการลงของน้ำจะแตกต่างจากลักษณะการตกของฝน ดังนั้น จึงเป็นการประเมินได้เบื้องต้น อาจจะไม่ได้ 100% แต่ก็ถือว่าดูภาพรวมๆ ได้
แต่ถ้าเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ในวันที่ฝนตก หรือฝนตกหนักๆ จะทำให้เรารู้ได้เลยว่า จุดใดบ้างที่มีการรั่วซึม ซึ่งจะมี 2 จุดหลักๆ คือ
– บริเวณที่จอดรถ หรือลานอเนกประสงค์ภายในเขตบ้าน จะเห็นจากหลังคาได้เลยว่า มีการรั่วซึมหรือไม่
– พื้นที่ในตัวบ้านชั้นบน ให้สังเกตจากฝ้า ถ้าหลังคาที่ปกคลุมส่วนตัวบ้านรั่ว น้ำจะไปอยู่ใต้หลังคาที่มีฝ้ากันไว้ ซึ่งถ้ากรณีที่น้ำรั่วจำนวนมาก แล้วขังไว้ที่ฝ้า ฝ้าจะมีคราบเหลืองๆ ต้องสังเกตให้ดี เพราะถ้าฝ้าเสื่อมคุณภาพ มีโอกาสที่จะพังลงมาได้ จะสร้างความเสียหายมาก
วิธีการแก้ปัญหา
วิธีที่ 1 ใช้ปูนอุดรอยรั่ว เป็นวิธีที่แก้ปัญหาได้เร็ว ค่าใช้จ่ายไม่มาก แต่ก็มีโอกาสจะเกิดปัญหาซ้ำใหม่ได้
วิธีที่ 2 เปลี่ยนใหม่ วิธีการนี้แก้ปัญหาได้ระยะยาวกว่า แต่ต้นทุนสูงกว่ามาก
2. รางน้ำ
บริเวณรางน้ำ ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องหมั่นตรวจสอบ อย่าให้อุดตัน ซึ่งมีสาเหตุมาจากเศษขยะภายในบ้าน เศษใบไม้ต่างๆ ที่อาจไม่ทันระวังว่าจะตกลงไป โดยหากรางน้ำมีเศษขยะอุดตันทางระบายน้ำ ก็จะทำให้น้ำล้นจนอาจทำให้พื้นที่บริเวณใต้รางน้ำเสียหายได้
กรณีที่รางน้ำรั่ว เสื่อมสภาพ จากสาเหตุใดๆ ก็ตาม ควรเปลี่ยนใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณใต้รางน้ำ
3. ประตู หน้าต่าง
เป็นอีกจุดที่น้ำจากฝนที่ตกหนักจะเข้ามาได้ ควรตรวจสอบว่ามีบริเวณประตู หน้าต่าง มีแตก หรือรอยแยกตรงกรอบประตู ตรงวงกบหรือไม่ หรือมีช่องโหว่ที่จะทำให้น้ำเข้ามาได้หรือไม่ โดยหากพบเจอจุดที่น้ำรั่วเข้ามาได้ ก็ควรเร่งแก้ไข ก่อนน้ำฝนจะสร้างความเสียหายหนัก
นี่เป็น 3 จุดใหญ่ๆ สำคัญๆ ที่เราควรจะตรวจสอบ เพื่อหาแนวทางป้องกันความเสียหายจากฝนที่ตกหนักได้
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน