เลือกพรมปูพื้นสุดชิค

10 มิ.ย. 2560

สัมผัสนุ่มนวลของพื้นพรมและลวดลายสีสันที่สวยงามช่วยเติมเต็มห้องให้มีชีวิตชีวา แต่กว่าจะได้พรมที่ลงตัวตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแถมถูกใจใช้ได้นาน ยิ่งไม่ใข่เรื่องง่าย เพราะพรมมีหลายแบบหลายสไตล์ การเลือกพรมให้ตอบโจทย์ นอกเหนือจากลวดลายและสีสันที่เราต้องพิถีพิถันสรรหาแล้ว พรมปูพื้นยังมีหลากหลายชนิดที่เราควรทำความเข้าใจคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน

• ประเภทของพรม
– พรมปูพื้นเต็มห้อง (Carpet) พรมขนาดใหญ่ไร้ขอบ ผลิตออกมาเป็นม้วนเพื่อปูให้เต็มห้อง ต้องอาศัยช่างผู้เชี่ยวชาญในการปูพื้นพรม โดยจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และเครื่องมือ
– พรมเป็นผืน (Rug) พรมหลายขนาด มีขอบโดยรอบ พร้อมลวดสายสวยงามตามการสร้างสรรค์ของผู้ผลิต โดยสามารถนำไปใช้วางบนพื้นได้ทันที ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ยึดกับพื้นห้อง เหมาะสำหรับการออกแบบตกแต่งบ้าน
– พรมไนลอน (Nylon) พรมที่มีคุณสมบัติทนทาน ดูแลรักษาง่าย ป้องกันรอยขีดข่วน เชื้อรา สารเคมี และกันน้ำได้ โดยมีหลายสีสันให้เลือก และราคาไม่แพง จึงทำให้ได้รับความนิยมใช้งานมากกว่าพรมประเภทอื่น
– พรมโพลีโพรไพลีน (Polypropylene) พรมที่มีคุณสมบัติป้องกันคราบสกปรกได้ดีที่สุด ป้องกันรอยขีดข่วน และเชื้อรา รวมถึงสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนใหญ่มักใช้กับพื้นที่ที่ต้องรับน้ำหนักมาก
– พรมโพลีเอสเตอร์ (Polyester) พรมที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้เป็นอย่างดี และมีประโยชน์ด้านการดักจับฝุ่น ไม่ให้ฟุ้งกระจาย ทั้งยังให้ความรู้สึกหรูหรา นุ่มสบาย แต่ทำความสะอาดยาก ไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
– พรมโพลีเอทิลีน (Polyethylene) พรมที่มีคุณสมบัติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลิตจากพลาสติกหรือฝาขวดรีไซเคิล ทำให้ไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ และป้องกันคราบได้ดีกว่าไนลอน รวมถึงสีสันสดใส เพียงแค่สัมผัสอาจจะไม่สบายเพราะผลิตจากพลาสติก
– พรมขนสัตว์ (Wool) พรมที่ให้ความรู้สึกหรูหรา สัมผัสนุ่มสบาย ราคาสูงเพราะผลิตจากธรรมชาติ 100% ป้องกันคราบและรอยเปื้อนได้ดี แต่ดูแลทำความสะอาดยากและอาจจะทำให้เกิดภูมิแพ้
– พรมอะคริลิก (Acrylic) พรมที่มีคุณสมบัติคล้ายกับพรมขนสัตว์ แต่ราคาถูกกว่า โดยสามารถป้อนกันความชื้นและคราบสกปรกได้ดี ส่วนใหญ่ใช้เพื่อความสวยงาม เพราะไม่เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก และอายุการใช้งานสั้น

• การใช้งาน
การเลือกซื้อพรมควรพิจารณาการใช้งานตามกิจกรรมของสมาชิกในบ้าน เนื่องจากไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตภายในบ้านมีส่วนสำคัญและเกี่ยวข้องกับลักษณะของพรมปูพื้น เช่น การเลี้ยงสัตว์ หรือสมาชิกในครอบครัวมีเด็กเล็กที่พร้อมสร้างคราบสกปรกทุกเมื่อ บ้านของเราอาจจะไม่เหมาะกับพรมที่เสี่ยงเป็นคราบสกปรกง่าย

นอกจากนั้น เรายังต้องพิจารณาสภาพแวดล้อมของบ้าน หากเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกหรือฝุ่นละออง เช่น ใกล้แหล่งโรงงานอุตสาหกรรม ใกล้ถนนใหญ่ หรือมักจะเปิดประตูหน้าต่างในบ้านทิ้งไว้ พื้นพรมของเราอาจจะกลายสภาพเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองและสารก่อให้เกิดภูมิแพ้ ซึ่งเราจำเป็นต้องคอยหมั่นทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ

ขณะที่การเลือกใช้สีของพรม นอกเหนือจากความชื่นชอบแล้วยังสัมพันธ์กับการใช้งาน เช่น ในห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่นและสกปรกง่าย เราไม่ควรเลือกใช้พรมสีเข้มที่ไม่มีลวดลายและพรมสีอ่อนมาก เพราะจะทำให้เห็นรอยเปื้อนและฝุ่นละอองชัดเจนมาก โดยโทนสีสามารถช่วยปรับบรรยากาศของห้องได้ เช่น ถ้าเป็นห้องขนาดเล็ก เราควรเลือกโทนสีสว่าง เพื่อให้ห้องดูมีขนาดใหญ่ขึ้น หรือการใช้ สีฟ้าและสีเขียวให้บรรยากาศเย็นสงบ รวมทั้งการใช้สีทองและสีแดงอ่อนเพื่อสร้างพลัง และให้ความรู้สึกความอบอุ่น นอกจากนั้นยังสามารถลดสีสันของห้องที่ฉูดฉาด ด้วยการปูพื้นพรมสีเนื้อหรือสีครีมผ่อนคลายบรรยากาศ

สถานที่ปูพรม
สำหรับการปูพรมในบ้าน เราไม่สามารถใช้พรมแบบเดียวกันปูพื้นเหมือนกันทุกห้อง เนื่องจากพรมแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่เหมาะสมแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น พื้นโถงทางเดิน ซึ่งเป็นบริเวณที่ใช้งานบ่อยและเสี่ยงต่อการเกิดคราบสกปรกง่าย เราควรเลือกปูพรมขนตัดที่ให้ความทนทานและสัมผัสนุ่มเท้า รวมถึงมีคุณสมบัติป้องกันคราบซึมเปื้อนได้เป็นอย่างดี

ส่วนการปูพื้นขั้นบันไดควรเลือกปูพรมขนตัดแทนพรมขนห่วง เพราะสามารถนำมาโค้งงอตามรูปขั้นบันไดได้มากกว่า โดยก่อนซื้อเราควรทดสอบความหนาแน่นของพรม ด้วยการใช้นิ้วจิ้มสำรวจพื้นพรม ถ้าเส้นพรมมีความหนาและละเอียด เราจะไม่สามารถแตะถึงวัสดุบุรอง เพื่อให้ได้พรมที่ทอแน่นหนา และไม่ให้เส้นพรมแตกแยกเวลาโค้งงอตามขั้นบันได

ขณะที่ห้องรับประทานอาหารควรพิจารณาพื้นที่รับประทานอาหาร ขนาดและรูปทรงของโต๊ะอาหาร เช่น การใช้พรมสี่เหลี่ยมผืนผ้ากับโต๊ะที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือพรมวงกลมสำหรับโต๊ะอาหารทรงกลม ซึ่งหากปูพรมลงบนพื้นและจัดวางโต๊ะ เก้าอี้บนพรมแล้ว ชายขอบของพรมควรพอดีกับด้านหลังของเก้าอี้หรือเกินออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ด้านการปูพรมห้องนั่งเล่น ซึ่งช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้สมาชิกภายในบ้านใกล้ชิดกันมากขึ้น เราควรเลือกขนาดของพรมปูพื้นให้เหมาะสม ด้วยการวัดขนาดของชุดโซฟา ซึ่งขอบของพรมปูพื้นควรเสมอกับด้านหลังของโซฟา หรือให้ชายพรมเกินออกมาจากชุดโซฟาเล็กน้อยเช่นเดียวกับการปูพรมในห้องรับประทานอาหาร

ท้ายสุดกับปูพรมในห้องนอน ซึ่งมอบสัมผัสอ่อนนุ่มต้อนรับเช้าวันใหม่และก่อนนอนหลับฝันดี ด้วยความรู้สึกผ่อนคลายบนพื้นพรม ซึ่งการเลือกขนาดของพรมปูพื้นควรใช้พรมวางไว้ด้านข้างของเตียงนอน หรืออาจจะใช้พรมผืนใหญ่ผืนเดียวปูลอดใต้เตียงนอน โดยเว้นช่วงหัวเตียงให้พรมเสมอกับปลายเตียงหรือขอบพรมเลยปลายเตียงไปเล็กน้อย

การดูแลทำความสะอาด
การปูพรมอาจจะให้สัมผัสที่ดีและอ่อนนุ่ม แต่ต้องแลกมาด้วยการทำความสะอาดพื้นพรม ซึ่งพรมแต่ละชนิดมีวิธีการทำความสะอาดและความพิถีพิถันในการดูแลรักษาแตกต่างกัน ซึ่งเราควรศึกษาวิธีการดูแลทำความสะอาดเบื้องต้น เพื่อชั่งใจคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะพรมปูพื้นอาจจะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อโรคที่ส่งผลต่อสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวได้ ซึ่งหลายร้านที่ให้บริการปูพรมมักจะมีการรับประกันพรม และบริการหลังการขายเพิ่มเติม โดยเราสามารถสอบถามบริการเหล่านี้ได้จากผู้ให้บริการปูพรม

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ