‘จีน’ ประกาศศักดา ขึ้นแท่นมหาอำนาจรถไฟโลก

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 30/2560 เรื่อง มาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง บ้างก็ว่าเอื้อประโยชน์ให้พี่จีนมากเกินไป แต่อีกฝ่ายก็มองว่าเป็นการลงทุนที่ต้องแข่งกับเวลา ซึ่งจนแล้วจนรอดก็ไม่รู้ว่าแรงกระเพื่อมนี้จะทำให้จีนได้เข้ามาพัฒนารถไฟความเร็วสูงสายแรกของไทยได้อย่างตั้งใจหรือไม่

ว่ากันตามจริงแล้วพี่จีนในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นมหาอำนาจทางด้านระบบรางที่เข้าลงทุนในหลายๆ ประเทศ ทั้งการลงทุนด้านเทคโนโลยี และลงทุนด้วยเม็ดเงิน โดยมีเป้าหมายใหญ่ที่จะส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียกลาง แอฟริกา และยุโรป ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

รุกอาเซียน ตามแผน “1 แถบ 1 เส้นทาง”
ปัจจุบันจีนเริ่มเดินหน้าก่อสร้างรถไฟในลาว เส้นทางจากด่านชายแดน (เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา) ซึ่งเชื่อมต่อมาจากเมืองคุนหมิงของจีน ไปยังนครเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 417 กิโลเมตร ใช้เงินลงทุนประมาณ 6,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 238,000 ล้านบาท) เป็นเงินกู้จากรัฐบาลจีน ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 17,500 ล้านบาท) โดยคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 5 ปี

ขณะเดียวกันยังมีแผนสร้างทางรถไฟจากคุนหมิงไปยังท่าเรือน้ำลึกจ้าวผิ่วหรือเจียวเพียว ในรัฐยะไข่ ของเมียนมา ใช้เงินลงทุนกว่า 600,000 ล้านบาท ซึ่งทางการจีนจะให้เมียนมากู้เต็มมูลค่า โดยเส้นทางรถไฟจีน-เมียนมา ส่วนที่อยู่ภายในจีน เริ่มจากเมืองกว่างทงถึงเมืองต้าหลี่ปัจจุบันเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะให้การบริการได้ในปี 2561 มีระยะทางประมาณ 175 กิโลเมตร

นอกจากนี้จีนยังได้ร่วมมือกับอินโดนีเซียในการสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงจาการ์ตา-บันดุง ระยะทาง 142 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นโครงการแรกของอินโดนีเซียและโครงการแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถวิ่งได้เร็วถึง 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใช้เงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

ในอนาคตเมื่อเส้นทางรถไฟในภูมิภาคเสร็จสมบูรณ์ ตามแผน “1 แถบ 1 เส้นทาง” จะทำให้ระบบการขนส่งสาธารณะระบบรางมีขนาดใหญ่ขึ้น หากนับเฉพาะ 5 ประเทศ ได้แก่ จีน ลาว ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะมีระยะทางกว่า 3,000 กิโลเมตร คาดว่าจะมีผู้โดยสารถึง 9.65 ล้านคน/ปี และจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.98 ล้านคน/ปี และ 16.5 ล้านคน/ปี ตามลำดับ ขณะที่การขนส่งสินค้าโดยรถไฟระหว่างจีนกับอีก 4 ประเทศ จากที่มีปริมาณการขนส่งสินค้า 2.59 ล้านตัน/ปี จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.62 ล้านตัน/ปี และ 5.46 ล้านตัน/ปี ตามลำดับ

รุกแอฟริกา ก่อสร้างพร้อมปล่อยกู้

ย้อนไปเมื่อปี 2557 จีนได้ร่วมมือกับรัฐบาลไนจีเรียในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความยาว 1,402 กิโลเมตร ตามแนวชายฝั่งนครหลวงเลกอสจนถึงเมืองแคลาบาร์ ใช้เงินลงทุนกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนเมื่อปีที่ผ่านมาจีนเพิ่งร่วมเปิดตัวรางรถไฟเชื่อมต่อการคมนาคมระหว่าง 2 ประเทศ จากเมืองแอดดิส อาบาบา ของเอธิโอเปีย กับเมืองท่าเรือทะเลแดง ของจิบูตี ระยะทาง 750 กิโลเมตร โดยมีธนาคารของจีนให้เงินกู้ประมาณ 70% ของงบประมาณการก่อสร้าง 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยให้เอธิโอเปียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในแอฟริกา และจะช่วยขจัดความยากจน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปีนี้
ล่าสุด จีนร่วมกับเคนยา เปิดเส้นทางรถไฟเชื่อมระหว่างกรุงไนโรบีกับเมืองบอมบาซา ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่อันดับ 2 และเป็นเมืองท่าสำคัญริมชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ระยะทาง 472 กิโลเมตร ใช้งบก่อสร้างประมาณ 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดย 90% เป็นการปล่อยกู้จากธนาคารจีน ซึ่งการร่วมมือก่อสร้างทางรถไฟในเคนยาจะเป็นการเบิกทางการเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ ในแอฟริกา อาทิ ยูกันดา รวันดา บุรุนดี เซาท์ซูดาน และคองโก ภายใต้แผน East Africa Railway network ต่อไป

รุกยุโรป ตุรกี สายแรกในต่างประเทศ

จีนเข้ามามีบทบาทในการสร้างรถไฟความเร็วสูงของอังกฤษ โครงการ HS2 เชื่อมลอนดอนกับเมืองใหญ่ต่างๆ ของอังกฤษ อาทิ เบอร์มิงแฮม ลีดส์ และแมนเชสเตอร์ โดยเฟสแรกจะเป็นสายลอนดอน-เบอร์มิงแฮม มูลค่า 56,000 ล้านปอนด์ คาดว่าจะเปิดใช้บริการได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยโครงการนี้เปิดโอกาสให้เอกชนจีนเข้ามาประมูลเพื่อรับเหมาก่อสร้าง รวมทั้งมีโอกาสจะเข้ามาประมูลเพื่อเดินรถ หรือลงทุนในการก่อสร้างสถานีและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

อีกหนึ่งประเทศในทวีปยุโรปคือตุรกี ที่จีนได้ลงนามก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางอังการา-อิสตันบูล ระยะทาง 533 กิโลเมตร งบประมาณ 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินกู้จากจีนประมาณ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเปิดใช้งานแล้วเมื่อปี 2557 นับเป็นรถไฟความเร็วสูงสายแรกของจีนที่สร้างเสร็จสมบูรณ์ในต่างประเทศ

นอกจากนี้จีนยังมีข้อตกลงความร่วมมือกับประเทศต่างๆ อีกหลายประเทศในการพัฒนารถไฟความเร็วสูง อาทิ เวียดนาม อินเดีย อิหร่าน บราซิล อเมริกา เวเนซุเอล่า ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีจากจีนเป็นที่เชื่อมั่นจากนานาประเทศทั่วโลก

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน