กำลังเป็นที่พูดถึงในช่วงเวลานี้อยู่ไม่น้อยสำหรับปรมาจารย์ระดับเซียน กูรูรุ่นเก๋า อย่างเจ้าสัว “อนันต์ อัศวโภคิน”
น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของประเทศไทยท่านนี้ ซึ่งเป็นอดีตประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ที่โลดแล่นในวงการอสังหาริมทรัพย์มาเกือบทั้งชีวิต เคยได้รับรางวัล Best CEO of The Year และเคยได้ตำแหน่งเศรษฐีหุ้นที่มีมูลค่าสูงที่สุดในไทยอีกหลายปีซ้อนด้วย
แต่ล่าสุด นิตยสารฟอร์บส์ ได้จัดอันดับมหาเศรษฐีของประเทศไทย ประจำปี 2559 พบว่า เจ้าสัวอนันต์ รั้งตำแหน่งเศรษฐีในลำดับที่ 26 มีทรัพย์สินรวม 925 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 33,300 ล้านบาท
สนทนากับกูรูในเดือนมิถุนายนนี้ ทีม DDproperty.com ได้ไปพูดคุยและฟังการเสวนาในหัวข้อ “การปรับตัวของธุรกิจอสังหาฯ และอนาคตอสังหาฯ ไทย – อสังหาฯโลก” โดยเจ้าสัวอนันต์ อัศวโภคินได้เล่าประสบการณ์การทำอสังหาฯในอดีต และอสังหาฯรุ่นใหม่ ต้องปรับตัวอย่างไรท่ามกลางเศรษฐกิจที่ผันผวน ณ เวลานี้
“ถามว่าอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ จะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนหรือไม่? ตอบยากนะ ถามว่าทำไมถึงตอบยาก เพราะหลายบริษัทก็มีกำไร มีผลประกอบการที่ดี อย่างแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ในปีนี้จะเป็นปีที่มีกำไรมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา เงินฝากยังล้นธนาคาร แต่ขณะเดียวกัน มีบางบริษัทตัวเลขอาจจะปั้นออกมาไม่สวยเท่านั้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว มองว่าชั่วโมงนี้ คนที่ทำอสังหาฯต้องปรับตัวได้ ปรับตัวให้เร็ว ให้เก่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”
“ผมขอแชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ฟังแบบนี้ ในปี 2535 ซึ่งเป็นปีที่ทางบริษัทได้ไปรุกลงทุนในต่างประเทศ เริ่มจากอินโดนีเซียที่เราใช้งบในการลงทุนครั้งนั้นราว 2 พันล้านบาท และที่ฟิลิปปินส์อีก 2 พันล้านบาท ในขณะที่ ตอนนั้นก็มีปัญหาค่าเงินบาท ซึ่งก็ได้ผู้ร่วมหุ้นบริหาร แต่ผลปรากฎว่า เราเจ๊งและขาดทุนหมด”
“4 ปีต่อมา ก็ได้เข้าลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ด้วยการซื้อตึกเก่ามาพัฒนาใหม่ก็ถือว่าโชคดีที่ไปลงทุนในช่วงที่มีการจ้างงานมากขึ้น ซึ่งนักพัฒนาที่นั่นไม่ได้เก่งไปกว่านักพัฒนาของไทยเลย ผมถึงยืนยันว่านักลงทุนคนไทย ไปลงทุนในต่างประเทศได้ทุกคน”
ทว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ ควรลงทุนในประเทศที่กฎหมายอสังหาริมทรัพย์เอื้ออำนวยและมีกฎหมายชัดเจน เช่น ในสหรัฐและอังกฤษ และควรลงทุนในรูปแบบการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกและการปรับเพิ่มค่าเช่าถึงจะได้ผลตอบแทนดี ทั้งนี้ มองว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายย่อยๆสามารถไปลงทุนในต่างประเทศได้ มั่นใจว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยสามารถแข่งขันกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศนั้นๆได้
“ปัญหาและอุปสรรคของธุรกิจอสังหาฯในปีนี้ ผมมองว่ายังคงเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่วนเวียนกลับมาที่เดิม วนไปวนมาจากปัญหาเดิม ๆ อย่าง การปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน โดยเฉพาะรายย่อย”
ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา รวมถึงปัญหาการยื่นรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่ล่าช้า ในแง่ของราคาวัสดุก่อสร้างยังไม่ได้ปรับขึ้นมากนักยังเป็นจังหวะและโอกาสที่ดีในการลงทุนอสังหาฯ ซึ่งผู้ประกอบการไม่ใช่แค่เก่งอย่างเดียว แต่ต้องปรับตัวให้เก่งเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบันด้วย
แม้ว่าปัจจุบัน เจ้าสัวอนันต์จะถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ออกหมายเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินที่ได้มาจากการยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัดก็ตาม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และรวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ยังคงต่อเดินหน้าต่อไป
และอีกหนึ่งบทบาทที่จะไม่พูดไม่ได้เลย คือ เจ้าสัวอนันต์ เป็นผู้ก่อตั้งหลักสูตรเดอะ เน็กซ์ เรียล (The NEXT Real) หรือหลักสูตรสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และในขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดหลักสูตรรุ่นที่ 4 แล้ว
โดยหลักสูตร The NEXT Real นั้นจะเน้นการถ่ายทอดทักษะประสบการณ์จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบความสำเร็จ ให้ความรู้ข่าวสารที่จะทำให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ติดตามและมองเห็นแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ดี ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งจะส่งผลดีต่อวงการอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจประเทศ
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
เรื่องข้างต้นนี้เขียนโดย สิณีวรรณ เทศปัญ กองบรรณาธิการ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sineewan@ddproperty.com