นโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP ถือเป็นไม้ตายสำคัญสำหรับขับเคลื่อนนโยบายในรัฐบาล คสช. โดยกฎหมายฉบับนี้ให้อำนาจ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง” เป็นผู้รักษากฎหมาย มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยมีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานธุรการที่ดูแลเรื่องการจัดทำร่างแผนยุทธศาสตร์การร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน ร่างประกาศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ PPP แถมพ่วงด้วยมาตรการพิเศษอย่างการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ PPP Fast track ยิ่งทำให้ย่นระยะเวลาการทำงานที่หลาย ๆ คน ครหาว่าระบบราชการชักช้าให้รวดเร็วทันใจ โดยใช้เวลาตั้งแต่เริ่มทำการศึกษาโครงการจนถึงการประกาศเชิญชวนให้เอกชนร่วมลงทุนจากเวลาปกติประมาณ 25 เดือน ให้เหลือเพียง 9 เดือนเท่านั้น
PPP Fast track สำเร็จ 5 โครงการ 5.5 แสนล้านบาท
ขณะนี้โครงการลงทุนที่ใช้กระบวนการ PPP Fast track ประสบความสำเร็จไปแล้ว 5 โครงการ รวมมูลค่า 5.5 แสนล้านบาท โดยเป็นโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ล่าสุด คือ โครงการรถไฟฟ้า 3 สาย มูลค่าโครงการ 190,000 ล้านบาท ที่สามารถผลักดันได้สำเร็จภายใน 9 เดือน ได้แก่
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ (โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย) มูลค่าโครงการ 83,877 ล้านบาท
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี (โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู) มูลค่าโครงการ 56,691 ล้านบาท
3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง (โครงการรถไฟฟ้าสายเหลือง) มูลค่าโครงการ 54,644 ล้านบาท
นับว่าสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ที่กำหนดให้มีการลงทุนจากความร่วมมือภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานเฉลี่ยปีละ 47,000 ล้านบาท
PPP Fast track โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ภาพ via ananda.co.th
รองนายกฯ มอบนโยบาย PPP รอบด้าน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายโครงการลงทุนในลักษณะ PPP ที่จะดำเนินการนับจากนี้ไปจนถึงปลายปี 2560 รวมถึงโครงการที่จะดำเนินการในปี 2561 ดังนี้
1. ต้องสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนในกรุงเทพฯ กับการสร้างความเจริญภูมิภาค ซึ่งปีนี้ก็จะมีโครงการลงทุนที่ จ.ภูเก็ต และ จ.เชียงใหม่
2. อยากให้จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนแต่ละโครงการ อย่างเช่นโครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ถือว่าเร่งด่วนเป็นลำดับต้น ๆ ซึ่งให้ทาง สคร. ไปเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
3. อยากให้เพิ่มโครงการด้านอื่น ๆ นอกจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเดียว เช่น การสร้างสนามบิน พลังงาน บ้าน ที่อยู่อาศัย เป็นต้น
เตรียม 6 โครงการเข้าสู่ PPP Fast track 6.13 แสนล้านบาท
กระทรวงคมนาคมได้เสนอเพิ่มเติมอีก 6 โครงการ มูลค่า 6.13 แสนล้านบาท ได้แก่
1. โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก
2. โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตะวันตก-ตะวันออก
3. โครงการรถไฟฟ้า จ.ภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต-5 แยกฉลอง
4. โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน จ.เชียงใหม่
5. ทางหลวงพิเศษ นครปฐม-ชะอำ
6. โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง
PPP Fast track โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง ภาพ via logisticstime.net
ปรับปรุง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ให้กระชับ โปร่งใส เปิดเผย และตรวจสอบได้
สคร. เตรียมนำประสบการณ์ กลไกสำคัญของมาตรการ PPP Fast Track มาใช้ในการปรับปรุงพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 โดยยึดหลักสำคัญในการส่งเสริมโครงการร่วมลงทุนให้มากขึ้น มีขั้นตอนกระชับชัดเจน คงความโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลหลังได้ลงนามสัญญาและตรวจสอบได้ รวมทั้งยึดหลักวินัยการเงินการคลังเช่นเดิม ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานต่าง ๆ คาดว่าจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ. ร่วมลงทุนฯฉบับปรับปรุงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ เพื่อให้การสร้างโครงการขนาดใหญ่ดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าการเมืองไทยในการขับเคลื่อนนโยบายแบบรวดเร็วทันใจ ทำให้พวกเราได้เห็นโครงการใหม่ ๆ หลาย ๆ โครงการเดินหน้า โดยเฉพาะโครงการทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน และเชื่อว่าจะได้เห็นอีกหลายโครงการในอนาคต
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
