ปัจจุบันถึงแม้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะซบเซาลงไปบ้างจากที่ผ่านๆ มา แต่ที่อยู่อาศัยระดับ Luxury ก็ยังสามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงได้ ซึ่งในอดีตโครงการบ้านระดับบนที่มีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านขึ้นไป อาจจะมีการเน้นพื้นที่ของบ้านให้มีขนาดกว้าง แต่ดีไซน์ตัวบ้านก็ยังคงเป็นแบบร่วมสมัยหรือแบบธรรมดาๆ อยู่ โดยหากประเมินราคาที่ประมาณไม่เกิน 30 ล้านจากในอดีต อาจจะได้ที่ดินของบ้าน 300 ตารางวาขึ้นไป และแบบบ้านยังคงเป็นแบบธรรมดาไม่เน้นดีไซน์มาก
ในปัจจุบันด้วยวันเวลาที่เปลี่ยนไปอสังหาริมทรัพย์มีราคาแพงขึ้น จากที่ดินที่ค่อยๆ หดหายไป โดยเฉพาะที่ดินในเมือง บ้านเดี่ยวส่วนใหญ่ขยับออกไปอยู่ตรงขอบเมืองแต่ก็ยังมีหลายโครงการที่พัฒนาบ้านเดี่ยวหรูที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่เมืองได้หันมาเน้นดีไซน์บ้านให้สวย ให้มีความ Modern ขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้มีกำลังซื้อระดับบน ซึ่งถึงแม้ในปัจจุบันพื้นที่ดินที่ได้รับสำหรับบ้านหรูอาจจะไม่มากเท่ากับเมื่อก่อนหากนำมาเปรียบเทียบกับโครงการบ้านหรูในอดีต แต่สิ่งที่ได้รับจากโครงการบ้านหรูใหม่ๆ ก็คือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่มากขึ้นจากเทคโนโลยีการประกอบบ้านก็ดี หรือ การดีไซน์ต่างๆ ก็ดี
ดังนั้นวันนี้ DDproperty จึงขอพาทุกคนมาชมโครงการบ้านหรูในปี 2017 ลองมาดูกันว่า ณ ปัจจุบัน วันเวลาที่เปลี่ยนไปกับจำนวนเงินประมาณ 30 ล้านบาทในขณะนี้จะสามารถซื้อโครงการบ้านหรูแถวไหนได้ รูปแบบโครงการจะเป็นอย่างไร ดีไซน์บ้านจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน ตามมาดูกัน!
เดอะ เจนทริ สุขุมวิท (The Gentry Sukhumvit) สามารถคลิ๊กที่นี่เพื่อติดตามชมรีวิวโครงการฉบับเต็มได้
เดอะ เจนทริ สุขุมวิท (The Gentry Sukhumvit) โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ล่าสุดของ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในดีเวลลอปเปอร์ชื่อดังที่เน้นการทำรายได้จากยอดขายของบ้านเดี่ยว จากการคัดสรรทำเลและพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาบ้านในเมือง โดย เดอะ เจนทริ สุขุมวิท (The Gentry Sukhumvit)จะตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101 ไม่ไกลจาก BTS ปุณณวิถี ตัวบ้านเน้นดีไซน์ที่ทันสมัย ใช้แรงบรรดารใจจากแนวคิดของบ้านในเมือง Brooklyn ในรัฐ Newyork มาเป็นตัวชูโรง และมอบความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตบ้านเพียง 57 หลังบนพื้นที่กว่า 16 ไร่ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 25 ล้านบาท
เริ่มจากประตูทางเข้า – ออก โครงการ SC Asset เลือกใช้วัสดุหลักเป็นโครงเหล็กและอิฐมอญออกแบบสไตล์ Industrial ให้ลับกับดีไซน์ของตัวบ้านในโครงการ ประตูใช้โครงเหล็กแบบเลื่อน 3 ตอน เป็นระบบ Easy Pass ซึ่งมีความปลอดภัยและสะดวกกว่าประตูกั้นไม้กระดกตามที่โครงการทั่วไปใช้ ด้านในประกอบไปด้วย CCTV และกล้อง Video Call ที่สามารถส่งสัญญาณภาพผู้มาติดต่อไปยังตัวบ้านแต่ละยูนิตได้ พร้อมป้อมยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.
ยูนิตเฉลี่ยต่อหนึ่งบล็อคจะมีไม่เกิน 10 ยูนิต ซึ่งมีความหนาแน่นน้อยและมีความเป็นส่วนตัวมาก ถนนหน้ายูนิตกว้าง 9 ม. ซึ่งกว้างกว่าโครงการทั่วไป สามารถจอดรถหน้าบ้านได้ โดยที่รถคันอื่นๆ ยังสวนเข้า – ออก ซอยกันได้อย่างสบายๆ ด้านหน้าโครงการมีคลับเฮ้าส์ตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้า – ออก ของโครงการ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ ห้องสมุดที่ชั้นล่าง และมีสำนักงานและฟิสเนตตั้งอยู่ที่ชั้น 2
ส่วนในเรื่องของตัวบ้านเองหากพูดถึงมูลค่ายูนิตเริ่มต้นที่ราคา 25 ล้าน หากซื้อที่ดินเปล่าบริเวณนี้จะได้ที่ดินประมาณ 150-200 ตารางวา ในราคา 18 – 20 ล้านบาท โดยยังเหลือเงินให้ปลูกบ้านกว่า 7-8 ล้านบาท แต่ที่แน่นอนเลยคงไม่ได้วัสดุระดับนำเข้า และพื้นที่ใช้สอยทรง Tropical House ที่ 3 ชั้น เหมือนที่โครงการออกแบบมาอย่างแน่น่อน และเรื่องการออกแบบนี้ก็คือจุดเด่นหลักๆ ของโครงการที่ SC Asset ทำออกมา นอกจากความเป็นส่วนตัวบนพื้นที่ใช้สอยกว่า 3 ชั้นแล้ว การออกแบบดีไซน์ตัวบ้านที่มีแนวคิดมาจากบ้านสไตล์ Brooklyn ในรัฐนิวยอร์คก็ถือเป็นไอเดียแปลกใหม่ที่ยังไม่ค่อยพบเห็นบ้านเดี่ยวในประเทศไทยที่ออกแบบบ้านสไตล์นี้ โดยบ้านใน Brooklyn ส่วนใหญ่ทจะมีคอนเซ็ปดีไซน์แบบ Industrial Loft เนื่องจากพื้นที่ดั้งเดิมเป็นย่านโรงงานเก่าที่มีพื้นที่สูงโปร่ง และถูกดัดแปลงให้กลายเป็นที่อยู่อาศัย จนทำให้ย่าน Brooklyn กลายเป็นย่านที่มีความหรูหราขึ้นมาทันตา ด้วยจุดนี้เอง SC Asset ก็นำจุดเด่นตรงนี้มาปรับใช้กับโครงการได้อย่างลงตัว ทำให้ได้ตัวบ้านออกมาเป็นบ้านแนวใหม่ที่มีความคลาสสิคผสมกับความโมเดิร์นของวัสดุตกแต่งตัวบ้านแนวสูง 3 ชั้น
ถึงแม้โครงการจะออกแบบบ้านให้เป็น Tropical House ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยแนวสูงมากกว่าพื้นที่ใช้สอยที่ดินด้านกว้างของบ้านก็ตาม แต่ทั้งนี้ก็ยังมีพื้นที่ให้เดินรอบบ้าน โดยถ้าเป็นบ้านแฝดจะเป็น Space เปล่าๆ ด้านเดียว ขนาดความกว้างไม่น่าจะเกิน 1.5 – 2 ม. และไม่สามารถเดินรอบบ้านได้แน่นอน ส่วนถ้าขยับมาเป็นบ้านเดี่ยวรูปแบบ Brooklyn บริเวณรอบๆ บ้านจะมีขนาดกว้างขึ้น มี Space ครอบคลุม สามารถวิ่งรอบบ้านได้เลย ส่วนถ้าเป็นบ้านเดี่ยวไซส์ใหญ่สุดอย่าง Manhattan โครงการจะเน้นพื้นที่ใช้สอยของบ้านเต็มี่ดินบ้าน พื้นที่รอบบ้านจะห่างจากรั้วด้านนอกไม่เกิน 1 ม. แต่ด้านข้างบ้านด้านใดด้านหนึ่งจะมีพื้นที่ห่างจากรั้วประมาณ 3-4 ม. เลยทีเดียว ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานสำหรับคนชอบจัดสวนหย่อม พื้นที่พักผ่อนด้านนอกบ้าน หรือกระทั่งสามารถใช้พื้นที่ไปทำสระว่ายน้ำได้เลย
ส่วนเมื่อเข้ามาด้านใน Layout ผนังของบ้านกลับถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนตามสไตล์บ้านเดี่ยว โดยมีไฮไลท์ของบ้านบริเวณห้องนั่งเล่นที่มีความสูงของเพดานที่ประมาณ 7 ม. ซึ่งถือว่าสูงมาก และสูงกว่าโครงการทั่วไปที่ทำเพดานแบบ Double Volume โดยหากเป็นความสูงเพดานของตัวบ้านของห้องอื่นๆ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 ม.
นอกจากนั้นจะเห็นว่าบ้านทั้งทุกแบบในโครงการจะออกแบบให้มีบานกระจกที่มีขนาดใหญ่ตามชั้นแต่ละชั้น ซึ่งแน่นอนนอกจากเน้นดีไซน์ และเรื่องของแสงธรรมชาติ แล้ว เรื่องความปลอดภัยที่เป็นชื่อเสียงของ SC Asset ก็ยังคงมาตรฐานในระดับสูง เพราะกระจกที่เลือกใช้เป็นกระจก Tempered ที่มีการติดฟิล์มไว้ทั้งแผง โดยปกติหากเปรียบเทียบกับ Tempered แบบธรรมดา หากชำรุดเสียหายหรือแตกขึ้นมา จะแตกออกเป็นเม็ดๆไร้แนวแหลมคมช่วยลดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนหากกระจกแตก แต่ถ้าเป็นแบบติดฟิล์ตามที่ SC Asset เลือกใช้กับโครงการนี้เมื่อเกิดการแตกร้าวจะติดอยู่เป็นแผ่นเดียวกันทั้งแผ่น ถ้าจะให้เห็นภาพก็ประมาณฟิล์กระจกไอโฟนแตกแต่ก็ยังเอามาแนบประชิดหูโดยที่ไม่มีรอยบาดได้ อีกทั้งยังมอบสัญญาณกันขโมย Magnetic & Shock Sensor, Video Door Phone และกล้อง CCTV 5 จุดด้านนอกและด้านในบ้าน พร้อมหน้าจอแสดงผล ซึ่งในเรื่องความปลิดภัยนี้เองก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ SC Asset ดึงเข้ามาใช้กับโครงการ เดอะ เจนทริ สุขุมวิท (The Gentry Sukhumvit)
อนันดาฯ (Ananda) อีกหนึ่งดีเวลลอปเปอร์ที่ส่งบ้านหรูระดับบนเข้ามาประกวดเมื่อต้นปี 2017 กับโครงการ อาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ (Artale Phatthanakarn – Thonglor) ที่เน้นชูศักยภาพทำเลบริเวณพัฒนาการ ที่มีทั้งระบบคมนาคม สามารถเชื่อมต่อหลายเส้นทางทั้งรามคำแหง ศรีนครินทร์ อ่อนนุช เพชรบุรี อีกทั้งยังอยู่ในรัศมีเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลืองในอนาคต พร้อมจุดเชื่อมต่อสู่ทองหล่อย่านหรูในระยะ 3.5 กม. เท่านั้น โดยตัวบ้านของโครงการ อาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ (Artale Phatthanakarn – Thonglor) ออกแบบให้เป็นลักษณะคฤหาสน์สไตล์ Penthouse พร้อมสวนส่วนตัวกลางบ้าน และพื้นที่คลับเฮาส์แบบจัดเต็มในขนาดเนื้อที่ 1 ไร่ กับราคาเริ่มต้นที่ 28 ล้านบาท สำหรับจำนวนยูนิตทั้งหมด 49 ยูนิตในโครงการ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการเป็นแบบ Double Gate พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และระบบการเข้า-ออก แบบ Access Card โดยทางเข้า – ออก โครงการจะมีที่กั้นแบบไม้กระดก และประตูเหล็กระบบออโต้ที่มีความสูงกว่า 2 เมตรขึ้นไป พร้อมป้อมยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และกล้องวงจรปิด
ภายในโครงการ ออกแบบให้มียูนิตทั้งหมดเพียง 49 หลังเท่านั้น ต่อหนึ่งบล็อคจะมียูนิตที่อยู่อาศัยประมาณ 4 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความเป็นส่วนตัวมากๆ ส่วนตัวถนนเมนหลักกว้าง 12 เมตร เมนรอง 9 เมตร
บริเวณบล็อคแรกๆ ของที่พักอาศัยจะมีพื้นที่สวนหย่อมให้นั่งพักผ่อน ในอนาคตเมื่อโครงการสร้างเสร็จพื้นที่ในส่วนนี้น่าจะมีอยู่ในทุกบล็อคของพื้นที่อยู่อาศัย
บ้านเป็นสไตล์ Modern Elegant โดยมีจุดขายที่การออกแบบ โดยเจ้าของโปรเจกต์สร้างสรรค์บ้านในรูปแบบ Penthouse On-ground หรือเรียกได้ว่าออกแบบห้องนอนให้มีขนาดใหญ่ ล้อมรอบกระจก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเพนท์เฮาส์ และสามารถมองชมสวนส่วนตัวใจกลางบ้านได้ทุกห้อง เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้อยู่อาศัย Upgrader ระดับบน ทั้งนี้ยังเนรมิตชั้นดาดฟ้า ให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัว พร้อมชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ สามารถมองเห็นโครงการอาร์เด้น (Arden) เนื่องจากอยู่ติดกัน โดยภายในอาณาจักรอาร์เทลแห่งนี้
อีกหนึ่งจุดขายของโครงการก็คือพื้นที่คลับเฮาส์ส่วนกลางของโครงการโดยโครงการได้ดีไซน์แปลงที่ดินกลางโครงการขนาด 1 ไร่ ให้กลายเป็นคลับเฮาส์ ที่ถูกล้อมด้วยสวนหย่อม อันจำลองมาจากป่าสน ซึ่งมีลำธารเป็นตัวเชื่อมต่อ ทั้งนี้ความตั้งใจของผู้ออกแบบ นอกจากจะให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสการพักผ่อนอย่างแท้จริงแล้ว ยังต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ภายในคลับเฮาส์ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำ Lap Pool ขนาด 5 x 25 เมตร พร้อมอ่างจากุซซี่และสระเด็กลึก 50 ซม. โดยบริเวณนี้จะมี Sun Lounge ให้นั่งพักผ่อนริมสระ
เมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 ของคลับเฮาส์ จะพบพื้นที่พักผ่อน ที่ถูกตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศของสวนสนจำลองที่อยู่รอบคลับเฮาส์ ถัดไปจะเป็นห้องฟิตเนสที่หันออกไปเทควิวสระว่ายน้ำได้
แบบบ้าน Medio เป็นไซส์กลางของรูปแบบบ้านของโครงการ อาร์เทล อาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ (Artale Phatthanakarn Thonglor) ตัวบ้านจะเป็นสไตล์โมเดิร์น โดยมีการออกแบบระแนงบนพื้นที่ชั้น 2 ของบ้าน ถึงแม้ตัวบ้านจะตั้งอยู่บนที่ดินประมาณไม่เกิน 60 ตร.ว. แต่ด้วยการออกแบบดีไซน์ให้เป็นบ้านสมัยใหม่สูง 3 ชั้น จึงมีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเกือบ 400 ตร.ม. เลยทีเดียว
สิ่งที่เป็นให้ไฮไลท์ของตัวบ้านเดี่ยวนี้ก็คือพื้นที่บนชั้น 3 หรือดาดฟ้าของตัวบ้านที่เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถตกแต่งเป็นสวนหรือพื้นที่อเนกประสงค์ได้ โดยโครงการให้ไอเดียการตกแต่งฟลอร์ชั้นนี้เป็นสระว่ายน้ำได้ด้วย ถือว่าเป็นไอเดียที่แปลกใหม่มากสำหรับบ้าน 3 ชั้นที่ออกแบบโครงสร้างมาให้พัฒนาต่อยอดพื้นที่บนชั้น 3 นี้ต่อไปได้
ข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดในบทความนี้ถือเป้นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น โดยภายในโครงการไม่ว่าจะเป็น โครงการ เดอะ เจนทริ สุขุมวิท (The Gentry Sukhumvit) หรือ โครงการ อาร์เทล พัฒนาการ – ทองหล่อ (Artale Phatthanakarn – Thonglor) ยังมีไฮไลท์เด่นที่มีความหรูหราน่าประทับใจอยู่อีกมาก หากใครที่กำลังสนใจสามารถคลิ๊กที่ชื่อโครงการเพื่อเข้าไปอ่านรีวิวฉบับเต็มได้รับรองว่าใครที่อ่านรีวิวของ DDproperty จะได้รับความเป็นกลาง และไม่พบเซอร์ไพรส์ที่เป็นปัญหาของบ้านเมื่อเข้าไปอยู่จริงอย่างแน่นอน
อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้าน คอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน
