ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มูลค่าของทรัพย์สินต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใหม่ อาทิ บ้านจัดสรร จำเป็นต้องตัดสินใจอย่างถี่ถ้วนจากราคาของอสังหาริมทรัพย์ของที่อยู่อาศัยแนวราบที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหตุนี้จึงมีอีกหลายคนที่เริ่มหันมามองหาที่ดินเพื่อที่จะปลูกบ้านเอง ซึ่งการปลูกบ้านเองนั้นจะมีราคาถูกกว่าโครงการบ้านจัดสรรหลายเท่าตัว โดยหนึ่งในแบบบ้านที่มีราคาถูก แข็งแรง และสามารถสร้างในประเทศไทยได้ก็คือ บ้านดิน ถึงแม้ปัจจุบันบ้านดินจะไม่ได้เป็นที่ฮอตฮิตมากนัก แต่บ้านดินก็ถือเป็นหนึ่งแบบบ้านที่สามารถสร้างได้ด้วยงบประมาณที่ถูกมาก และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ที่มีงบประมาณที่จำกัด
สำหรับใครที่มีงบประมาณน้อยแต่ต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ บ้านดินถือเป็นแบบบ้านที่เรียกได้ว่ามีค่าปลูกสร้างถูกที่สุดในเวลานี้ก็ได้ แต่อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าบ้านดินไม่ได้เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องรู้เกี่ยวกับบ้านดินก็คือทำความรู้จักกับบ้านดินกันก่อน ว่าแท้จริงแล้วด้วยราคาที่ไม่แพงมากนั้น บ้านดินมีความแข็งแรงแค่ไหน น่าอยู่หรือเปล่า คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่
บ้านดินเป็นอย่างไร?
บ้านดินคือบ้านที่นำทรัพยากรรอบตัวเรามาเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นที่อยู่อาศัย เน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ อาทิ ดิน ไผ่ ไม้ และดินเหนียว เพื่อสร้างเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยไฮไลต์หลัก ๆ ของบ้านดินที่น่าสนใจในประเทศเมืองร้อน และมีอากาศแปรปรวนตลอดเวลาก็คือสามารถป้องกันไฟและทนความร้อนได้ดี
เนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่ในการสร้างบ้านจะเป็นดินเหนียวที่มีความหนาแน่น แถมยังเป็นฉนวนที่ช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นตลอดเวลา และยังรักษาอุณหภูมิความเย็นภายในบ้านให้คงที่ในหน้าหนาวได้ เรียกว่าใครที่อยู่ใต้ร่มหลังคาบ้านดินก็ถือว่ามีมีฮีตเตอร์ (Heater) ปรับอุณหภูมิให้บ้านภายในตัวเลย ด้วยจากข้อดีของดินเหนียวในส่วนนี้ที่เห็นได้ชัดนอกจากความปลอดภัยจากภัยพิบัติแล้วก็คือเรื่องของการประหยัดพลังงานนั่นเอง
บ้านดินมีโครงสร้างแบบไหน?
หากนำบ้านดินมาเปรียบเทียบกับบ้านปูนที่ราคาประมาณ 100,000 บาท งบประมาณในการก่อสร้างบ้านดินจะอยู่ที่ราว ๆ 30,000 บาทเท่านั้นสำหรับสเปกบ้านแบบเดียวกัน ซึ่งในเรื่องของความแข็งแรงนั้นก็ไม่ได้ต่างจากบ้านไม้หรือบ้านปูน เพราะโครงสร้างบ้านดินเป็นระบบที่ใช้ผนังรับแรงหรือใช้ตัวดินเหนียวเป็นหลักในการรับแรง ซึ่งจะเห็นได้ว่าข้อแตกต่างของโครงสร้างระหว่างบ้านแบบอื่น ๆ ก็คือบ้านดินไม่ได้มีระบบเสาในการรับแรง
ดังนั้นบ้านดินจะแข็งแรงได้ หรือ อาจจะแข็งแรงกว่าบ้านไม้ บ้านปูน ก็คือคุณสมบัติของดินที่เป็นองค์ประกอบหลักที่ใช้ในการประกอบบ้าน โดยดินที่ดีที่สุดที่นำมาใช้ประกอบบ้านให้แข็งแรงได้มาตรฐานก็คือดินร่วนปนทราย ส่วนใหญ่จังหวัดที่หาดินชนิดนี้ได้จะอยู่ภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ และขอนแก่น ซึ่งในภาคอื่น ๆ ของไทยก็สามารถหาได้เช่นเดียวกันแต่อาจไม่มากนัก
บ้านดินกับขั้นตอนในการสร้างเบื้องต้น
นอกจากนี้ใครที่คิดว่าด้วยงบประมาณที่ถูกบ้านดินจะมีอายุการใช้งานที่ไม่ยืนยาวก็ขอให้คิดใหม่เพราะบ้านดินส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ และตามย่านต่าง ๆ ที่เป็นหมูบ้านเก่าแก่ก็มีอายุของบ้านดินถึง 1,000 ปีเลยทีเดียว แต่สำหรับในไทยก็ยังคงมีบ้านดินที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 หลงเหลืออยู่ โดยมีอายุเฉลี่ยถึง 100-200 ปี ซึ่งทั้งนี้เองก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและการสร้างบ้านดินที่ถูกต้อง
โดยขั้นตอนการสร้างบ้านดินจะแตกต่างจากการก่อสร้างบ้านทั่วไป ดังนั้นเพื่อให้การก่อสร้างราบรื่นแล้วทำให้บ้านดินออกมาเป็นบ้านดินที่แข็งแรงก็ต้องมีขั้นตอนการก่อสร้างที่ถูกต้อง ดังนี้
1. เตรียมพื้นที่ พื้นที่สำหรับทำบ้านดิน ควรเป็นพื้นที่ที่น้ำท่วมไม่ถึง หากเป็นพื้นที่ถมดินใหม่ควรถมทิ้งไว้ประมาณ 1 ปี หรือ ผ่านช่วงฤดูฝนสัก 1 ครั้ง
2. เตรียมดิน เริ่มจากการขุดดินให้ร่วน ผสมแกลบหรือฟาง ลงไปอัตราส่วน 1: 1 ย่ำดินให้เข้ากัน สังเกตว่าดินที่เหยียบจะไม่ติดเท้าขึ้นมาและเห็นเป็นรอยเท้าบนเนื้อดินถือว่าดินได้ที่แล้ว
3. น้ำดินใส่แม่พิมพ์ และตากแดด จากนั้นนำดินมาเทใส่แบบพิมพ์ ไม้ปาดหน้าให้เรียบและยกพิมพ์ขึ้น ดินจะไม่ติดพิมพ์ในกรณีที่แดดดี การตากก้อนอิฐดินใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน เมื่อตากได้ประมาณ 2-3 วัน ให้พลิกก้อนอิฐดินขึ้นตั้งทางด้านแนวนอน
4. คำนวณขนาพพื้นที่บ้าน คำนวณว่าบ้านหลังหนึ่งใช้ก้อนดินจำนวนเท่าไหร่ โดยใช้อัตราส่วน1 ตร.ม. ของผนังใช้ 35 ก้อน ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่บ้าน
5. ก่อกำแพงบ้าน ติดตั้งวงกบประตูหน้าต่าง การก่อกำแพงบ้านจะเร็ว หากก่อขึ้นสูง แต่การทำงานอาจจะช้าลงเพราะต้องส่งก้อนอิฐดินขึ้นสูง ช่วงนี้อาจติดตั้งวงกบประตูหน้าต่างได้ หรืออาจจะเว้นช่องเอาไว้ติดตั้งในช่วงฉาบ แรงงาน 3 คนสามารถก่ออิฐดินได้วันละ 300-500 ก้อน
6. ฉาบกำแพงบ้าน ควรฉาบกำแพงบ้าน ก่อนที่จะขึ้นโครงสร้างหลังคา เพราะหลังจากที่ฉาบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำให้กำแพงบ้านมีความแข็งแรงมากขึ้น และยังช่วยให้แดดส่องกำแพงบ้านได้เต็มที่จึงช่วยให้ดินที่ฉาบแห้งเร็วขึ้น
7. มุงหลังคาบ้าน การมุงหลังคาบ้าน ควรมุงหลังจากที่กำแพงบ้านแห้งสนิทดีแล้วจะช่วยให้การดำเนินการเร็วขึ้น หลังจากมุงหลังคาบ้านเสร็จสิ้น ดำเนินการทำโครงสร้างเพดานและติดตั้งเพดานให้เสร็จสิ้น
ส่วนที่เหลือก็เป็นการเก็บงานรายละเอียดต่าง ๆ เช่นการทาสี ตกแต่งภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้ราคาจะถูกจะแพงก็ขึ้นอยู่กับความหรูหรากว้างใหญ่ของตัวบ้าน แต่รับรองว่าถ้าเปรียบเทียบกันแล้วกับบ้านไม้ บ้านปูน บ้านดินถือเป็นแบบบ้านที่ถูกที่สุดในเวลานี้ ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องของราคาระยะเวลาการสร้างยังรวดเร็วอีกด้วย เรียกได้ว่าการสร้างบ้านดินสามารถลดได้ทั้งต้นทุนการผลิตลดได้ทั้งต้นทุนค่าแรง รวมไปถึงช่วยประหยัดค่าไฟ ในระยะยาวด้วย
ตัวอย่างแบบบ้านดินสวย ๆ
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
