เทรนด์มิกซ์ยูสไซส์เล็ก รับที่ดินจิ๋วติดรถไฟฟ้า

17 ต.ค. 2561

จับตาโครงการมิกซ์ยูส ท่วมอาเซียน สู่การแข่งขันแบบสร้างสรรค์

ในช่วงหลายปีมานี้ ผู้ประกอบการโครงการเชิงพาณิชย์หลายรายประกาศพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ใหม่ๆ ในรูปแบบ “มิกซ์ยูส” ที่ผสมผสานหลายอสังหาริมทรัพย์เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทล โรงแรม หรือคอนโดมิเนียม ซึ่งโครงการมิกซ์ยูสส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโครงการบนพื้นที่ขนาดใหญ่มากกว่า 10 ไร่ขึ้นไป เพื่อให้การจัดองค์ประกอบส่วนผสมของอสังหาริมทรัพย์มีความลงตัว

ทำไมต้อง “มิกซ์ยูส”

หากกล่าวเฉพาะการพัฒนาบนพื้นที่ขนาดใหญ่ การสร้างองค์ประกอบการที่มีความหลากหลายจะช่วยส่งเสริมกันและกันได้ดี ให้คนที่อยู่ในพื้นที่นี้ใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งในส่วนของอาคารสำนักงานก็มีบริษัทที่มาเช่า มีคนทำงาน ซึ่งถ้ามีอาคารสำนักงานอย่างเดียว จะขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตให้กับคนทำงาน แต่ถ้ามีพื้นที่รีเทลเข้ามาเสริมด้วย คนที่ทำงานในอาคารสำนักงาน ก็สามารถใช้ชีวิตอีกส่วนหนึ่งที่นอกเหนือจากการทำงานได้ บริษัทที่จะมาเช่า ก็จะประเมินแล้วว่า อาคารสำนักงานเหล่านี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ พร้อมรองรับความต้องการให้กับกลุ่มพนักงาน ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดให้คนอยากมาเช่า ในทางกลับกัน ผู้ที่ทำพื้นที่รีเทล ก็จะได้ลูกค้าที่แน่นอนจากทางอาคารสำนักงาน

บทความที่เกี่ยวข้อง

เทรนด์ใหม่ “มิกซ์ยูสขนาดเล็ก”

นอกจากการพัฒนาโครงการในแบบมิกซ์ยูสบนพื้นที่ขนาดใหญ่แล้ว ปัจจุบันพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มาก ราวๆ 5 ไร่บนทำเลใจกลางเมือง หากจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์ก็เริ่มเห็นการพัฒนาในรูปแบบมิกซ์ยูสด้วยเช่นกัน แต่อาจจะเป็น “มิกซ์ยูสขนาดเล็ก” มีส่วนผสมที่สเกลเล็กลงมา เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันหลักๆ เพราะที่ดินใจกลางเมืองมีน้อย ผู้ที่มีที่ดินที่มีศักยภาพ และไม่ได้อยากพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อขาย ก็อาจจะมองการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์แบบที่มีมากกว่าพื้นที่รีเทล

เนื่องจากพื้นที่จำกัด ถ้าพัฒนารีเทลอย่างเดียว อาจจะพัฒนาได้เฉพาะคอมมูนิตี้มอลล์เท่านั้น ซึ่งจากข้อมูลวิจัยของหลายหน่วยงาน พบว่า คอมมูนิตี้มอลล์หลายแห่งในกรุงเทพฯ ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเพราะพื้นที่ขนาดเล็ก จึงไม่สามารถจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ผู้ใช้บริการได้ครบ ทำให้ผู้พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ที่มีแผนจะทำคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่ๆ ต้องหาแม่เหล็กมาดึงคนให้เข้ามาเป็นจำนวนมากให้ได้

feat coworking telegraph

ในมุมผู้บริโภค การแข่งขันที่เกิดขึ้นในกลุ่มธุรกิจรีเทลทั้งแบบศูนย์การค้า หรือคอมมูนิตี้มอลล์ จะส่งผลบวกกับผู้บริโภคที่จะได้สิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนามิกซ์ยูสขนาดเล็ก ที่ผู้พัฒนาได้นำส่วนผสมใหม่ๆ เข้ามา เช่น พื้นที่โค-เวิร์คกิ้ง สเปซสำหรับคนทำงาน พื้นที่รีเทลที่มีบริการครบในพื้นที่จำกัด

ปัจจุบันจะเห็นโครงการลักษณะนี้เริ่มเกิดขึ้นอย่างเช่น โครงการซัมเมอร์ฮิลล์ (Summer Hill) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท บูทิค พระโขนง วัน จำกัด ในเครือบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มิกซ์ยูสแห่งใหม่ที่มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ โค-เวิร์คกิ้ง สเปซ และในอนาคตจะมีส่วนของอาคารสำนักงานด้วย ตั้งอยู่บริเวณ ซ.สุขุมวิท 46 ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง จากการจัดองค์ประกอบที่ลงตัว ทำให้โครงการซัมเมอร์ฮิล (Summer Hill) ได้รับรางวัล Special Recognition for Community Retail จากงาน PropertyGuru Thailand Property Awards 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2561

>>>รวมโครงการที่อยู่อาศัยบริเวณรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง

อย่างไรก็ตาม เมื่อโมเดลนี้ประสบความสำเร็จ ที่ดินใกล้รถไฟฟ้าก็มีทางเลือกในการพัฒนามากขึ้น ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคอนโดมิเนียมอย่างเดียว โรงแรมอย่างเดียว หรือคอมมูนิตี้มอลล์อย่างเดียว แต่ทุกอย่างสามารถผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนที่หลากหลายได้มากขึ้น คนที่ต้องการหาที่กิน ที่พักผ่อน แฮงเอาท์ดีๆ ก็มีทางเลือกมากขึ้นเช่นกัน

เพิ่มเติมความรู้ คู่มือซื้อ ขาย เช่าบ้าน-คอนโดฯ พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ และสามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

ส่องทำเลวิภาวดีรังสิต ถนนธุรกิจสายใหม่ใจกลางเมือง

เมื่อที่ดินที่มีศักยภาพมีจำกัด โดยเฉพาะในเขตเมือง ทำให้เกิดการขยับขย

อ่านต่อ9 ต.ค. 2561