ส่อง 3 จังหวัด ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาฯ กว่าแสนล้าน

26 ก.พ. 2561

ส่อง 3 จังหวัด ต่างชาติแห่ซื้ออสังหาฯ กว่าแสนล้าน

นอกจากประเทศไทยจะเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติทางด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่สนใจที่จะนำเงินมาลงทุนโดยเฉพาะทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตจากการพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทางด้านคมนาคม อย่างรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าความเร็วสูง และราคายังถือว่าถูกกว่าหลาย ๆ ประเทศในแถบเอเชียอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกง จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย หรือ AREA พบว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมามีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยถึง 113,280 ล้านบาท

กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ต่างชาติซื้อสูงสุดกว่า 8.3 หมื่นล้าน
ตลาดที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมีมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 576,396 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 113,280 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ถูกซื้อโดยชาวต่างชาติ ได้แก่ ญี่ปุ่น ยุโรป สแกนดิเนเวีย รัสเซีย และจีน

กรุงเทพฯ และปริมณฑล ถือเป็นพื้นที่สำคัญที่ชาวต่างชาติสนใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด จากมูลค่าการซื้อขายปี 2560 พบว่า ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีถึง 415,852 ล้านบาท ซึ่งมีส่วนแบ่งถึง 72% ของมูลค่าการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งประเทศ โดยมีชาวต่างชาติเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์มูลค่าถึง 83,170 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล หรือคิดเป็น 74% ของมูลค่าการซื้อขายของชาวต่างชาติทั่วประเทศ

สำหรับอันดับที่สองคือ พัทยา  มีมูลค่าการซื้อขายโดยชายต่างชาติ 6,524 ล้านบาท หรือประมาณ 30% ของมูลค่าการซื้อขายในเขตพัทยาซึ่งอยู่ที่ 21,746 ล้านบาท ทั้งนี้ แม้จะเป็นอันดับที่สองแต่ขนาดตลาดของพัทยาเล็กกว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑลกว่า 19 เท่า

ส่วนอันดับที่สามคือ ภูเก็ต ซึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้วเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์มากที่สุดเป็นอันดับสอง แต่ปี 2560 มีต่างชาติซื้อรวมทั้งหมด 5,448 ล้านบาท จากที่มีการซื้อขายทั้งหมด 18,161 ล้านบาท

ผลจากไม่มีการบังคับใช้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีจากชาวต่างชาติ

ผลจากไม่มีการบังคับใช้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีจากชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดระบบฐานข้อมูลการซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยชาวต่างชาติ ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนสำคัญ รวมถึงยังไม่มีการบังคับใช้การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีจากชาวต่างชาติถึง 5,764 ล้านบาท (คิดในอัตรา 1%)

นอกจากนี้ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่ทางภาครัฐเตรียมเปิดช่องให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในช่วงที่ยังไม่มีกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องดำเนินการอย่างรัดกุมเพื่อไม่ให้เสียค่าโง่ในอนาคต

ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายหรือให้เช่าหรือเช่าอสังหาฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจคือรายงานดัชนีอสังหาฯ DDproperty Property Index  และ
รายงานภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ DDproperty Property Market Outlook 

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

รัฐเดินหน้าเก็บภาษีลาภลอย บ้านที่ดินใกล้รถไฟฟ้า-ทางด่วน

จากที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เดินหน้าจะจัดเก็บภาษีลาภลอย หร

อ่านต่อ22 ก.พ. 2561

“มิกซ์ยูส” เทรนด์อสังหาฯ มาแรงทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

มิกซ์ยูส (Mixed-use) เป็นโปรเจกต์อสังหาฯ รูปแบบใหม่ที่รวมโครงการที่อยู่อาศัย

อ่านต่อ23 ก.พ. 2561

ราคาบ้าน-คอนโดฯ ในกรุงเทพฯ กราฟ 3 ปีพุ่งทะลุ 100 %

รายงานดัชนีที่อยู่อาศัย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ พร็อพเพอร์ตี้ อินเด็กซ์ (DDpropert

อ่านต่อ26 ก.พ. 2561