"แจ๊ก หม่า" บุกไทย ได้หรือเสีย?

23 เม.ย. 2561

บันทึกความเข้าใจ (MOU) 4 ฉบับ ระหว่างรัฐบาลไทยกับ Alibaba เพื่อจัดทำ Thailand Tourism Platform เป็นรูปธรรมเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมกับการเดินทางมาประเทศไทย ของนายแจ๊ก หม่า ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group นั้นส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยเป็นไปอย่างไร และจะหนุนพื้นที่ EEC ที่ช่วยส่งเสริมตลาดอสังหาฯ ได้หรือไม่ 

เนื้อหาการลงนามระหว่างรัฐบาลไทยกับ Alibaba 
1. ความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุน และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ Digital ระหว่างสำนักงาน เพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรส.) และ Alibaba

2. ความร่วมมือด้านการลงทุน Smart Digital Hub ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ระหว่าง  สกรศ. กรมศุลกากร และบริษัท Cainiao Smart Logistics Network Hong Kong Limited

3. ความร่วมมือด้านการพัฒนา SME และบุคลากรด้าน Digital ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และวิทยาลัยธุรกิจ Alibaba หรือ Alibaba Business School (ABS)

4. ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวผ่านระบบ Digital และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืิองรองระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศ และ Alibaba

โดยอีกมุมหนึ่งที่ปรากฎชัดคือ ความคาดหวังผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยนับจากนี้ เพราะ Alibaba คือ ผู้นำ Platform การค้าออนไลน์ของโลก เมื่อไทยเกี่ยวมือด้วย ก็ย่อมได้อานิสงส์ในการขายสินค้าของไทยผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น 

ความคาดหวังนี้หลักๆ มากจากการประโคมข่าวจากรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนเอกชนบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์เต็มๆ ข้อมูลจากรัฐบาลระบุว่า แผนงานการลงทุนและความร่วมมือของบริษัท Alibaba กับหน่วยงานของไทยจะมี 8 ด้านดังนี้คือ

1. การส่งออกสินค้าเกษตร ที่สำคัญของไทยคือ ข้าวและผลไม้ โดยภายในปี 2561 Alibaba มีเป้าหมายช่วยส่งออกข้าวไทยจำนวน 45,000 ตัน และปี 2562 จำนวน 120,000 ตัน

2. การส่งออกสินค้าไทยสู่นานาชาติมีเป้าหมายส่งออกสินค้า 1 ตำบาล 1 ผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP ของไทย 10 รายต่อปี หรือขั้นต่ำจำนวน 50 รายการสินค้า

3. ด้านการท่องเที่ยว จะช่วยให้เกิดการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยเพิ่มจุด Alipay ในร้านค้าและโรงแรม 20 จุดท่องเที่ยวสำคัญ

4. การพัฒนาบุคลากร จะอบรม E-commerce ระดับเป็นอาจารย์ 100 ราย SME 30,000 คน และผู้ประกอบการ Start up จำนวน 10 ราย

5. การลงทุนสร้างศูนย์การจายสินค้าประมาณ 11,000 ล้านบาท ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ รวมทั้งพัฒนา Digital Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย โดยใช้เทคโนโลยี Big Data สามารถจัดส่งสินค้าภายในประเทศภายใน 24 ชั่วโมง และทั่วโลกภายใน 72 ชั่วโมง เปิดดำเนินการได้ในปี 2562

6. ด้านการส่งเสริม Digital จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Digital เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ SME ของไทย 

7. ตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ให้บริการด้านภาษี พิธีการศุลกากร และการแลกเปลี่ยนเงินออนไลน์ครบวงจร ให้บริการเต็มรูปแบบได้ในปี 2562

8. การเงิน Digital จะอำนวยความสะดวกการค้าออนไลน์ผ่านระบบ Alipay

เป็นการจับมือที่ทำให้เห็นมุมของความสำเร็จในอนาคต แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีเสียงของความกังวลว่า Alibaba อาจทำให้ผู้ประกอบการไทยบางรายที่กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาล้มลงได้ เพราะสู่ศักยภาพของ Alibaba ไม่ได้ 

โดย นายสุรวัช อัครวรมาศ อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า่ ถ้ามองในแง่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เป็นห่วงเรื่องการเตรียมความพร้อมของชุมชน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะหลั่งไหลเข้ามาในปริมาณมากๆ ประกอบกับการลงทุนของภาครัฐเรื่องแพลตฟอร์มการท่องเที่ยว มองว่าขณะนี้ภาครัฐจะต้องเสริมเรื่องนี้

อย่างจีนวันนี้ที่ Alibaba ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งเพราะภาครัฐทำเรื่อง Single Gateway ทำให้ Platform อย่าง WeChat ได้รับความนิยมจนกลายเป็นช่องทางหลัก เพราะฉะนั้นเราจะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างถนน เปรียบเสมือนระบบให้พัฒนาควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้อย่างน้อยที่สุดเราเป็นฝ่ายที่จะกำหนดทิศทางได้

รัฐบาลเอง ก็มองออกถึงความห่วงใยที่เกิดขึ้น พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าใจดีถึงข้อห่วงใยของนักธุรกิจและประชาชนเกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้า หลังจากไทยลงนามกับกลุ่ม Alibaba

ประเด็นอยู่ที่ว่าผู้ประกอบการไทยจะปรับตัวหรือยัง เรื่องนี้หลายหน่วยงานรัฐทั้งภายในกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม หรือกระทรวงอื่นๆ ต่างมีกิจกรรมหรือโครงการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ 

ส่วนความวิตกเรื่องการล้วงข้อมูลจากเว็บดัง ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Group หรือเว็บอื่นๆ ก็จะใช้การเชื่อมข้อมูลกับ Thaitrade.com เป็น Nation Platform ช่วยผู้ประกอบการให้ขายสินค้าบยออนไลน์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Alibaba จะเลิอกคัดสินค้าบน Thaitrade นี้แล้วนำไปเสนอขายบน Alibaba

ดังนั้นเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ผู้ประกอบการต้องแจ้งต่อกรมก่อนขึ้น Thaitrade อยู่แล้ว เว็บความร่วมมืออื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน เพราะผู้ขายต้องนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นต่อการผลิตและการพัฒนาอยู่แล้ว

มาถึงจุดนี้ไม่ว่าความร่วมมือกับอาลีบาบา จะก่อให้เกิดผลอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ไทยต้องพร้อมอย่างมากทั้งภาครัฐและเอกชน คือการปรับตัวเพื่อรับการค้าออนไลน์ ที่กำลังยึดครองตลาดโลกอย่างรวดเร็ว 

ภาพหลัก via volcanoapp.com

อัพเดท ข่าวอสังหาริมทรัพย์ สดใหม่ทุกวัน พร้อมส่งตรงถึงอีเมล์ของคุณฟรี สมัครได้ที่นี่ หรือหากคุณกำลังมองหาบ้านคอนโด ก็สามารถเลือกชม โครงการใหม่ พร้อม รีวิวโครงการคอนโดใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคาได้เช่นกัน

ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ matichon.co.th

เขียนความเห็น

ข่าว-บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

จับตาเศรษฐกิจไทย ก้าวสู่ไตรมาส 2 หลังไตรมาสแรกเป็นไปตามคาด

เป็นที่รู้กันดีว่าสภาพตลาดอสังหาฯ นั้นมีความสอดคล้องกับเศรษฐกิจไทย ด

อ่านต่อ10 เม.ย. 2561

จับตา 5 สาขาภาคบริการถดถอย หนึ่งในนั้นมีการก่อสร้าง

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยภาวะการค้าภาคบริการของไทยใ

อ่านต่อ18 เม.ย. 2561