การเลือกซื้อบ้าน "สายมู" สู้ "สายวิทย์" เลือกแบบไหนดี

DDproperty Editorial Team
การเลือกซื้อบ้าน "สายมู" สู้ "สายวิทย์" เลือกแบบไหนดี
ว่าด้วยเรื่องการเลือกซื้อบ้าน นอกจากการหาบ้านทำเลดี สเปคถูกใจ ราคาอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้แล้วนั้น ยังมีองค์ประกอบสำคัญของสายมูเตลู คือ ฮวงจุ้ยบ้าน เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ถึงอย่างนั้น การเลือกบ้านที่ดีก็ไม่ได้ผูกขาดอยู่กับหลักฮวงจุ้ยเสียทีเดียว เพราะการเลือกซื้อบ้านตามหลักฮวงจุ้ยบางอย่างก็แตกต่างและสอดคล้องกับหลักวิทยาศาสตร์อยู่ไม่น้อย
บทความนี้จึงได้รวบรวมกรณีการเลือกซื้อบ้าน โดยนำมาวิเคราะห์ตามหลักฮวงจุ้ยและหลักวิทยาศาสตร์ เทียบกันไปเลยว่าการเลือกซื้อบ้านแบบสายมูเตลูหรือสายวิทยาศาสตร์เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะสมและตอบโจทย์ของเรามากกว่ากัน

1. การเลือกซื้อบ้านทางสามแพร่ง

ถือเป็นกรณีศึกษาที่ได้รับการพูดถึงเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อต้องเลือกซื้อบ้าน ลักษณะบ้านบนทางสามแพร่ง ก็คือที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางแยกสามทางนั่นเอง มาดูกันว่าหลักฮวงจุ้ยและหลักวิทยาศาสตร์อธิบายลักษณะดังกล่าวไว้ในแง่มุมไหน

หลักฮวงจุ้ย

หากยึดตามแนวทางสายมู บ้านบนทางแยกสามแพร่งถือว่าป็นอัปมงคลต่อเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย เพราะเชื่อกันว่าเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยจะได้รับอิทธิพลจากลมและน้ำโดยตรง ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยอยู่ไม่เป็นสุข จิตใจไม่สงบ

หลักวิทยาศาสตร์

แม้จะไม่ได้ชี้ขาดว่า "ทางสามแพร่ง" เป็นทำเลที่ดีหรือไม่ดีเลยนั้น แต่หากพิจารณาตามสายวิทย์แล้ว บ้านที่ตั้งบนทางสามแพร่งเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เพราะเป็นเส้นทางที่รถราสัญจรผ่านไปมาเสมอ
นอกจากนี้ อาจส่งผลรบกวนต่อผู้อยู่อาศัย เพราะมักได้ยินเสียงรบกวนและแสงไฟจากรถที่วิ่งสวนมา ส่งผลให้คนภายในบ้านอาจใช้ชีวิตไม่ค่อยสงบสักเท่าไหร่

2. การเลือกซื้อบ้านที่มีเสาเอกกลางบ้าน

เดิมทีเสาเอกเป็นเสาที่คนนิยมใช้ยึดโครงสร้างบ้านให้แข็งแรง ไม่ล้มลง สมัยก่อนนิยมใช้เสาที่ทำจากไม้ ปัจจุบันใช้เสาที่ทำจากคอนกรีตหรือปูนเป็นเสาเอกยึดบ้าน
ทั้งนี้ คนไทยส่วนใหญ่ก็นิยมหาฤกษ์ในการตั้งเสาเอกของบ้านตามความเชื่อโบราณ และแน่นอนว่าปัจจุบันก็อาจมีบ้านที่ตอกเสาเอกไว้กลางบ้าน บ้างก็เชื่อว่าดีและไม่ดี มาดูกันว่าแนวคิด "เสากลางบ้าน" ตามแนวคิดสายมูและสายวิทย์จะเป็นอย่างไร

หลักฮวงจุ้ย

เชื่อกันว่าการตั้งเสากลางบ้านถือเป็นเรื่องไม่ดี ซึ่งส่งผลลบต่อชีวิตรอบด้าน ทั้งการงาน การเงิน และสุขภาพ หากเสานั้นเป็นเสาเอกก็อาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตได้ อาจนำมาซึ่งความโชคร้ายและสิ่งไม่ดี

หลักวิทยาศาสตร์

จริง ๆ แล้ว หากว่ากันตามแนวคิดสายวิทย์นั้น เสาหรือเสาเอกที่อยู่กลางบ้านไม่ได้ถือเป็นเรื่องร้ายแรงเท่าไหร่ หากแต่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตอยู่บ้าง โดยอาจทำเคลื่อนย้ายสิ่งของที่ต้องผ่านบริเวณนั้นไม่สะดวกเท่าที่ควร ถ้าดูกันในแง่ของการออกแบบ ก็คงดูเกะกะ ไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้คนที่พบเห็นรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตา ถึงอย่างนั้น ก็แก้ไขได้ด้วยการจัดวางตู้โชว์มาวางปิดเสา โดยเรียงให้เสาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องเรือนก็ได้
การเลือกซื้อบ้านที่มีบันไดกลางบ้าน ดีหรือไม่

3. การเลือกซื้อบ้านที่มีบันไดกลางบ้าน

บ้านลักษณะนี้คือบ้านที่มีบันไดอยู่ตรงใจกลางของบ้านซึ่งอาจพบเห็นอยู่บ้าง ซึ่งหลักการออกแบบและก่อสร้างดังกล่าวก็อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตในแง่วิทยาศาสตร์และความเชื่อได้เช่นกัน

หลักฮวงจุ้ย

สายมูเตลูเชื่อกันว่าบันไดเป็นเส้นทางเชื่อมพลังชี่ระหว่างพื้นบ้านแต่ละชั้น ซึ่งก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของพลังงาน หากจัดวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ย่อมนำมาซึ่งโชคลาภและทรัพย์สมบัติ
ในทางตรงกันข้าม หากตั้งบันไดไว้กลางบ้านย่อมส่งผลเชิงลบแก่ผู้อยู่อาศัย ส่งผลให้เจ้าบ้านหรือคนที่อยู่อาศัยต้องมีเหตุเดินทางออกไปข้างนอกเสมอ หรือที่เรียกว่า "ชีพจรลงเท้า" รวมทั้งอาจเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพหัวใจได้ง่าย เพราะสิ่งที่ก่อให้ความเคลื่อนไหวของพลังตั้งอยู่ใจกลางบ้าน อันเปรียบเสมือนหัวใจของเจ้าบ้านนั่นเอง

หลักวิทยาศาสตร์

หากพิจารณาในแง่วิทยาศาสตร์ เหตุผลเดียวที่ง่ายที่สุดของการห้ามสร้างบันไดกลางบ้านก็คือทำให้เปลืองพื้นที่ใช้สอย ไม่ว่าคุณจะเดินหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของใด ๆ ก็ทำได้ไม่สะดวก เพราะมีบันไดกีดขวางทางอยู่ ต้องคอยหาทางหลบเลี่ยงเสมอ

4. การเลือกซื้อบ้านที่มีประตูตรงกัน

ไม่ว่าบ้านที่คุณกำลังเลือกดูอยู่นั้นจะมีประตูหน้าบ้านตรงกับประตูหลังบ้าน หรือภายในห้องหับต่าง ๆ มีประตูที่ตรงกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีเสียทีเดียว เพราะลักษณะบ้านดังกล่าวก็มีแง่มุมของการสร้างบ้านและการอยู่อาศัยตามแนวคิดที่ต่างกัน ดังนี้

หลักฮวงจุ้ย

สายมูเตลูเชื่อกันว่า ประตูแต่ละบ้านมีพลังงานธาตุสถิตอยู่แตกต่างกันไป ยิ่งประตูตั้งอยู่คนละฝั่งกัน ก็หมายความว่าประตูแต่ละฝั่งมีพลังขั้วตรงข้าม ลักษณะประตูตรงกันเปรียบเหมือนการปะทะกันของพลังงานต่างขั้ว ส่งผลให้เกิดการวิวาทภายในบ้านได้เสมอ ผู้คนมักทะเลาะเบาะแว้งหรือมีปากเสียงกัน ผิดใจกันบ่อย
ทั้งนี้ ลักษณะฮวงจุ้ยเช่นนี้ก็มีข้อยกเว้น คือ ประตูทั้งสองฝั่งที่ตรงกันต้องมีระยะห่างกันไม่เกิน 1 เมตร หากระยะห่างของประตูทั้งสองฝั่งห่างกันตั้งแต่ 2 เมตร ขึ้นไป ไม่ถือว่าผิดหลักฮวงจุ้ย
วิธีแก้ไขประตูบ้านที่ตรงกันคือต้องสิ่งของมากั้นกลาง นั่นก็คือการปูพื้นหรือตกแต่งผนังด้วยงานไม้หรือใช้โทนสีธรรมชาติ เช่น น้ำตาล เขียว เป็นต้น เพราะถือเป็นตัวแทนธาตุไม้ที่จะช่วยปรับสมดุลพลังงานธาตุน้ำและไฟที่ส่งมาจากประตูคนละฝั่ง

หลักวิทยาศาสตร์

ที่จริงแล้วทิศทางประตูเกี่ยวเนื่องกับลมและการถ่ายเทอากาศ ลองคิดถึงภาพที่ประตูหน้าบ้านและประตูหลังบ้านตรงกัน เมื่อมีลมพัดเข้าทางหน้าประตูบ้าน ก็จะพัดออกประตูหลังบ้านทันที
หากจะนับว่าเป็นกุศโลบายของคนจีนที่ต้องการชะลอการถ่ายเทอากาศหนาวเย็นจากลมก็ได้ จึงได้ระบุไว้ว่าไม่ควรสร้างประตูบ้านตรงกัน เพื่อป้องกันไม่ให้รับลมธรรมชาติพัดเข้ามาภายในบ้านจนทำให้คนที่อยู่อาศัยเจ็บป่วยได้นั่นเอง

5. การเลือกซื้อบ้านที่หน้าบ้านหันไปทิศใต้หรือทิศเหนือ

จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะหันหน้าบ้านออกไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก ล้วนมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกพิจารณาตามแนวคิดใด รวมทั้งเงื่อนไขการเลือกบ้านอื่น ๆ แบบใดเข้ากับความต้องการของเราในขณะนั้นมากที่สุด

หลักฮวงจุ้ย

หากอิงตามความเชื่อของสายมู นี่ถือเป็นลักษณะบ้านที่ควรซื้อตามตำราฮวงจุ้ย เพราะบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใต้หรือทิศเหนือจะช่วยเกื้อกูลผู้คนที่อาศัยให้ดีขึ้น โดยการหันหน้าเข้าทิศทั้งสองนั้นทำให้บ้านได้รับลมเป็นประจำ ส่งเสริมพลังงานดี ๆ ให้ไหลเวียน พัดพาโชคลาภเข้ามาไม่ขาด
นอกจากนี้ ห้ามเลือกบ้านที่หน้าบ้านหันเข้าหาทิศตะวันตก เพราะจะส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนอาศัย รวมทั้งด้านการเงินด้วย

หลักวิทยาศาสตร์

หากว่ากันตามแนวคิดสายวิทย์ การหันหน้าบ้านเข้าหาทิศเหนือและทิศใต้ต่างได้เปรียบแตกต่างกัน ทิศเหนือจะเปิดรับกระแสลมหนาว ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม-มกราคม รวมทั้งยังเป็นทิศร่มเงา ไม่ได้รับแสงแดดจากพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าและพระอาทิตย์คล้อยต่ำตอนบ่ายโดยตรง
ส่วนทิศใต้จะเปิดรับกระแสลมเช่นเดียวกัน แต่เป็นช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม (ฤดูร้อนและฤดูฝน) ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นตลอดหน้าร้อน อาจมีข้อเสียบ้างตรงที่พัดพาลมมรสุมเข้ามาในหน้าฝน ทำให้รับน้ำฝนเต็ม ๆ ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการเลือกสร้างหลังคาให้ดีก็ได้
เลือกซื้อบ้านที่มีมุมอับ แสงส่องไม่ถึงดีหรือไม่

6. การเลือกซื้อบ้านมีมุมอับ แสงส่องไม่ถึง

ส่วนใหญ่แล้ว การเลือกบ้านเดี่ยว คอนโด หรือที่อยู่อาศัยอื่น ๆ มักดูทิศทางลมและแสงแดดประกอบด้วย เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการเคลื่อนย้ายหรือจัดวางสิ่งของและมุมการใช้ชีวิตต่าง ๆ ให้เหมาะสม หากมีแสงส่องมากเกินไป ก็ต้องพิจารณาเรื่องการติดม่าน เพื่อกรองแสงในบางช่วงเวลาด้วย แต่ถ้าบ้านมีห้องหรือมุมอับที่แสงธรรมชาติส่องไม่เคยถึงตลอดทั้งวัน ก็ต้องมาดูจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตอย่างไร

หลักฮวงจุ้ย

บ้านที่มีมุมอับหรือมุมมืดถือเป็นจุดบอดของบ้าน เพราะปิดกั้นการไหลเวียนของพลังงานดี ส่งผลให้ชีวิตอาภัพอับโชค ทำมาค้าขายไม่ดี ซ้ำยังเกิดป่วยเป็นโรคภัยไขเจ็บได้ง่าย

หลักวิทยาศาสตร์

แน่นอนว่าบ้านที่มีมุมอับ รับแสงแดดได้ไม่ทั่วถึงถือเป็นข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจน เพราะทำให้อากาศถ่ายเทไม่ทั่ว หากส่วนที่เป็นมุมอับคือห้องนอน ย่อมส่งผลต่อการพักผ่อน ทำให้นอนหลับไม่เต็มอิ่ม ซึ่งสั่งสมเป็นปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตระยะยาวได้

7. การเลือกซื้อบ้านที่อยู่ลาดต่ำกว่าปกติ

หากบ้านเดี่ยวหรือที่อยูู่อาศัยที่คุณไปเลือกดูอยู่นั้น อยู่ในทำเลลาดต่ำกว่าบ้านข้างเคียง ไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน อาจต้องพิจารณาชั่งใจจากหลักฮวงจุ้ยและหลักวิทยาศาสตร์ดูว่าจะเดินหน้าต่อหรือหาหลังใหม่ต่อไป

หลักฮวงจุ้ย

บ้านที่อยู่ในที่ต่ำเช่นนี้เป็นบ้านที่ไม่ควรซื้ออยู่อาศัย เพราะลักษณะพื้นที่ที่ต่างกันส่งผลต่ออิทธิพลดวงของเจ้าบ้าน กล่าวคือ หากบ้านเราอยู่พื้นที่ลาดเอียงลงหรือตกตรงตำแหน่งที่ต่ำกว่าบ้านของเพื่อนบ้าน ย่อมส่งผลให้บ้านข้างเคียงที่อยู่ตำแหน่งสูงกว่ามีอำนาจข่มเราได้

หลักวิทยาศาสตร์

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือเป็นจุดรับน้ำที่ไหลลงมาจากที่สูง หรือที่เรียกว่า "แอ่ง" หากปริมาณน้ำสะสมนาน ระบายออกไม่ทันทำให้เกิดน้ำขัง อันก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีเท่าไหร่ นอกจากนี้ ยังเสี่ยงเป็นจุดเกิดน้ำท่วมได้ง่ายกว่าด้วย หากเกิดอุทกภัยขึ้นมา จะเป็นจุดที่รับภาระหนักก่อนเป็นจุดแรก
ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับแนวทางของสายมูเตลูหรือสายวิทย์มากกว่ากัน สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อบ้านต้องมาจากความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก รวมทั้งความพร้อมของกำลังทรัพย์ การเดินทาง และความจำเป็นในการใช้ชีวิตด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย กรณีการเลือกซื้อบ้านที่นำมาเปรียบเทียบกันตามหลักฮวงจุ้ยกับหลักวิทยาศาสตร์ถือเป็นองค์ประกอบเสริมที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกบ้านที่ใช่ได้มากขึ้นเท่านั้น
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือนตามระยะเวลากู้

เพียงใส่ยอดเงินกู้ที่คุณต้องการ เราจะคำนวณให้คุณเห็นถึงยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามระยะเวลาผ่อนและอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกัน

คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน

คำนวณยอดผ่อนชำระต่อเดือนตามอัตราดอกเบี้ยของคุณด้วยเครื่องมือคำนวณสินเชื่อนี้

คำนวณวงเงินกู้สูงสุด

คำนวณสินเชื่อบ้าน ยอดวงเงินกู้บ้านใหม่ที่คาดว่าจะได้รับจากแบงก์และยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือน