5 ข้อต้องคิดก่อนซื้อบ้านจัดสรรติดรั้วโครงการ

ซื้อบ้านจัดสรรเป็นตัวเลือกหนึงที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากมีบ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่อยากซื้อบ้านที่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ไว้ใจได้ หรือมีส่วนกลางที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยมากขึ้น แต่บ้านในหมู่บ้านจัดสรรนั้นก็มีให้เลือกหลายตำแหน่ง หลายแปลง หรือหลายมุม ซึ่งบ้านส่วนหนึ่งแน่นอนว่าจะเป็นบ้านแปลงที่ติดกับรั้วโครงการ ลองมาดูข้อเปรียบเทียบของการซื้อบ้านจัดสรรติดรั้วโครงการกันว่ามีข้อดีหรือข้อด้อยอย่างไร

หากว่ากันด้วยเรื่องการซื้อบ้านจัดสรรแล้ว ข้อดีคงหนีไม่พ้นเรื่องของความเป็นส่วนตัว เนื่องจากไม่ต้องใช้กำแพงร่วมกับบ้านหลังอื่นเหมือนกับทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม หรือบ้านแฝด จึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมีปัญหาเพื่อนบ้านเสียงดังรบกวนการพักผ่อน รวมทั้งยังมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าทั้งภายในบ้านและภายในรั้วบ้าน รวมทั้งรับลม หรือแสงแดดธรรมชาติได้มากกว่ารูปแบบบ้านประเภทอื่น

นอกจากนั้นยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครันกว่า แต่ข้อด้อยของการซื้อบ้านจัดสรร ก็คงหนีไม้พ้นทางด้านราคาที่สูงกว่า และมีค่าบำรุงรักษามากกว่าที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่นเช่นกัน

หากจำเพาะเจาะจงถึงข้อดีของการซื้อบ้านจัดสรรติดรั้วโครงการคือ จะเป็นส่วนตัวมากกว่าบ้านหลังอื่น เนื่องจากมีเพื่อนบ้านติดกันน้อยไป 1 หลัง และบ้านแปลงติดกับรั้วโครงการก็มักเป็นโครงการท้ายซอยที่ไม่ต้องวุ่นวายกับรถราผ่านไปผ่านมามากนัก

แม้ว่าจะมีข้อดีแต่ก็มีข้อที่ต้องพิจารณาก่อนซื้อบ้านจัดสรรติดรั้วโครงการ เนื่องจากหากมองในระยะยาวแล้ว อาจต้องมีข้อกังวลหลายด้าน ดังนี้

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงโครงสร้างรั้วโครงการ เนื่องจากนานวันไปหากรั้วโครงการมีการสึกกร่อน ร้าว หรือทรุดตัว แน่นอนว่าจะกระทบต่อโครงสร้างบ้านที่ติดอยู่กับรั้วโครงการไม่มากก็น้อย เพือความสบายใจเรื่องนี้จึงต้องเช็กกับทางโครงการบ้านจัดสรรให้ดีว่ามีการลงเสาเข็มอย่างไร จำนวน และขนาดเท่าไหร่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของบ้าน

โดยปกติรั้วโครงการจะมีการลงเสาเข็ม วางฐานรากรั้ว บวกกับคานสเตย์ (Stay) ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้โครงสร้างรั้ว ล้มเอียงได้

สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างคือการบดอัดดินบริเวณใกล้รั้วโครงการ บางกรณีเมื่อมีการถมดิน บริเวณนี้จะมีการบดอัดดินที่น้อยกว่าส่วนอื่น เนื่องจากพื้นที่จำกัด จึงใช้เครื่องจักรบดอัดได้ยาก ประกอบกับผู้รับเหมากลัวรั้วโครงการจะพังหากมีการบดอัดใกล้รั้วโครงการมากเกินไป ทำให้ดินที่ถมบริเวณใกล้รั้วโครงการอาจทรุดมากกว่าบริเวณอื่น

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือ หากอีกด้านของรั้วโครงการเป็นบึง คลอง หรือมีการถมดินสูง ก็อาจส่งผลให้รั้วโครงการทรุดตัวได้เร็วขึ้น

จริงๆ แล้ว รั้วโครงการถือเป็นทรัพย์สินของส่วนกลาง โดยสร้างขึ้นมากำหนดขอบเขตแยกระหว่างพื้นที่ของส่วนตัวของบ้านและพื้นที่ของโครงการ แน่นอนว่ากรรมสิทธิ์ทุกอย่างตกอยู่ที่ส่วนกลางทั้งหมด การเข้าไปต่อเติมส่วนที่ติดกับรั้วของโครงการจึงเปรียบเหมือนการละเมิดทรัพย์สินของผู้อื่น

นอกจากนี้ อาจต้องทำการรื้อโครงหรือแก้ไขส่วนต่อเติมในกรณีที่หลังคาหรือรางน้ำที่ต่อเติมล้ำเข้าไปในพื้นที่ของรั้วโครงการ ซึ่งนำมาซึ่งความยุ่งยากและปัญหาทางด้านกฎหมายภายหลัง

หากบ้านจัดสรรที่คุณหมายตาจะซื้ออยู่ติดรั้วโครงการ ก็เสี่ยงที่ขโมยหรือบุคคลอื่นจะลักลอบปีนเข้าบ้านได้ง่าย เพราะรั้วโครงการไม่ว่าจะป้องกันดีแค่ไหน แต่ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ขโมยสามารถบุกรุกเข้ามาได้ ประกอบกับบ้านจัดสรรติดกับรั้วโครงการจะมีมุมอับสายตาคนมากกว่าบ้านตำแหน่งอื่น ทำให้เป็นเหยื่อของขโมยได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ผู้ซื้อบ้านจัดสรรติดรั้วโครงการจึงต้องให้ความกับระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านเพิ่มขึ้น

อีกด้านของรั้วโครงการเป็นสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ หากอีกฝั่งใกล้ถนนสายหลัก คงเลี่ยงปัญหาเสียงดังจอแจจากการสัญจรผ่านไปผ่านมาไม่ได้ หรือหากเป็นพื้นที่เกษตร พื้นที่รกร้าง หรือที่ทิ้งขยะ อาจมีกลิ่นขยะ หรือหากมีการเผาหญ้า หรือเผาขยะ กลุ่มควันหรือกลิ่นก็อาจมารบกวนได้ได้เช่นกัน สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นซึ่งกระทบต่อการอยู่อาศัยอย่างแน่นอน

หากอีกด้านของรั้วโครงการเป็นคู คลอง หรือแม้แต่พื้นที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งพื้นที่ต่าง ๆ เหล่านี้อาจเป็นแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น งู ตะขาบ หรือหนู ซึ่งมีโอกาสที่สัตว์เหล่านี้จะมาเยี่ยมเยือนบ้านของคุณได้โดยไม่รู้ตัว

หากอ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงพอเห็นภาพของการซื้อบ้านจัดสรรติดรั้วโครงการแล้วว่าเป็นอย่างไร ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าบ้านจัดสรรในทำเลดังกล่าวดีหรือไม่ดี ควรซื้อหรือไม่ควรซื้อ เพราะทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับปัจจัยและเงื่อนไขของคุณว่าเป็นแบบไหน ซึ่งข้อที่ควรพิจารณาข้างต้นหากป้องกันดี ๆ ปัญหาก็จะไม่เกิดขึ้นตามมา เพื่อให้บ้านจัดสรรติดรั้วโครงการกลายเป็นบ้านที่คุณอยู่ได้อย่างมีความสุข