ซื้อบ้านเงินสดหรือซื้อบ้านเงินผ่อน เป็นวิธีการเป็นเจ้าของบ้าน 2 แบบ คือ มีทั้งแบบเก็บเงินก้อนใหญ่มาซื้อและเก็บเงินบางส่วนมาดาวน์บ้านแล้วผ่อน ทั้งสองแบบนี้มีความแตกต่างกันมาก โดยจะซื้อบ้านแบบเงินสดหรือผ่อนดีเพื่อความเหมาะสมและคุ้มค่ามากกว่ากันนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติ สถานการณ์ และความต้องการของแต่ละคน
ดังนั้นการเลือกวิธีซื้อบ้านจึงต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ และเป็นรายบุคคลไป ลองดู 7 เรื่องที่ต้องพิจารณาเพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกวิธีซื้อบ้านเงินสดหรือเงินผ่อนแบบไหนเหมาะกับคุณ
1. ภาวะจิตใจ
การซื้อบ้านเงินสดนั้นต่างจากการซื้อบ้านเงินผ่อนตรงที่ต้องเก็บหอมรอมริบเงินก้อนใหญ่และไม่ต้องมีภาระหนี้ ซึ่งทำให้ต้องมีเครดิตดีในการกู้เงินและมีเงินชำระค่างวดทุกเดือนตลอดระยะเวลานาน หมายความว่า ผู้ที่ซื้อบ้านเงินสดอาจเครียดในช่วงก่อนซื้อบ้าน แต่ความเครียดของผู้ที่ซื้อบ้านเงินผ่อนอาจอยู่ในช่วงการกู้เงินและการผ่อนบ้าน
2. ความเสี่ยง
หากซื้อบ้านเงินสด ก็ต้องเก็บเงินล้านที่ต้องใช้ระยะเวลานาน จึงเสี่ยงที่จะไม่ได้ซื้อบ้านกรณีที่ไม่อาจเก็บเงินได้มากพอ แต่สำหรับการซื้อบ้านเงินผ่อน การเก็บเงินซื้อบ้านนั้นอยู่ในหลักแสนที่ใช้เวลาสั้นกว่ามาก เพราะเงินสดที่ต้องใช้มีเพียงค่าดาวน์บ้านและค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของการซื้อบ้านเงินผ่อนอยู่ในเรื่องการกู้เงินที่อาจไม่ผ่านได้ และเรื่องการผ่อนบ้านที่อาจมีเหตุให้ไม่สามารถชำระค่างวดจนบ้านหลุดได้
นอกจากนี้ โครงการบ้านจำนวนมากเปิดขายก่อนสร้างเสร็จ และกำหนดให้ผู้ซื้อทุกคนจะต้องจ่ายค่าจอง ค่าทำสัญญา รวมถึงเงินดาวน์ที่มักต้องจ่ายเป็นงวด ๆ จนถึงกำหนดสร้างเสร็จ หากโครงการนั้นล่ม ก็อาจไม่ได้รับเงินคืนและต้องไปฟ้องร้องโครงการ ซึ่งทำให้เสียเวลาและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการด้วย
3. ความคุ้มค่าเงิน
การซื้อบ้านเงินผ่อนนั้นมีดอกเบี้ยที่อาจสูงถึงเท่าตัวของราคาบ้าน และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ในการกู้เงินและจดจำนองบ้านที่ต้องจ่ายอย่างน้อยหลายหมื่นบาท ในขณะที่การซื้อบ้านเงินสดจะไม่มีค่าใช้จ่ายเหล่านี้ ดังนั้นจึงจ่ายค่าบ้านได้ถูกกว่ามาก อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมในการซื้อบ้านได้ที่บทความรู้จักค่าโอนบ้านก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน และดอกเบี้ยผ่อนบ้านได้ที่โปะหนี้บ้านให้หมดไวอย่างได้ผล
4. โอกาสในการลงทุน
การจ่ายเงินสดก้อนใหญ่ไปกับการซื้อบ้านย่อมมีผลให้ไม่สามารถนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนเพื่อต่อยอดให้งอกเงยเป็นผลกำไรได้ สำหรับนักลงทุน การซื้อบ้านเงินสดจึงเป็นการจมเงินก้อนโต แต่การซื้อบ้านเงินผ่อนเป็นโอกาสการลงทุนที่จะทำให้ได้ผลกำไรมาแบ่งเบาภาระค่าบ้าน ซึ่งหากประสบผลสำเร็จ กำไรก็จะช่วยลดค่าบ้านได้มากหรืออาจได้กำไรมากกว่าค่าบ้านก็ได้
5. ขั้นตอนการซื้อบ้าน
แน่นอนว่า การซื้อบ้านเงินสดที่ไม่ต้องกู้เงินธนาคารย่อมมีขั้นตอนการซื้อบ้านที่น้อยกว่าและรวดเร็วกว่า เพราะไม่ต้องวุ่นวายกับการหาสถาบันการเงินสำหรับกู้ การจัดการเอกสารการขอกู้เงินกับสถาบันการเงิน และการจดจำนองบ้านในวันโอนกรรมสิทธิ์ อ่านเพิ่มเติมที่บทความขั้นตอนการซื้อบ้านเงินสดและขั้นตอนการกู้เงินซื้อบ้าน
6. การลดหย่อนภาษี
หลายคนมีคำถามว่า “ซื้อบ้านเงินสด ลดหย่อนภาษีได้ไหม” หากเป็นการซื้อบ้านหลังแรก ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการลดหย่อนภาษีจากทางภาครัฐ ไม่ว่าจะเงินสดหรือเงินผ่อน แต่ผู้ซื้อบ้านเงินผ่อนจะได้เปรียบกว่าซื้อบ้านเงินสดตรงที่ ไม่ว่าจะซื้อบ้านหลังแรกหรือไม่ ก็สามารถนำดอกเบี้ยผ่อนบ้านไปลดหย่อนภาษีเงินได้ โดยลดหย่อนภาษีได้ตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีจากกรมสรรพากร
7. ภาระหนี้
การซื้อบ้านเงินสดทำให้ไม่ต้องมีภาระหนี้ จึงทำให้ผู้ซื้อมีความปลอดโปร่งโล่งใจและไม่มีหนี้ผูกพันที่ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ แต่สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านเงินผ่อน ภาระหนี้นั้นจะทำให้ต้องระวังการจับจ่ายใช้สอยเนื่องจากต้องชำระค่าผ่อนบ้านทุกเดือน รวมทั้งต้องวางแผนและเก็บเงินสำรองให้มีจ่ายค่าผ่อนบ้านในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน
นอกจากนี้ ผู้ซื้อยังมีสถานะเป็นหนี้ ซึ่งลดความสามารถในการกู้เงิน และอาจเป็นอุปสรรคต่อการกู้เงินสำหรับประกอบธุรกิจหรือสำหรับด้านอื่นได้
จะซื้อบ้านเงินสดดีหรือไม่นั้น ขอให้ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียที่พิจารณาจากแต่ละด้านในข้างต้น แล้วจึงตัดสินใจเลือกวิธีซื้อบ้านที่เหมาะสมกับความต้องการ สภาวะทางการเงิน และการใช้ชีวิต และเมื่อเลือกว่าจะซื้อบ้านเงินสดหรือซื้อบ้านเงินผ่อนแล้ว ก็ถึงเวลาเตรียมตัวซื้อบ้าน ซึ่งบทความด้านล่างนี้มีสิ่งที่ควรรู้หลายอย่างเพื่อช่วยให้เป็นเจ้าของบ้านในฝันได้อย่างราบรื่น
สนใจรับบทความดีดี อัปเดต ข่าวอสังหาริมทรัพย์ และ อ่านคู่มือซื้อขาย พร้อม รีวิวโครงการคอนโดฯ ใหม่ บ้านใหม่ หลากหลายทำเลและราคา รวมถึง ทำความรู้จักกับทำเลฮอตทั่วกรุง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการซื้อ-ขาย-เช่า