จากการทำงานที่หลากหลาย ทั้งการเป็นกระบวนการ สอนเรื่องจิตวิทยาครอบครัว เรื่องเพศ, Empower รวมทั้ง เพศวิถีศึกษา, สุขภาวะทางเพศ ที่มีประสบการณ์ในสายอาชีพมากว่า 10 ปี ทำให้ คุณเม อโนพร เครือแตง ได้คลุกคลีกับกลุ่มของ LGBTQ และเพศต่าง ๆ อีกหลากหลายกลุ่ม จึงได้เห็นปัญหา มีความเข้าใจมุมมอง ความคิด และความต้องการที่แตกต่างกัน ในปัจจัยหลัก ๆ ของการเลือกที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต

"บ้านในฝัน คือ การออกแบบชีวิต"
คุณเม กล่าวไว้ว่า "Functional ที่อยู่ในบ้าน และ Emotional ของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ร่วมกัน ทำให้บ้านเป็นบ้านที่สมบูรณ์ เป็นทั้งที่พักกาย และพักใจ" ด้วยเหตุผลนี้ทำให้คุณเมมีบ้านด้วยกันถึง 3 หลัง คือ พัทยา x กรุงเทพฯ x เชียงราย บ้านที่อยู่ต่างพื้นที่ ต่างสไตล์ แต่ใจเดียว
บ้านหลังที่ 1 เริ่มจากบ้านที่พัทยา ซึ่งเป็นห้องพัก 1 หลังที่อยู่ภายในรีสอร์ท ของตัวเอง
สืบเนื่องจากแต่เดิม บ้านหลังเก่าที่เจ้าตัวบอกว่า ได้ดั่งใจ ได้ดังฝันที่สุด มีโจรขึ้นบ้าน ทั้งที่อยู่ในโครงการหมู่บ้าน จึงตัดสินใจขยับตัวมาอยู่บ้าน ภายในรีสอร์ทที่ตัวเองให้บริการอยู่แล้ว ประกอบกับที่การทำงานต้องมีการเดินทางอยู่ตลอด ดังนั้นการใช้พื้นที่ที่เล็กลง ไม่ได้เป็นปัญหาในการอยู่อาศัยหรือพักผ่อน

บ้านหลังที่ 2 ตอบโจทย์เรื่องการทำงานที่สุด เพราะเลือกที่จะซื้อคอนโด อยู่กับแฟน
คุณเม เล่าให้เราฟังว่า ที่นี่เหมือนจุด Stand by เกิดฉุกเฉิน ต้องเดินทางไปไหนเมื่อไหร่ แม้จะต้องตัวเปล่า ลงเครื่องมา ก็สามารถเข้ามาพักได้ทันทีนอนสบายไม่ต้องห่วงเรื่องรถติด เพราะใกล้รถไฟฟ้า คุณเมขยายความให้ฟังว่า “เราต้องรู้จักออกแบบชีวิตตัวเอง ให้ชัดเจน ก่อนที่จะออกแบบบ้านซะอีก” ด้วยความที่ไม่ชอบเสียเวลา หรือเสียคุณภาพชีวิตไปกับการเดินทางที่ยาวนาน หรือต้องทนกับการขับรถออกไปข้างนอก เสียเวลา 1-2 ชั่วโมง เพียงแค่ไปหาข้าวกินนอกบ้าน ทำให้เครียด สะสมความหงุดหงิด และเบื่อหน่ายมาก ๆ ดังนั้น การเลือกคอนโดที่อยู่ติดกับรถไฟฟ้า มีพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์การใช้งาน ถือว่าเป็นเรื่องที่ตัดสินใจถูกต้องมาก ๆ
“หัวใจของความเป็นบ้าน คือความสุขของผู้ที่อยู่อาศัย การได้พื้นที่แห่งความสุข ได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่กับคนที่รัก เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ กับการเลือกที่อยู่”

บ้านหลังที่ 3 บ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ในอนาคต
บ้าน ณ เทิง Baan Na Thoeng เชียงราย คือ บ้านที่เป็นทั้ง co-working space เป็นทั้งคลังแสงห้องสมุด เป็นทั้งร้านกาแฟคุณภาพขนาดกระทัดรัด เป็นทั้งพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้
คุณเมบอกว่า ที่บ้าน ณ เทิง เหมือนเราเปิดบ้าน ชวนเพื่อนมากินกาแฟ กินข้าวไปจนถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนสาระ ทุกข์ สุข อัปเดตชีวิตกัน จะอ่านหนังสือ นั่งทำงานหรือ แค่เหงาใจจะหาเพื่อนสนทนาก็มาได้ เพราะอยากให้ที่บ้าน ณ เทิง เป็นพื้นที่เพื่อการเติบโต ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เป็นบ้านของทุกคน ที่แวะมาเพื่อใช้เวลาร่วมกันได้ ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ก็สะท้อนตัวตนของคุณเมและแฟน แทบจะ 100%

ดูเหมือนว่าคุณเมมีประสบการณ์ในการหาที่อยู่อาศัยมามากมาย แต่คุณเมบอกว่า เอาเข้าใจจริง ๆ การเลือกซื้อ หรือ ขาย ก็ไม่ใช่ว่าตัวเองจะมีความรู้แล้วตัดสินใจเองไปซะทั้งหมด แน่นอนว่าต้องมีตัวช่วยเพื่อให้เราตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุด และเหมาะกับตัวเองที่สุด เช่น เว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ ถามเพื่อน ถามญาติ หรือแม้แต่ ไปทดลองอยู่จริง ในระยะสั้น ๆ ใกล้ ๆ บริเวณนั้น ๆ
คุณเม : “พี่เคยต้องเซ้งกิจการโรงเรียนสอนภาษา แต่เราก็อยากเซ้งแบบที่เค้าต้องเอาครู เอาลิสต์รายชื่อของคนที่ลงทะเบียนเรียนไปด้วย ไม่ใช่มาเอาแค่ตึก ซึ่งมันดูเป็นไปได้ยาก แต่เชื่อไหมว่า พี่ลองใช้ DDproperty มีคนติดต่อมาหาพี่ 2 ราย มีรายหนึ่งพอเห็นแล้วเอาเลย โอนภายในไม่กี่วัน
ทั้งหมดนี้พี่ใช้เวลาประกาศเพียงแค่ 5-6 เดือนเท่านั้น เลยรู้สึกว่าเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ช่วยเราได้มาก เหมือนตอนที่จะซื้อคอนโด ก็ลองค้นหาจากเว็บไซต์ก่อน ดูว่าโครงการนี้มีอะไรบ้าง เปรียบเทียบแล้วโครงการไหนดีกว่ากัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเราได้มากแค่ไหน”
ความเป็น LGBTQ มีอุปสรรคในการครอบครอง อสังหาริมทรัพย์ไหม
ในเรื่องปัจจัยพื้นฐานการอยู่อาศัยทั่ว ๆ ไป ก็ไม่ได้ต่างจากกลุ่มเพศอื่น ๆ เพียงแต่ว่า ในเชิงกฏหมาย สำหรับบ้านเรายังยุ่งยากพอสมควร เช่น พี่กับแฟน เรากู้ร่วมกันไม่ได้ เพราะกฏหมายระบุว่าในกรณีคู่รักที่จะกู้ร่วม ต้องเป็นผู้ชาย และผู้หญิง หากอยากกู้ร่วมจริง ๆ ก็ต้องเป็นลักษณะ บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน ที่จดร่วมกัน และดำเนินการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี
นอกจากนี้ยังสามารถใช้ยอดกู้สูงสุดได้แค่เงินเดือนของคนที่สูงสุด ก็เหมือนตัดโอกาสของคนกลุ่ม LGBTQ เหมือนกัน เพราะแทนที่เราจะได้บ้านที่สเปกสูงขึ้น และเราทั้งคู่สามารถจ่ายได้อย่างไม่มีปัญหา แต่กลายเป็นว่า เราจำเป็นต้องเลือกบ้านที่มีสเปกเล็กลง
ในอนาคตมีแผนที่จะปรับ หรือขยาย ที่พักอาศัยอีกไหม

เนื้อที่บ้าน ณ เทิง จ.เชียงราย ตอนนี้รวม ๆ แล้วก็ 7 ไร่ เป็นพื้นที่อยู่จริง 2 ไร่ กับสวนมะพร้าว 5 ไร่ คิดว่าอีก 3-5 ปี ก็คงพาแม่มาอยู่ด้วย เป็นชีวิตหลังเกษียณที่มีความเป็นไปได้ ไม่ลำบาก วางแผนว่าจะทำเป็นบังกะโล ราคาไม่แพงนัก แถวนี้เดินทางเข้าเมืองก็ไม่ไกลมาก เดินทางขึ้นภูชี้ฟ้า ก็แค่ชั่วโมงเดียว รถไม่ติด
ที่นี่เป็นบ้านในฝันหลังที่ 2 อย่างที่ตั้งใจไว้ ไม่น่าเชื่อเลยว่า จะดีขนาดนี้ ไปไหนก็สะดวก อากาศดี คุณภาพชีวิตดี คนที่นี่เป็นมิตร และปลอดภัยมาก ๆ จอดรถเสียบกุญแจไว้ เดินไปซื้อของ ไปกดเงิน ก็ยังไม่มีใครมาฉกชิงวิ่งราว
อยู่ที่เชียงราย ไม่มีคำว่าอด ไม่เหมือนอยู่กรุงเทพฯ หากไม่มีเงิน ก็ยังมีผัก มีผลไม้ อยากกินอะไรก็เด็ดเอา ทำเอา หรือแบ่งปันกับข้าวกับเพื่อนบ้าน เรียกว่า อยู่ที่นี่ไม่มีเงินก็ยังมีกิน “ไม่เหมือนกรุงเทพฯ ไม่มีเงินคือ อดตายแน่นอน”

ส่วนที่พัทยา รีสอร์ทที่อยู่ก็คงให้เอเจนท์ช่วยจัดการหาคนมาเช่ารายเดือน หรือรายปี ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีคนพักเต็มตลอดอยู่แล้ว คิดว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งรายได้ที่ดี และเก็บส่วนที่เราเคยอยู่ไว้เหมือนเดิม เพราะยังต้องเดินทางไปทำงานอยู่ทุก ๆ เดือน รวมทั้งคอนโดก็ยังคงเก็บไว้พักอาศัยตอนไปทำงานที่กรุงเทพฯ ถือว่ากำลังดี กับวันที่ต้องเร่งรีบในกรุงเทพฯ
ทุก ๆ ที่ ที่เราอยู่ ค่อนข้างตอบโจทย์ความเป็นตัวเรา ที่ต้องการทั้งความคล่องตัว แต่อยู่แล้วก็ต้องสบายใจด้วย มีพื้นที่ให้ได้อ่านหนังสือ ได้ดื่มกาแฟดี ๆ ค่อย ๆ ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพในทุก ๆ อย่าง ที่สำคัญได้อยู่กับคนที่เรารัก บรรยากาศที่เราชอบ คือบ้านในฝันที่เราร่วมกันสร้างให้มันเกิดขึ้นจริง ๆ ได้ทุกที่
หากคุณมีประสบการณ์ที่อยากบอกเล่า-แชร์ต่อเพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุก ๆ คนที่กำลังตามหาบ้านในฝัน ติดต่อเรา